รัฐมนตรีเกษตรฯไทย - ฟิจิ ถกแผนเดินหน้าความร่วมมือการเกษตรหลังตั้งคณะทำงานของสองประเทศภายใต้เอ็มโอยู ไทยเล็งรับวิชาการปรับปรุงพันธุ์มะพร้าวเสริมจุดแข็ง ชี้ไทยพร้อมเป็นฮับกระจายสินค้าฟิจิในอาเซียน

อังคาร ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๖ ๐๙:๕๐
พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับ นายไอเนีย เซรูอิราตู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร การพัฒนาชนบทและทะเล และการจัดการภัยพิบัติแห่งชาติฟิจิ ณ กระทรวงเกษตร การพัฒนาชนบทและทะเลฯ ว่า ตามที่ไทยและฟิจิ ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตรไปเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2558 แล้วนั้น การพบปะหารือกันในครั้งนี้ถือเป็นการเริ่มต้นความร่วมมือระหว่างกันอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นประโยชน์ในด้านการพัฒนาการเกษตร การค้าและการลงทุนของทั้งสองประเทศในอนาคต ซึ่งประเด็นสำคัญที่ได้หารือร่วมกันในครั้งนี้ประกอบด้วย 3 ประเด็นหลัก คือการแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านวิชาการเกษตรระหว่างกัน โดยทั้งสองฝ่ายจะทำงานร่วมกันภายใต้ คณะทำงานร่วมด้านเกษตรของสองประเทศ ซึ่งฝ่ายไทย มีรองปลัดกระทรวงเกษตรฯ (นายศักดิ์ชัย ศรีบุญซื่อ) เป็นประธานโดยมีการประชุมทุกๆ 2 ปี

สำหรับประเด็นเบื้องต้นที่ทั้งสองฝ่ายสนใจ ได้แก่ ฝ่ายไทยสนใจความร่วมมือด้านวิชาการในเรื่องมะพร้าว เพราะฟิจิเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าในด้านการผลิตมะพร้าว เทคโนโลยีการเพาะกล้าพันธุ์และการปลูกมะพร้าวอินทรีย์ รวมถึงระบบการจัดทำพันธุกรรมมะพร้าว ซึ่งการร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมะพร้าวและอุตสาหกรรมกรรมแปรรูปมะพร้าวของไทยให้เพียงพอต่อความต้องการบริโภคได้ ขณะที่ฝ่ายฟิจิสนใจเกี่ยวกับความร่วมมือทางวิชาการด้านเกษตรในเรื่องการจัดการดิน และการปลูกพืช เช่น ข้าว พืชไร่ เป็นต้น รวมถึงการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อย และน้ำตาล ซึ่งประเทศไทยยินดีพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนและสนับสนุนวิชาการที่ฝ่ายฟิจิเสนอ

ประเด็นที่ 2 คือ การเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าเกษตรระหว่างกัน โดยประเทศไทยสามารถเป็นฐานการกระจายสินค้า (HUB) ในการกระจายสินค้าจากฟิจิไปยังประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียน ซึ่งมีประชากรมากกว่า 600 ล้านคน ขณะที่ฟิจิเองเป็นศูนย์กลางของประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก ดังนั้น หากไทยและฟิจิช่วยผลักดันสินค้าเกษตรของกันและกันไปยังประเทศที่ 3 จะเป็นโอกาสอันดีในการสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจให้กับทั้งสองประเทศเพิ่มมากขึ้น

ประเด็นสุดท้ายที่จะมีความร่วมมือระหว่างกัน คือ การสนับสนุนและช่วยเหลือกันในเวทีระหว่างประเทศ เนื่องจากประเทศไทยและฟิจิเป็นสมาชิกองค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร การค้า และมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร เหมือนกันในหลายองค์กรทั้ง FAO, WTO, Codex และ ESCAP ดังนั้น การร่วมเป็นพันธมิตร จะเป็นการสนับสนุนซึ่งกันและกันในองค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายในการแลกเปลี่ยนข้อมูล และการสนับสนุนเสียงระหว่างกันในเวทีนานาชาติ

อย่างไรก็ตาม รายละเอียดการดำเนินการหลังจากนี้ คณะทำงานของสองประเทศที่ได้มีการแลกเปลี่ยนรายชื่อกันในครั้งนี้ จะเป็นกลไกผลักดันความร่วมมือจะร่วมกันดำเนินการตามข้อตกลงต่างๆ ใน MOU ให้บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งในเรื่องการแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการและเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งการประชุมครั้งแรกนั้นประเทศไทยยินดีที่จะรับเป็นเจ้าภาพในการประชุมนัดแรกด้วย

จากนั้นในช่วงบ่ายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ของไทยได้เยี่ยมชมหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ฟิจิ ตลาดกลางสินค้าเกษตร และบริษัทผู้ผลิตสินค้าเกษตรของฟิจิครั้งนี้มีด้วยกัน 3 แห่ง ได้แก่ บริษัท ฟู้ดส์ แปซิฟิก จำกัด ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านการแปรรูปทูน่าและผลิตภัณฑ์ทูน่าอื่นๆ และบริษัท แปซิฟิก ฟีดส์ (Pacific Feeds) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอาหารสัตว์ชั้นนำของฟิจิ โดยมีตลาดต่างประเทศสำคัญ เช่น เอเชีย แปซิฟิก อเมริกาเหนือ และยุโรปเหนือ ตลาดกลางสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมสินค้าเกษตรที่สำคัญของฟิจิ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว เพื่อศึกษาแนวทางการจัดการตลาด และการแปรรูปสินค้าเกษตรระหว่างกันหน่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ กองวิจัย สังกัด กระทรวงเกษตรฯ ฟิจิ เพื่อหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนาที่ฟิจิและไทยมีความสนใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับการประชุมคณะทำงานร่วมด้านการเกษตรระหว่างไทยและฟิจิอีกด้วย

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจการค้าสินค้าเกษตรระหว่างไทย-ฟิจิ พบว่า ในช่วงปี พ.ศ.2556 - 2558 ไทยและฟิจิมีมูลค่าการค้าสินค้าเกษตร เฉลี่ยปีละ 660 ล้านบาท โดยฟิจิ เป็นประเทศคู่ค้าสินค้าเกษตรกับประเทศไทยอันดับที่ 95 ของไทย มีสัดส่วนการค้าสินค้าเกษตรร้อยละ 0.4 ของมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรของไทยกับโลก สินค้าส่งออกที่สำคัญประกอบด้วย ข้าว อาหารปรุงแต่ง และน้ำตาล และมีมูลค่าการนำเข้าสินค้าเกษตร เฉลี่ยปีละ 243 ล้านบาท สินค้านำเข้าที่สำคัญประกอบด้วย สินค้าประมงสดและแปรรูป แช่เย็น แช่แข็ง ไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้ากับฟิจิมาโดยตลอด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน