“Thailand Halal Assembly 2015” งานฮาลาลใหญ่สุดในอาเซียนรัฐบาลตั้งเป้า ส่งเสริมธุรกิจและการค้าฮาลาล ก้าวขึ้นสู่อันดับหนึ่งในห้า ภายใน พ.ศ.2562

พุธ ๐๖ มกราคม ๒๐๑๖ ๑๗:๐๑
ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และสถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวิชาการและการแสดงสินค้านานาชาติ "Thailand Halal Assembly 2015" เพื่อแสดงถึงวัฒนธรรมและนวัตกรรมฮาลาล เพื่อเศรษฐกิจฮาลาล เศรษฐกิจไทยรุ่งเรือง โดยรัฐบาลตั้งเป้า ส่งเสริมธุรกิจและการค้าฮาลาล ก้าวขึ้นสู่อันดับหนึ่งในห้า ภายใน พ.ศ.2562 ซึ่งงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-27 ธันวาคม 2558 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่ารายได้หลักของไทยสองส่วนหลักที่โลกมุสลิม หรือตลาดฮาลาล มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างสำคัญคือการส่งออกและการท่องเที่ยว โดยปี2557 การส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาลมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 29,580 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.6จากปี 2556 ขณะที่ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558 มีมูลค่า 20,476 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัวลงร้อยละ 6.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งในส่วนของการส่งออกอาหารฮาลาลของไทยไปยังกลุ่ม OIC ในปี 2557 มีจำนวน5,095 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 17.2 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารของไทยทั้งหมด มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.6 จากปี 2556 แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวของตลาดฮาลาลสำหรับประเทศไทย ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาลไปยังกลุ่มประเทศ OIC เป็นอันดับที่ 12 ต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน ได้แก่อินโดนีเซีย (อยู่ในอันดับที่ 7) และมาเลยเซีย (อยู่ในอันดับที่ 11) ซึ่งตามยุทธศาสตร์การส่งเสริมธุรกิจและการค้าฮาลาลของรัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะก้าวขึ้นสู่อันดับที่หนึ่งภายในปี พ.ศ.2562

รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานการจัดงาน "Thailand Halal Assembly 2015" กล่าวว่า "หลังจากประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงจากการจัดงานThailand Halal Assembly เมื่อปีก่อน ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และสถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย จึงร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวิชาการและการแสดงสินค้านานาชาติ ขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 2 ในชื่องาน "Thailand Halal Assembly 2015" เพื่อแสดงถึงวัฒนธรรมและนวัตกรรมฮาลาล เพื่อเศรษฐกิจฮาลาล เศรษฐกิจไทยรุ่งเรือง พร้อมทั้งศักยภาพของกิจการฮาลาลประเทศ ไทย ให้ประชาคมโลกได้รับรู้"

โดยภายในงานประกอบด้วยนิทรรศการดิจิตอลวิทยาศาสตร์ฮาลาล, นิทรรศการจำลองห้องปฏิบัติการ,การจับคู่เจรจาทางธุรกิจฮาลาล รูปแบบใหม่, การประชุมองค์กรรับรองฮาลาลนานาชาติ, งานประชุมวิชาการนานาชาติด้านวิทยาศาสตร์อุตสาหกรรมและธุรกิจ ครั้งที่ 8 (HASIB 8th), การเสวนาในหัวข้อต่างๆ โดยนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์จากประเทศเยอรมัน สวิตเซอร์แลนด์ และประเทศยุโรปอื่นๆ, การแสดงศิลปวัฒนธรรมมุสลิมอีกมากมาย และงานแสดงสินค้า Halal Expo ซึ่งได้รวบรวมสินค้าผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาลทั้งไทยและต่างประเทศกว่า 200 บูท ทั้งในเอเชีย แอฟริกา ยุโรป อเมริกา ให้ผู้ร่วมงานได้เลือกซื้อ ต่อยอดตลาดโลกอาหารฮาลาลที่เดิมสูงถึง 1.2 ล้านล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐในปีที่ผ่านมา ให้มียอดการส่งออกที่สูงขึ้นต่อไปพร้อมไฮไลท์พิเศษ คือ การเปิดตัวฐานข้อมูลวัตถุดิบฮาลาลใช้ชื่อว่า H4E หรือ Halal Number for E Numberเป็นการเพิ่มฐานข้อมูล Halal number เพื่อเป็นช่องทางในการตัดสินใจของผู้ประกอบการที่ต้องการวัตถุดิบฮาลาล

งานครั้งนี้ยังมุ่งหวังที่จะเผยแพร่องค์ความรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีเรื่องฮาลาล ให้ฮาลาลเป็นแหล่งรายได้สำคัญของเศรษฐกิจประเทศไทย อีกทั้งเพื่อประชาสัมพันธ์การพัฒนางานด้านวิจัย เทคโนโลยี และงานด้านนวัตกรรม สร้างความเชื่อมั่นต่อคุณภาพและมาตรฐานสินค้าฮาลาลของประเทศไทย ให้สมกับ Thailand Diamond Halal เป็นที่หนึ่งในโลก เพราะเมื่อพิจารณาจากความเป็นจริงแล้วฮาลาลไม่ใช่เฉพาะอาหาร ผลิตภัณฑ์หรือบริการ สำหรับมุสลิมเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของมวลมนุษย์ทุกคน ทั้งนี้เพราะผลิตภัณฑ์ฮาลาล นอกจากถูกต้องตามหลักศาสนบัญญัติแล้ว ยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย อันมีผลทำให้ผู้บริโภคได้ผลิตภัณฑ์ สินค้า และบริการที่ดีที่สุด ถ้าพูดถึงการส่งออกผลิตภัณฑ์ฮาลาลในภาวะการณ์ปัจจุบัน มีส่วนในการยกระดับผลิตภัณฑ์โดยรวมของประเทศ ซึ่งจากตรงจุดนี้เอง เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาฯ ได้จัดโครงการเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ฮาลาลที่ไม่ใช่มุสลิมขึ้น ซึ่งมีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการนี้ถึง 4,000 ราย แสดงให้เห็นว่าการผลิตสินค้าที่มีตรารับรองมาตรฐานฮาลาลถือเป็นสิ่งสำคัญ ในปัจจุบันที่ผู้บริโภคต้องการ และยังเป็นโอกาสดีในการเพิ่มรายได้เข้าสู่ประเทศ เป็นแหล่งรายได้สำคัญทางเศรษฐกิจทั้งเรื่องการส่งออกและการท่องเที่ยวอีกด้วยรศ.ดร.วินัย กล่าวปิดท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง
๐๓ พ.ค. มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เดินหน้า โครงการบ้านชื่นสุขสร้างสุขผู้สูงอายุ ตอกย้ำ ความกตัญญู
๐๓ พ.ค. รีเล็กซ์ โซลูชันส์ เผยกลุ่มค้าปลีกและผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยังไม่ใช้ศักยภาพของ AI มากนัก
๐๓ พ.ค. กทม. บูรณาการหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาเด็กเช็ดกระจก-ขายของริมถนน ใช้สหวิชาชีพแก้ปัญหารายครอบครัว