ระบบเคเบิ้ลใต้น้ำจะใช้เทคโนโลยี 100G ของหัวเว่ย มารีน มีระยะทาง 1,200 กิโลเมตร และช่วยพัฒนาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตให้ครอบคลุมทั่วประเทศและมีคุณภาพดีขึ้น และเมื่อผนวกกับศักยภาพของเน็ตเวิร์คที่ได้รับการอัพเกรดสำหรับส่งบริการต่างๆ ที่ต้องใช้แบนด์วิธสูง ระบบเคเบิ้ลใต้น้ำจะทำให้เครือข่ายของ Ooredoo มีศักยภาพที่ดีขึ้น สามารถรองรับความต้องการด้านการสื่อสารที่กำลังเพิ่มมากขึ้นครอบคลุมทั่วทุกเกาะที่กำลังพัฒนา รวมถึงแถบที่ตั้งของรีสอร์ทใหม่ๆ ด้วย
ในระหว่างพิธีเปิดตัวโครงการเคเบิ้ลใต้น้ำแห่งชาติในมัลดีฟส์ของ Ooredoo มร. อูมาร์ นาสเซอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายในประเทศ กล่าวว่า "รัฐบาลมีวิสัยทัศน์อันแรงกล้าที่จะพัฒนามัลดีฟส์ให้เป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าทางด้านดิจิทัลมากที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาค โครงการเคเบิ้ลใต้น้ำแห่งชาติของ Ooredoo จะมีบทบาทสำคัญที่จะช่วยให้วิสัยทัศน์ดังกล่าวเป็นจริงได้ และรัฐบาลขอขอบคุณ Ooredoo ที่ให้การสนับสนุนและนำประโยชน์มากมายของดิจิทัลมาสู่ประชาชนของเรา"
"อินเทอร์เน็ตมีประโยชน์มากมายต่อบุคคล ครอบครัวและธุรกิจทั่วโลก เราจึงเชื่อเหลือเกินว่า ประชาชนแต่ละคนมีสิทธิที่จะเชื่อมต่อ เพื่อประโยชน์อันมากมายมหาศาลของอินเทอร์เน็ต" มร. วิกรม ซิงห์ ประธานกรรมการบริษัท Ooredoo กล่าว "ด้วยความเชื่อมั่นดังกล่าว เราจึงภูมิใจที่โครงการนี้จะมีส่วนช่วยปฏิวัติการเชื่อมโยงชุมชนต่างๆ ของเราเข้ากับอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ อีกทั้งรองรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบดิจิทัล ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใดในมัลดีฟส์"
โครงการเคเบิ้ลใต้น้ำแห่งชาติจะทำให้บทบาทของ Ooredoo ในการมีส่วนร่วมพัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภคด้านโทรคมนาคมของมัลดีฟส์แข็งแกร่งขึ้น และนำพาประเทศไปสู่อนาคตด้านดิจิทัล Ooredoo เป็นผู้นำระดับแถวหน้าของการนำเทคโนโลยีรุ่นล่าสุดของโลกมาสู่ผู้บริโภคในมัลดีฟส์ โดยเป็นผู้นำในการเปิดให้บริการ 2G EDGE, เครือข่าย 3G & 4G LTE อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงบริการธุรกิจใหม่ๆ อาทิ อินเทอร์เน็ตบ้าน และโมบายมันนี่ เคเบิ้ลใต้น้ำจะช่วยให้บริษัทสามารถรองรับปริมาณแทรฟฟิคที่เพิ่มมากขึ้นจากปริมาณการใช้บรอดแบนด์เคลื่อนที่และไฟเบอร์ทูโฮมและทูบิสซิเนสที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างมากอีกด้วย
หัวเว่ย มารีน จะติดตั้งเทคโนโลยีไฟเบอร์ออพติคที่ทันสมัย เพื่อเพิ่มศักยภาพและความยืดหยุ่นของเครือข่าย มร. หม่า เหยียนเฟิง รองประธานของหัวเว่ย มารีน กล่าวว่า "เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมมือกับ Ooredoo เพื่อพัฒนาระบบโครงสร้างสาธารณูปโภคด้านโทรคมนาคมอันทันสมัยให้กับมัลดีฟส์ ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมโยงสะดวกขึ้น และยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้นอีกด้วย โซลูชั่นอันล้ำสมัยของหัวเว่ย มารีน จะยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับผู้ให้บริการโทรคมนาคมระดับโลก ที่จัดหาเครือข่ายเน็ตเวิร์คประสิทธิภาพสูงให้แก่ภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก"
โครงการเคเบิ้ลใต้น้ำทั่วประเทศของ Ooredoo คาดว่าจะติดตั้งเสร็จสมบูรณ์ในราวปลายปี 2559