ฟอร์ดเร่งขยายการวิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่ในรถยนต์ระบบไฟฟ้าเพื่อประโยชน์แก่ลูกค้าทั่วโลก

อังคาร ๒๒ ธันวาคม ๒๐๑๕ ๑๓:๒๖
- ฟอร์ดเร่งขยายการวิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่ทั่วโลกในปีนี้ เพื่อเพิ่มข้อมูลการวิจัยและความสามารถทางวิศวกรรมในยุโรป และเอเชีย รวมถึงความได้เปรียบในการขยายโอกาสทางการตลาดที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น

- ฟอร์ดได้ลงทุน ในการวิจัยที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน ด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์อันล้ำสมัยระดับโลก เพื่อเร่งการวิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่ขั้นสูงนี้

- ฟอร์ดเป็นผู้นำอันดับหนึ่งด้านยอดขายรถยนต์ไฮบริดแบบ plug-in และอันดับสองด้านยอดขายตลาดรถพลังงานไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา และเมื่อเร็วๆ นี้ ฟอร์ดยังได้ขยายเทคโนโลยีดังกล่าวไปยังตลาดที่กำลังเติบโต เช่น จีน ไต้หวัน และเกาหลี

ฟอร์ดมุ่งขยายการวิจัยและพัฒนารถพลังงานไฟฟ้าในทวีปยุโรปและเอเชียในปีนี้ เพื่อสร้างระบบศูนย์กลางการเชื่อมต่อสื่อสาร และอำนวยความสะดวกให้แก่ทีมงานฟอร์ดในการเร่งขยายการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเพื่อเพิ่มความได้เปรียบในการขยายตลาดดังกล่าว

การวิจัยและพัฒนาในครั้งนี้ จะทำให้ทีมงานวิศวกรด้านระบบส่งกำลังเครื่องยนต์ไฟฟ้าของฟอร์ด สามารถแลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านเทคโนโลยีที่เกื้อกูลกัน และทดสอบแบตเตอรี่แบบเรียลไทม์ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้เร็วยิ่งขึ้น และลดการใช้ตัวต้นแบบในการวิจัยที่มีราคาสูง

ฟอร์ดในฐานะผู้นำอันดับหนึ่งด้านยอดขายรถยนต์ไฮบริดแบบ plug-in และอันดับสองด้านยอดขายตลาดรถพลังงานไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา ยังคงมุ่งมั่นในการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีในรถพลังงานไฟฟ้าไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง

ในปีนี้ ฟอร์ดได้ขยายโปรแกรมวิศวกรรมระบบส่งกำลังเครื่องยนต์ไฟฟ้าในเมืองเดียร์บอร์น โดยมีจุดประสงค์เพื่อการพัฒนาความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีแบบใหม่ๆ และล้ำสมัยในรถพลังงานไฟฟ้า โดยฟอร์ดได้ว่าจ้างวิศวกรด้านรถพลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นกว่า 120 คน รวมถึงการย้ายทีมวิศวกรด้านระบบส่งกำลังเครื่องยนต์ไฟฟ้าไปยังสำนักงานปฏิบัติการทางวิศวกรรมของฟอร์ด ซึ่งเป็นสำนักงานเฉพาะที่ฟอร์ดได้ลงทุนสร้างขึ้นเองอีกด้วย

การขยายทีมวิศวกรในครั้งนี้ ทำให้สำนักงานปฏิบัติการทางวิศวกรรมของฟอร์ด สามารถควบคุมดูแลเครือข่ายโรงงานระดับโลกของฟอร์ดทั้งในประเทศจีน สหราชอาณาจักร เยอรมัน และสหรัฐอเมริกา และจากการดูแลสื่อสารผ่านเครือข่ายดังกล่าว ทำให้ทีมวิศวกรของฟอร์ดได้รับประโยชน์จากการเชื่อมต่อเทคโนโลยีทั่วโลก เพื่อพัฒนาแบตเตอรรี่รถพลังงานไฟฟ้าที่มีน้ำหนักเบายิ่งขึ้น และทนทานมากขึ้น

นอกจากนั้น ฟอร์ดยังเร่งการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ในจีนและยุโรป เพื่อขยายไปยังตลาดใหม่ๆในภูมิภาคดังกล่าว โดยการใช้นวัตกรรมอันล้ำสมัยของระบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ที่เรียกว่า HIL หรือ Hardware-in-the-Loop (ระบบต้นแบบจำลอง) ช่วยให้ทีมงานฟอร์ดทั่วโลก สามารถทดสอบเทคโนโลยีของแบตเตอรี่ในระบบควบคุมฮาร์ดแวร์ในบรรยากาศเสมือนจริง เพื่อทดสอบการทำงานของแบตเตอรี่และตัวควบคุมในแต่ละสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันออกไปทั่วโลก

ทั้งนี้ การทดสอบแบตเตอรี่ในอุณหภูมิที่แตกต่างกัน และสภาวะวงจรการชาร์จแบตนั้น คือ สิ่งสำคัญในการกำหนดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ และเพื่อทราบว่าแบตเตอรี่จะเปลี่ยนแปลงและเสื่อมเร็วเพียงใดในแต่ละสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันทั่วโลก

โดยทีมงานฟอร์ดได้ทำการทดสอบแบตเตอรี่ในระดับอุณหภูมิที่หลากหลายมาเป็นเวลากว่าทศวรรษ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนการออกแบบและผลิตอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ และจากการทดสอบนี้เอง ทำให้ฟอร์ดสามารถพัฒนาแบตเตอรี่ที่ทนทานต่อการใช้งานทั้งในสภาวะอุณหภูมิที่หนาวและร้อนจัด

"แบตเตอรี่คือหัวใจสำคัญของรถพลังงานไฟฟ้าทุกรุ่นทุกคัน และฟอร์ดในฐานะผู้นำด้านการวิจัยค้นคว้าและพัฒนาแบตเตอรี่มากว่า 15 ปี ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง" เควิน เลย์เดน ผู้อำนวยการหน่วยงานโครงการรถพลังงานไฟฟ้า กล่าว "ฟอร์ดให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่เรื่อยมา นับตั้งแต่เราได้เปิดตัวรถพลังงานไฟฟ้ารุ่นแรก คือ ฟอร์ด เอสเคป ขี้นเมื่อปี 2547และเรายังคงพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่อย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตั้งในรถพลังงานไฟฟ้ารุ่นต่อไป และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าฟอร์ดต่อไป"

เมื่อไม่นานมานี้ ฟอร์ดได้ขยายเทคโนโลยีดังกล่าวไปยังตลาดที่กำลังเติบโตอื่นๆ อาทิ ในประเทศไต้หวัน ซึ่งฟอร์ดได้เปิดตัว รถฟอร์ด มอนดิโอ ไฮบริด (Mondeo Hybrid) รวมถึง แผนการเตรียมเปิดตัว รถฟอร์ด ซี-แม็กซ์ เอเนอร์จี ระบบไฮบริด แบบplug-in (C-MAX Energi Plug-In Hybrid) และ ฟอร์ด มอนดิโอ ไฮบริด ในประเทศจีน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง
๐๓ พ.ค. มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เดินหน้า โครงการบ้านชื่นสุขสร้างสุขผู้สูงอายุ ตอกย้ำ ความกตัญญู
๐๓ พ.ค. รีเล็กซ์ โซลูชันส์ เผยกลุ่มค้าปลีกและผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยังไม่ใช้ศักยภาพของ AI มากนัก
๐๓ พ.ค. กทม. บูรณาการหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาเด็กเช็ดกระจก-ขายของริมถนน ใช้สหวิชาชีพแก้ปัญหารายครอบครัว