การใช้ยาปฏิชีวนะอย่างแพร่หลายทั้งกับคนและสัตว์ในประเทศไทย เป็นปัจจัยเสี่ยงติดเชื้อโรคแทรกซ้อนขณะพักรักษาตัวในโรงพยาบาล

อังคาร ๑๕ ธันวาคม ๒๐๑๕ ๑๗:๓๑
แพทย์หญิงดนยา จันทร์สิงหกุล ผู้อำนวยการแผนกวิจัยและพัฒนาวัคซีนทางคลินิก บริษัท ซาโนฟี่ ปาสเตอร์ เปิดเผยว่า สถิติผู้ติดเชื้อหรือมีโรคแทรกซ้อนขณะพักรักษาตัวในโรงพยาบาลทั่วโลก พบว่ามีอุบัติการณ์ของโรคเกิดขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในปัจจุบันพบว่ามีผู้ติดเชื้อประมาณ 1-3% ของประชากร โดยมีประชากรเป็นพาหะของเชื้อคลอสตริเดียม ดิฟฟิไซล (Clostridium difficile)หรือรู้จักกันในชื่อซีดิฟฟ์ (C. diff) คือ มีเชื้อแบคทีเรียในตัวแต่ยังไม่แสดงอาการของโรค โดยพบมากถึง 25% และ 52% ในผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาล และผู้ที่พักฟื้นในสถานพยาบาล เช่น บ้านพักคนชรา จากรายงานศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคในสหรัฐอเมริกา (U.S. CDC) พบผู้ติดเชื้อซีดิฟฟ์ (C. diff) 500,000 คนต่อปี และ มากกกว่า 1 ใน 5 ของผู้ติดเชื้อจะมีการติดเชื้อซ้ำและเสียชีวิตถึง 29,000 ราย โดยเฉพาะในผู้สูงวัย ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไปถึงร้อยละ 80

แพทย์หญิงดนยา กล่าต่อไปว่า สำหรับสถานการณ์ประเทศไทย ผู้ที่ติดเชื้อหรือมีโรคแทรกซ้อนขณะพักรักษาตัวในโรงพยาบาล หรือโรคติดเชื้อซีดิฟฟ์(CDI) ยังไม่เป็นโรคที่ต้องรายงาน ดังนั้นข้อมูลการติดเชื้อจึงมีจำกัด จากการทบทวนการศึกษา ของโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ที่มีการตรวจหาเชื้อซีดิฟฟ์ ในอุจจาระของผู้ป่วย มีรายงานการพบเชื้อตั้งแต่ 4.8% ถึง 52.2% ทั้งนี้ขึ้นกับวิธีการตรวจ และอายุของผู้ป่วยที่ทำการศึกษา การมีโรคประจำตัว และการใช้ยาปฏิชีวนะ การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า อุบัติการณ์ของโรคและการแพร่กระจายของเชื้อมักขึ้นจากการรักษาตัวในโรงพยาบาล อย่าไรก็ตามอาการที่แสดงของโรค การรักษา ผลของโรคที่พบ รวมถึงปัจจัยเสี่ยง ไม่แตกต่างจากที่พบในประเทศที่พัฒนาแล้ว ดังนั้น การใช้ยาปฏิชีวนะอย่างแพร่หลายทั้งกับคนและสัตว์ในประเทศไทย อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของการติดเชื้อโรคแทรกซ้อนขณะพักรักษาตัวในโรงพยาบาล

การศึกษาวิจัยวัคซีน ชื่อ ซีดิฟเฟนส์ (Cdiffense) เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อหรือโรคแทรกซ้อน ขณะพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ของบริษัท ซาโนฟี่ ปาสเตอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทผู้นำในการผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดของโลก ปัจจุบันโครงการศึกษาวิจัยวัคซีน ซีดิฟเฟนส์อยู่ในระยะที่ 3 ซึ่งเป็นระยะสุดท้ายของการศึกษาวิจัย ทีมวิจัยทำงานร่วมกับอาสาสมัครที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ คลอสตริเดียม ดิฟฟิไซล (C. difficile) เพื่อประเมินความปลอดภัย การตอบสนองภูมิคุ้มกัน และประสิทธิภาพของวัคซีน ซึ่งมีศูนย์วิจัยกว่า 200 แห่งกว่า 20 ประเทศทั่วโลก สำหรับอาสาสมัครที่เข้าร่วมศึกษาวิจัย เป็นผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปและมีแผนจะเข้าพักรักษาในโรงพยาบาล หรือเพิ่งเข้าพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลและเคยได้รับยาปฏิชีวนะในช่วง 1 ปี การศึกษาวิจัยมีแผนจะรับอาสาสมัครจำนวนมากถึง 15,000คน ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นการศึกษาวิจัยในปี พ.ศ. 2561 หลังจากนั้นจึงจะมีการยืนขออนุมัติขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.ในลำดับต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่www.sanofipasteur.com หรือ www.sanofipasteur.url

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน