ทีเส็บ เผยผลสำเร็จโครงการ ART ยกเครื่องงานแสดงสินค้าไทยสู้ศึกอาเซียน เดินหน้าสนับสนุนผู้จัดงานต่อเนื่องถึงปี 2560

พุธ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๐๑๕ ๑๐:๐๕
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ เปิดเผยผลสำเร็จโครงการ ASEAN Rising Trade Show (ART) ในการผลักดันและยกระดับคุณภาพของงานแสดงสินค้าของไทยและเสริมความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมในฐานะศูนย์กลางการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติของภูมิภาค คาดหวังเป้าหมายอุตสาหกรรมไมซ์ปี 2559 ประเทศไทยสามารถต้อนรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์จำนวน 1,060,000 คน สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศ 92,000 ล้านบาท

นายนพรัตน์ เมธาวีกุลชัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า "ในปีที่อาเซียนกำลังก้าวสู่ความเป็นหนึ่งเดียวทางเศรษฐกิจ เราจึงได้ริเริ่มแคมเปญ ASEAN Rising Trade Show หรือ ART เพื่อส่งเสริมความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมการแสดงสินค้าของไทยพร้อมยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมให้แข่งขันได้ในระดับอาเซียน สร้างรายได้เพิ่มจากงานแสดงสินค้า เพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมงานและเข้าชมงานแสดงสินค้าจากภูมิภาคอาเซียน ตลอดจนขยายขีดความสามารถของผู้จัดงานแสดงสินค้า สร้างความแข็งแกร่งให้แก่งานแสดงสินค้านานาชาติของไทยให้มีศักยภาพให้แข่งขันได้ในระดับภูมิภาค"

โครงการ ART มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพอุตสาหกรรมแสดงสินค้านานาชาติของไทยอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับสถานการณ์การแข่งขันทางธุรกิจและอุตสาหกรรมทั้งในอาเซียนและในเอเชีย และเพื่อรองรับความร่วมมือระหว่างประเทศในการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติของภูมิภาคอาเซียน โดยโครงการมีระยะเวลาดำเนินการสนับสนุน 3 ปี ตั้งแต่ปี 2558-2560

"การดำเนินงานในปีแรกของโครงการ ART ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนธันวาคม 2558 นี้ ที่ผ่านมาถือว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมากในการส่งเสริมงานแสดงสินค้านานาชาติของไทยให้ได้รับการสนับสนุนภายใต้โครงการ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนของผู้เข้าร่วมแสดงสินค้าและผู้เข้าชมงานจากนานาชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาเซียนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เพิ่มจำนวนสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตลอดจนช่วยยกระดับมาตรฐานการจัดงาน และส่งเสริมการจัดกิจกรรมการตลาดให้สามารถดึงผู้เข้าร่วมงานที่หลากหลายมากขึ้น อันจะช่วยเสริมศักยภาพให้

งานแสดงสินค้านานาชาติที่ได้รับการสนับสนุนเป็นพื้นที่สื่อกลางในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การสร้างเครือข่ายทาง ธุรกิจ การจัดสัมมนาและคอร์สอบรมต่าง ๆ โดยจากการติดตามในตลอดระยะเวลาทั้ง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา จากงานแสดงสินค้าภายใต้การสนับสนุนของโครงการที่จัดไปแล้ว 10 งานจากทั้งหมด 12 งาน เรามั่นใจว่าโครงการ ASEAN Rising Trade Show ในปีแรกจะประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมายที่วางไว้" นายนพรัตน์ กล่าวเสริม

ความสำเร็จบางส่วนของงานแสดงสินค้าที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการ ART ในปี 2558 ที่ผ่านมา ได้แก่

- จำนวนผู้แสดงสินค้าและจำนวนผู้ชมงานจากต่างประเทศใน 3 ไตรมาส เติบโตเพิ่มขึ้น 75.6% เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเวลาเดียวกันในปี 2557

- จำนวนรายได้จากการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติในประเทศไทยใน 3 ไตรมาส เติบโตเพิ่มขึ้น 72.6% เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงเวลาเดียวกันในปี 2557

- จำนวนผู้ร่วมงานแสดงสินค้า (Exhibitors) และผู้เข้าชมงาน (Visitors) จากประเทศในอาเซียนเพิ่มขึ้น 30%

- ขยายความร่วมมือและเชื่อมโยงธุรกิจให้แก่งานที่ได้รับการสนับสนุนไปยังสมาคมการค้าหลักๆ ในอาเซียนในการเชื่อมโยงธุรกิจเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่งานแสดงสินค้าในระยะยาว ผ่านกลยุทธ์การตลาดรูปแบบต่าง อาทิ การตลาดแบบตรง (Direct Marketing) การตลาดแบบบอกต่อ (Referral Marketing) และการตลาดดิจิตอล (Digital Marketing)

เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ ๆ ทีเส็บยังมีแผนให้การสนับสนุนเพิ่มเติมสำหรับงานแสดงสินค้าที่ได้รับการสนับสนุน การสนับสนุนการผลิตสื่อเพื่อนำเสนอผลงาน (ตามความเหมาะสม) และนำผลงานแคมเปญสำหรับงานที่ได้รับรางวัลส่งเข้าประกวด UFI Awards ซึ่งจัดโดยสมาคมนิทรรศการระดับโลก (UFI) การโปรโมทความสำเร็จของงานแสดงสินค้าที่ได้รับรางวัลในช่องทางสื่อสารของทีเส็บ และการมอบโล่เกียรติยศให้งานแสดงสินค้าที่มีการเติบโตสูงสุดในงานประจำปีของฝ่ายอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติของทีเส็บ

"นอกจากนี้ ทีเส็บยังให้การสนับสนุนจัดงานในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ มุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายธุรกิจ และการสนับสนุนการเชื่อมต่อธุรกิจระหว่างผู้จัดงานและสมาคมการค้า หอการค้า หน่วยงาน และองค์กรเอกชนที่เกี่ยวข้องในประเทศอาเซียน เพื่อสร้างหรือขยายโอกาสทางการตลาดและธุรกิจ ตลอดจนการสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อยกระดับงานแสดงสินค้าให้มีองค์ประกอบที่สามารถดึงดูดทั้งผู้ร่วมงานแสดงสินค้า และผู้เข้าชมงานจากในประเทศและประเทศต่างๆ ในอาเซียน ตลอดจนแนวทางกลยุทธ์อื่น ๆ อย่างต่อเนื่องในการส่งเสริมบทบาทของอุตสาหกรรมการแสดงสินค้าเพื่อผลักดันให้เกิดทั้งความร่วมมือทางเศรษฐกิจภายในอาเซียนและการเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก" นายนพรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ จากผลสำเร็จของการดำเนินโครงการ ART ส่งผลให้จำนวนตัวเลขในปี 2558 มีจำนวนนักเดินทางกลุ่มงานแสดงสินค้าทั้งสิ้น 174,652 คน และมีจำนวนรายได้จำนวน 15,214 ล้านบาท คาดหวังว่าปีหน้าจะเพิ่มจำนวนอย่างต่อเนื่องและสามารถนำไปสู่เป้าหมายอุตสาหกรรมไมซ์ปี 2559 คือประเทศไทยสามารถต้อนรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์จำนวน 1,060,000 คน สร้างรายได้ให้กับประเทศ 92,000 ล้านบาท และในส่วนเป้าหมายของอุตสาหกรรมการแสดงสินค้าคือต้อนรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ 191,000 คน และสร้างรายได้ 15,650 ล้านบาทในปี 2559

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง