“จาร์เค็น” สบช่องตลาดเมียนมาร์คึกคัก รองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจรัฐบาลชุดใหม่ เร่งเครื่องสร้างการรับรู้แบรนด์ พร้อมขยายฐานลูกค้ากลุ่ม AEC

พฤหัส ๐๗ มกราคม ๒๐๑๖ ๑๑:๒๖
จาร์เค็นฯเผยเทรนด์ออกแบบปี59 ลูกค้าเมียนม่าร์สนใจสไตล์โมเดิร์นลักชัวรี่มากขึ้น ทั้งเตรียมขยายฐานตลาดครอบคลุมAEC โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV พร้อมนำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หวังสร้างการรับรู้แบรนด์-บริการงานด้านดีไซน์ครบวงจร แย้มวันที่ 6-8 ตุลาคม 2559 ร่วมออกบู๊ธงาน "บิลด์ แอนด์ เดคคอร์" ณ เมียนมาร์ อีเวนท์ พาร์ค(MEP) ตั้งเป้า 30 ล้านบาท มั่นใจยอดขายทั้งกลุ่มปีนี้แตะ 400 ล้านบาท คาดปี59 เพิ่มเป็น 450 ล้านบาท

นางสาวสิริทร สิทธิวัฒนาวงศ์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท จาร์เค็น จำกัด เปิดเผยถึงเทรนด์การออกแบบตกแต่งในปี 2559 ว่า มีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่ผู้บริโภคจะชื่นชอบการออกแบบในสไตล์ โมเดิร์นคลาสสิค แต่ปัจจุบันหันมาสนใจการออกแบบสไตล์โมเดิร์นลักชัวรี่ และเพื่อเป็นการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รับรู้ บริษัทฯจึงมีแผนที่จะขยายตลาดเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมตลาด AEC โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม) รวมไปถึงเตรียมความพร้อมนำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อขยายการลงทุน ให้รองรับการให้บริการด้านงานดีไซน์อย่างครบวงจร

สำหรับการขยายฐานไปตลาดต่างประเทศนั้น ในช่วงระหว่างวันที่ 6-8 ตุลาคม 2559 บริษัทฯมีแผนไปร่วมออกบู๊ธในงาน "บิลด์ แอนด์ เดคคอร์" ณ เมียนมาร์ อีเวนท์ พาร์ค(MEP) เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งเป็นการรวมผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม และศูนย์การค้า รวมถึงนักลงทุนชาวเมียนมาร์ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯสามารถขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น เป็นการเปิดตลาดใหม่ ๆ ให้ชาวเมียนมาร์ได้รู้จัก จาร์เค็น ในการนำเสนองานออกแบบที่ล้ำสมัยออกสู่สายตาชาวเมียนมาร์ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีมาก และได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานเป็นอย่างสูงเนื่องจากในตลาดเมียนมาร์เองยังไม่มีบริษัทออกแบบระดับสากลที่ให้บริการอย่างครบวงจรมาก่อน โดยงาน"บิลด์ แอนด์ เดคคอร์" ที่ผ่านมาบริษัทฯสามารถปิดการขายจากชาวเมียนมาร์ โดยมูลค่าการขายอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านบาท

"การที่กลุ่มลูกค้าในเมียนมาร์ให้ความสนใจผลงานของจาร์เค็น เพราะในประเทศเมียนมาร์ กลุ่มแรงงาน ยังขาดประสบการณ์ด้านงานฝีมือทั้งในด้านการก่อสร้างและตกแต่งภายใน ขณะที่ประเทศไทยมีแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญ และฝีมือประณีต อีกทั้งจาร์เค็นเอง ยังมีจุดแข็งในด้านของการให้บริการที่ครบวงจร ที่ผ่านมางานที่บริษัทฯได้มาจะเป็นงานออกแบบ และตกแต่งภายใน บ้านพักอาศัย และคอนโดฯ ซึ่งการที่ลูกค้าชาวเมียนมาร์หันมาสนใจการออกแบบสไตล์โมเดิร์นลักชัวรี่มากขึ้นนั้น เพราะเริ่มเปิดรับอิทธิพลจากตะวันตกมากขึ้น อีกทั้งเป็นกลุ่มที่มีการศึกษาสูง ทำให้มีไลฟ์สไตล์และความต้องการที่เปลี่ยนไป คาดว่าในงาน "บิลด์ แอนด์ เดคคอร์" บริษัทฯจะสามารถปิดยอดขายได้ประมาณ 30 ล้านบาท" นางสาวสิริทร กล่าว

อย่างไรก็ตามในปี2558 คาดว่าทั้งกลุ่มจาร์เค็นฯจะมียอดขายรวมอยู่ที่ 400 ล้านบาท และ ในปี 2559 ทั้งกลุ่มจะมีรายได้รวม 450 ล้านบาท แบ่งยอดขายจากต่างประเทศ 20% และในประเทศ 80%

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๐ เม.ย. COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๓๐ เม.ย. GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๓๐ เม.ย. PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๓๐ เม.ย. LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๓๐ เม.ย. ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๓๐ เม.ย. ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๓๐ เม.ย. LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๓๐ เม.ย. SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๓๐ เม.ย. STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๓๐ เม.ย. กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน