ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 เมื่อครั้งที่มีการเปิดตัวโทรศัพท์พร้อมกล้องในตัวรุ่นแรก จำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือได้เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า และภายในปี 2563 จะมีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ5.5 พันล้านคน หรือเท่ากับ 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลก[1] ตามรายงานดัชนีเครือข่าย Cisco Visual Networking Index™ (VNI) สำหรับการคาดการณ์แทรฟฟิกข้อมูลโมบายล์ทั่วโลก (ปี พ.ศ. 2558 ถึง พ.ศ. 2563) การปรับใช้อุปกรณ์พกพา ความครอบคลุมที่เพิ่มขึ้นของเครือข่ายโมบายล์ และความต้องการสำหรับเนื้อหาโมบายล์คอนเทนต์ เป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้จำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้นในอัตราที่รวดเร็วกว่าการเพิ่มขึ้นของประชากรโลกถึง 2 เท่าใน 5 ปีข้างหน้า การเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์อัจฉริยะหรือสมาร์ทดีไวซ์ และเครือข่าย 4G จะทำให้แทรฟฟิกข้อมูลโมบายล์เพิ่มขึ้น 8 เท่าใน 5 ปีข้างหน้า
อุปกรณ์พกพาอัจฉริยะและการเชื่อมต่อ[2] คาดว่าจะครองสัดส่วน 72 เปอร์เซ็นต์ของอุปกรณ์พกพาและการเชื่อมต่อทั้งหมดภายในปี พ.ศ. 2563 เพิ่มขึ้นจาก 36 เปอร์เซ็นต์ในปี 2558 และคาดว่าอุปกรณ์อัจฉริยะจะก่อให้เกิด 98 เปอร์เซ็นต์ของแทรฟฟิกข้อมูลโมบายล์ภายในปี พ.ศ. 2563 จากมุมมองของชนิดอุปกรณ์ พบว่าสมาร์ทโฟนครองส่วนแบ่งสูงสุดของแทรฟฟิกโมบายล์ โดยจะคิดเป็นสัดส่วน 81เปอร์เซ็นต์ของแทรฟฟิกโมบายล์ทั้งหมดภายในปี พ.ศ. 2563 เพิ่มขึ้นจาก 76 เปอร์เซ็นต์ในปี พ.ศ.2558 ความแพร่หลายของโทรศัพท์มือถือ รวมถึง "ฟาเบล็ต" (Phablet - อุปกรณ์ที่รวมฟีเจอร์ของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเข้าไว้ด้วยกัน) มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ(5.4 พันล้านคน) จะเพิ่มขึ้นจนมีจำนวนมากกว่าผู้ใช้ไฟฟ้า (5.3 พันล้านคน), ผู้ใช้น้ำประปา (3.5 พันล้านคน) และรถยนต์ (2.8 พันล้านคน) ภายในปี พ.ศ. 2563
โมบายล์วิดีโอ จะมีอัตราการเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับโมบายล์แอพพลิเคชั่นอื่นๆ ความต้องการของผู้บริโภคและผู้ใช้ในองค์กรธุรกิจสำหรับวิดีโอที่มีความละเอียดสูงขึ้น แบนด์วิธมากขึ้น และความเร็วในการประมวลผล จะทำให้การใช้อุปกรณ์เชื่อมต่อ 4G เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย สัดส่วนของการเชื่อมต่อ 4Gคาดว่าจะแซงหน้า 2G ภายในปี พ.ศ. 2561 และแซงหน้า 3G ภายในปี พ.ศ. 2563 โดย 4G จะครองส่วนแบ่งมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของโมบายล์แทรฟฟิกทั้งหมด และการเชื่อมต่อ 4G จะก่อให้เกิดแทรฟฟิกต่อเดือนมากกว่าการเชื่อมต่อที่ไม่ใช่ 4G เกือบ 6 เท่าเลยทีเดียว
นายดั๊ก เว็บสเตอร์ รองประธานฝ่ายการตลาดสำหรับผู้ให้บริการของซิสโก้ กล่าวว่า "ขณะที่ผู้คนและสิ่งต่างๆ หลายพันล้านชิ้นถูกเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายเพิ่มมากขึ้น โมบิลิตี้จึงกลายเป็นสื่อกลางที่รองรับการปฏิรูปดิจิตอลทั่วโลกในปัจจุบัน และจะต้องมีการพัฒนานวัตกรรมโมบายล์ในอนาคตในด้านเซลลูลาร์ เช่น โซลูชั่น 5G และ Wi-Fi เพื่อรองรับข้อกำหนดใหม่ๆ ปัญหาเรื่องความปลอดภัย และความต้องการของผู้ใช้ ความก้าวหน้าของ IoT จะยังคงขับเคลื่อนคุณประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมสำหรับผู้คน องค์กรธุรกิจ และสังคม"
นาย วัตสัน ถิรภัทรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิสโก้ ประเทศไทย และภูมิภาคอินโดจีน กล่าวว่า "การใช้งานสมาร์ทโฟนยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปีที่แล้วมากกว่า 60 เปอเซ็นต์ของประชากรไทยเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟน และปีนี้ 4G จะเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มขึ้นของการใช้โมบายล์อินเทอร์เน็ต (Mobile Internet Usage) ขณะที่ความต้องการของแบนด์วิดธ์ข้อมูลและวิดีโอยังคงเพิ่มขึ้นในแต่ละปี และเป็นปัจจัยให้โอเปอเรเตอร์ และเซอร์วิสโพรวายเดอร์ต้องวางแผนขยายเครือข่าย ขณะเดียวกันยังต้องสามารถรับมือกับความหลากหลายของโมบายล์ดีไวซ์ที่เพิ่มขึ้นได้ ขณะที่ผู้ให้บริการยังคงลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน (CAPEX) อย่างต่อเนื่อง ผู้ให้บริการยังคงต้องคำนึงถึงการใช้ประโยชน์จากวิดิโอแทรฟฟิกให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะการให้บริการโมบายล์ดาต้า (Mobile Data Services)ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบัน"