ดัชนีเชื่อมั่นทองส่งสัญญาณบวกต่อ เก็งกำไรราคาทองหลังตรุษจีนบวกเกิน 10%

อังคาร ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๖ ๑๔:๒๕
ศูนย์วิจัยทองคำเผยดัชนีเชื่อมั่นทองคำเดือน ก.พ. 59 สะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อทองคำในประเทศเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน โดยดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.08 จุด มาอยู่ที่ระดับ 59.59 จุด ผู้ค้าและผู้ลงทุนเชื่อแรงซื้อเก็งกำไรหนุนราคาหลังราคาทองคำต้นปีบวกมากกว่า 10% ขณะที่ราคาซื้อขายทองในประเทศปรับลดลง เป็นผลจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของตลาดทุนโลก และราคาน้ำมันดิบ

นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยความเชื่อมั่นราคาทองคำเดือนกุมภาพันธ์ยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อน โดยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.08 จุด สู่ระดับ 59.59 จุด ดัชนียังอยู่เหนือระดับ 50 จุด ซึ่งเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน ในการจัดเก็บข้อมูลเราพบว่ากลุ่มตัวอย่างค่อนข้างจะเชื่อว่าตลาดทองคำจะมีแรงซื้อเก็งกำไรหลังจากที่ราคาปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ขณะที่ตลาดหุ้นยังผันผวนประกอบกับความเสี่ยงในเศรษฐกิจโลกอย่างวิกฤตเศรษฐกิจจีนรวมถึงการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยมุมมองดังกล่าวสอดคล้องกันทั้งกลุ่มผู้ค้าทองคำและกลุ่มผู้ลงทุนทองคำ ด้านการตอบแบบสอบถามเรื่องความต้องการซื้อทองคำในช่วง 1 เดือนข้างหน้าพบว่าสัดส่วนผู้ที่คิดจะซื้อทองคำในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ยังมีสัดส่วนค่อนข้างสูงประมาณ 40% ของกลุ่มตัวอย่าง ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในระยะสามเดือนข้างหน้าปรับตัวลดลงจากเดือนก่อน โดยลดลง 9.19 จุดมาอยู่ที่ระดับ 53.24 จุด เนื่องจากกลุ่มตัวอย่างเชื่อว่าราคามีการปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่อง ทำให้ราคาทองอาจจะเริ่มทรงตัว

บทสรุปความคิดเห็นผู้ค้าทองคำ (Gold Trader Consensus) จากผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ ผู้ค้าส่งทองคำ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 8 ตัวอย่าง พบว่าผู้ค้าส่วนใหญ่เชื่อว่าราคาทองคำในประเทศเฉลี่ยเดือนกุมภาพันธ์ 2559 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดือนก่อนสอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ โดยมีผู้ค้า 5 รายมองทองคำเฉลี่ยทองคำในประเทศจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 1 รายมองราคาทองเฉลี่ยจะใกล้เคียงกับเดือนมกราคม และมี 2 รายที่เชื่อว่าราคาทองคำเฉลี่ยจะปรับตัวลดลงในเดือนกุมภาพันธ์

โดยผู้ค้ามองว่าราคาทองคำในตลาดโลกน่าจะมีกรอบราคาสูงสุดอยู่ระหว่าง 1,160-1,180 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวของราคาต่ำสุดอยู่ที่ 1,080-1,120 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ สำหรับราคาทองคำแท่งในประเทศ (ความบริสุทธิ์ 95.5%) กลุ่มตัวอย่างให้น้ำหนักราคาสูงสุดที่ 19,500-20,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ และกรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดอยู่ที่ 18,000-18,500 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ

นายกมลธัญ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการอ่อนตัวลงของตลาดทองคำในช่วงต้นสัปดาห์เกิดจากสองปัจจัยหลักด้วยกัน ประการแรกเราจะเห็นว่าตลาดทุนโลกเริ่มมีการฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้นหนุนดัชนีหลักทรัพย์หลายประเทศ ซึ่งทองคำกับตลาดหุ้นวิ่งสวนทางกันตั้งแต่ช่วงต้นปีในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ทองคำจะปรับตัวลดลงในช่วงที่ตลาดหุ้นเริ่มฟื้นตัวได้ดี ประการที่สองทองคำได้รับแรงกดดันจากปัจจัยทางเทคนิคหลังจากที่ราคาปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากระดับต้นปีใกล้ 1,065 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ มาใกล้ระดับ 1,260 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ซึ่งปกติก็มักจะมีการย่อตัวจากการขายทำกำไรและราคาอาจจะมีการย่อตัวลงประมาณ 30-40% ของช่วงที่ขึ้นไป ซึ่งเป็นธรรมชาติของตลาด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน