คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ข้อกล่าวหาตกไป จำนวน 2 เรื่อง

อังคาร ๐๕ มกราคม ๒๐๑๖ ๑๒:๐๘
ในวันนี้ (24 ธันวาคม 2558) เวลา 17.00 น. นายสรรเสริญ พลจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ได้แถลงว่า

1. คำร้องขอให้ถอดถอน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่ง กรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้กองทัพบกสั่งซื้อเรือเหาะในราคาสูงกว่าความเป็นจริง โดยเรื่องนี้จากการไต่สวนปรากฏข้อเท็จจริงว่ากระบวนการจัดหายุทโธปกรณ์ดังกล่าว ได้มีการดำเนินการขออนุมัติแผนจัดหายุทโธปกรณ์สำหรับภารกิจหาข่าว เฝ้าตรวจพื้นที่และเส้นทางในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งการจัดซื้อนั้นได้ทำการจัดซื้อทั้งตัวเรือเหาะและอุปกรณ์ตรวจการ ได้แก่

1. เรือเหาะ Aeros 4oD จำนวน 1 ลำ

2. กล้องตรวจการณ์เวลากลางวัน / กลางคืน Axsys V14 MS II จำนวน 2 กล้อง

3. รถหุ้มเกราะกันกระสุน Grizzy เพื่อใช้เป็นรถ Command Control

4. ชิ้นส่วนซ่อมควบคู่ การบำรุงรักษา การฝึกอบรม การรับประกันชิ้นส่วนที่สำคัญ ระบบการติดต่อสื่อสารตามมาตรฐานของผู้ผลิต และระบบรับ - ส่ง และถ่ายทอดสัญญาณ (Uplink/Downlink)

ดังนั้น จึงทำให้มีมูลค่าสูงกว่าการจัดซื้อเพียงเรือเหาะอย่างเดียว และเรือเหาะที่ทำการจัดซื้อนั้นเป็นกรณีจำเป็นและเร่งด่วน จึงได้ดำเนินการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ และเป็นเรือเหาะที่ผ่านการรับรองจากหน่วยงานผู้รับผิดชอบออกใบอนุญาตรับรองและกำกับดูแลความปลอดภัยของอากาศยานทั้งหมดของสหรัฐอเมริกา ซึ่งหลังจากทำการจัดซื้อแล้วได้มีการใช้งานมาระยะหนึ่ง แต่เนื่องจากสภาพภูมิประเทศและอากาศมีฝนตกชุก จึงได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนอุปกรณ์เปลือกนอกของเรือเหาะ เพื่อเพิ่มคุณภาพจากมาตรฐานเดิมให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งกรณีดังกล่าวนี้ จากการไต่สวนไม่ปรากฏพฤติการณ์หรือพยานหลักฐานว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับการบริหารราชการ ในสังกัดกระทรวงกลาโหมในขณะนั้น มีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยการปล่อยให้กองทัพบกสั่งซื้อเรือเหาะ ในราคาที่สูงกว่าความเป็นจริงตามข้อกล่าวหาแต่อย่างใด

คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงมีมติให้ข้อกล่าวหาตกไป

2. กรณีกล่าวหา นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี กรณีปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติต่อหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตกรณีจ่ายเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ต้องขังคดีอาญา ที่มีลักษณะเกี่ยวเนื่องกับ ความขัดแย้งทางการเมือง ใช้เป็นหลักประกันการปล่อยตัวชั่วคราว

เรื่องนี้คณะอนุกรรมการไต่สวนได้ดำเนินการไต่สวนแล้ว ปรากฏข้อเท็จจริงว่าในการจ่ายเงินนั้นได้มีการนำเงินกองทุนยุติธรรมมาใช้ดำเนินการโดยเป็นไปตามข้อเสนอแนะคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ แต่ปรากฏว่าเงินงบประมาณกองทุนยุติธรรมมีจำกัดไม่เพียงพอต่อการดำเนินการ จึงได้ของบประมาณเพิ่มเติมจากงบกลางรายการเงินสำรองเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นมาใช้ในการดำเนินการ ซึ่งทั้งนี้เป็นไปตามมาตรา 19 และมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติวิธีงบประมาณ พ.ศ.2502 ประกอบกับการนำเงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ได้มีการปฏิบัติเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติกรณีการขออนุมัติใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามหนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร 0704/195 ลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2552 แล้ว และในการจ่ายงบประมาณเพื่อเป็นหลักประกันในครั้งนี้ได้มีการนำไปช่วยเหลือผู้ต้องขังคดีอาญาที่มีลักษณะเกี่ยวเนื่องกับความขัดแย้งในทางการเมือง มิได้เฉพาะเจาะจงกลุ่มการเมืองกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพราะมีทั้ง นปช. และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต่างก็ได้รับเงินสนับสนุนเพื่อใช้ในการปล่อยชั่วคราวดังกล่าวนี้ด้วย และการประกันตัวผู้ต้องขังต้องผ่านการพิจารณาจากศาล ที่อนุญาตให้ประกันตัวและกำหนดวงเงินไว้ จากนั้น ต้องผ่านคณะกรรมการกองทุนยุติธรรมตามหลักเกณฑ์ ของระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยกองทุนยุติธรรม พ.ศ.2553 และระเบียบคณะกรรมการบริหารกองทุนยุติธรรมว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการสนับสนุนหลักทรัพย์เป็นหลักประกันในการปล่อยชั่วคราว พ.ศ.2554 ก่อน จึงจะสามารถนำเงินงบประมาณมาใช้เป็นหลักประกันตัวได้ และหลังจากได้รับการประกันตัวแล้ว คณะกรรมการบริหารกองทุนยุติธรรมยังได้กำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมจากที่มีในระเบียบฯ เมื่อได้รับการปล่อยชั่วคราวแล้วต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาลในการรายงานตัวตามกำหนดนัด หากสัญญาประกันของศาลสิ้นสุดลง กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพจะได้ดำเนินการขอรับหลักประกันคืนจากศาลต่อไป หากผู้ต้องขังหลบหนีจนเป็นเหตุให้ศาล มีคำสั่งริบประกันผู้ค้ำประกันจะต้องรับผิดทางแพ่ง ชดใช้เงินตามหลักประกันที่กองทุนยุติธรรมให้การสนับสนุน แก่ผู้ต้องขังกรณีดังกล่าวนี้จึงไม่ปรากฏว่าก่อให้เกิดความเสียหายแต่อย่างใด

คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงมีมติให้ข้อกล่าวหาตกไป แต่ให้แจ้งกระทรวงยุติธรรมติดตามเรื่องเงินที่ผู้ต้องหาหลบหนีให้กลับคืนมาเป็นของทางราชการด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน