วว.โชว์ผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืชจากสารสกัดเมล็ดมันแกวกู้วิกฤตเกษตรกรไทย

จันทร์ ๓๑ มกราคม ๒๐๐๕ ๑๑:๔๗
กรุงเทพฯ--31 ม.ค.--วว.
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประสบความสำเร็จในการวิจัยและพัฒนาสารสกัดธรรมชาติ “ผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืชจากสารสกัดเมล็ดมันแกว” สามารถกำจัดหนอนกระทู้ในผัก หนอนใยผักและแมลงอื่นๆ ได้กว่า 90% ระบุไม่ก่อให้เกิดสารพิษตกค้างในพืชและสิ่งแวดล้อม ช่วยลดการใช้สารเคมีของเกษตรกรอย่างมีประสิทธิภาพ
นางสาวสุมาลัย ศรีกำไลทอง รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนา วว. กล่าวชี้แจงว่า แมลงศัตรูพืชนับเป็นปัญหาสำคัญต่อการทำเกษตรกรรมของเกษตรกร ซึ่งการป้องกันและกำจัดศัตรูพืชนั้น จำเป็นต้องพึ่งวัตถุมีพิษทางการเกษตร อันได้แก่ ยาฆ่าแมลง ที่มีราคาแพงและต้องนำเข้าจากต่างประเทศ อีกทั้งการใช้สารดังกล่าวเป็นระยะเวลานาน จะส่งผลก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น เป็นพิษต่อคนและสัตว์ ทำให้เกิดการดื้อยาของแมลง และยังทำลายแมลงที่มีประโยชน์ในระบบนิเวศวิทยา ก่อให้เกิดการตกค้างของสารพิษต่อผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งส่งผลกระทบทั้งสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิต ด้วยตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว วว. โดย ศูนย์เทคโนโลยีปุ๋ย จึงได้ทำการศึกษา “ วิธีการสกัดสารออกฤทธิ์จากพืช / สมุนไพร และทำการทดสอบประสิทธิภาพของสารสกัดต่อแมลงศัตรูพืช ” ขึ้น เพื่อนำสารสกัดธรรมชาติโดยเฉพาะจากพืชมาใช้ทดแทนสารเคมีในการป้องกันกำจัดศัตรูพืช
“ ประเทศไทยจำเป็นต้องนำเข้าสารปราบศัตรูพืชมากกว่าร้อยชนิด ทั้งในลักษณะเดี่ยวๆหรือสูตรผสมเป็นปริมาณประมาณ 20,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อปีสารเหล่านี้อาจเป็นสารเคมีชนิดใหม่ๆ ที่ถูกนำมาใช้โดยที่ยังไม่ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบความเป็นพิษ จึงอาจก่อให้เกิดโทษมากกว่าคุณประโยชน์ ปัจจุบันจึงมีการเสาะหาสารเคมีจากธรรมชาติ เช่น พืช มาใช้แทนสารสังเคราะห์ เนื่องจากมีข้อดีที่สามารถสลายตัวเองตามกระบวนการชีวภาพในสิ่งแวดล้อมและกลายเป็นสารไม่มีพิษ จึงไม่มีพิษตกค้างหรือพิษสะสมเหมือนกับสารเคมีกำจัดแมลงที่เป็นสารเคมีสังเคราะห์…ความสำเร็จของ วว. ในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อภาคเกษตรกรรมของประเทศ ในการช่วยลดการใช้สารเคมีซึ่งมีราคาสูงและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวม…ผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืชจากสารสกัดเมล็ดมันแกวนับเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจของเกษตรกรในการช่วยเพิ่มผลผลิตและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม” รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนา วว. กล่าว
ดร.สุริยา สาสนรักกิจ ผู้อำนวยการ ศูนย์เทคโนโลยีปุ๋ย วว. กล่าวเพิ่มเติมว่า วว. ได้ทำการศึกษาวิธีการสกัดสารออกฤทธิ์และการทดสอบประสิทธิภาพของสารต่อแมลงศัตรูพืชของพืช 4 ชนิด คือ หนอนตายหยาก ข่าลิง เมล็ดมันแกว และหางไหล พบว่าเมื่อเปรียบเทียบผลการทดสอบประสิทธิภาพของสารสกัดจากพืชทั้ง 4 ชนิดดังกล่าว โดยวิธีการสกัดแบบลำดับส่วนด้วยตัวทำละลายที่มีความแรงของขั้วแตกต่างกัน 3 ชนิด คือ เฮกเซน เมทานอล และน้ำ พบว่า สารสกัดจากเมล็ดมันแกว ซึ่งมีสาร rotenone และ saponins ที่มีสารออกฤทธิ์เป็นยาฆ่าแมลง ที่ได้จากการสกัดด้วยตัวทำละลายที่เหมาะสม และส่งผลต่ออัตราการตายของหนอนกระทู้ผักสูงที่สุด กล่าวคือ ความเข้มข้นตั้งแต่ 0.1% ขึ้นไปจะส่งผลต่ออัตราการตายของหนอนกระทู้ในผักมากกว่า 90%
“ วว. ได้นำผลิตภัณฑ์ไปทำการทดสอบในระดับเรือนทดลองและระดับภาคสนามแปลงปลูกผักกาดขาวปลีและผักคะน้า พบว่าอัตราที่เหมาะสมในการฉีดพ่นเพื่อป้องกันและกำจัดแมลง ควรใช้ความเข้มข้น 0.25 - 1% ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืชจากสารสกัดเมล็ดมันแกว ผลงานวิจัยของ วว. นี้ สามารถเก็บรักษาได้อย่างน้อย 8 สัปดาห์ ด้วยการเก็บในขวดสีชา หรือไม่ให้โดนแสงแดด และเก็บที่อุณหภูมิห้อง โดยที่ผลิตภัณฑ์ยังมีปริมาณสารออกฤทธิ์คงเดิม…ซึ่งการดำเนินโครงการในขณะนี้ วว. ได้พัฒนาเครื่องจักรและอุปกรณ์ต้นแบบกระบวนการผลิตสารสกัดจากเมล็ดมันแกว เพื่อให้ได้กระบวนการผลิตสารอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถผลิตได้อย่างเพียงพอกับความต้องการของเกษตรกร ” ดร.สุริยากล่าว
ดร. ประไพภัทร คลังทรัพย์ นักวิชาการ ฝ่ายเภสัชและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ วว. กล่าวถึงการทดสอบความเป็นพิษของผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืชจากสารสกัดเมล็ดมันแกวว่า เนื่องจากผลิตภัณฑ์จะถูกนำไปใช้ในรูปสารละลายและพ่นฝอยสู่พืช อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังและดวงตาได้ วว. จึงทำการทดสอบตามมาตรการทดสอบของทั้งประเทศสหรัฐอเมริกาและยุโรป โดยใช้สัตว์ทดลองในการศึกษาความเป็นพิษเฉียบพลัน ทั้งการกินและการซึมผ่านผิวหนัง โดยทำการเจือจางผลิตภัณฑ์ 100 เท่าตามวิธีการที่นำไปใช้จริง ปรากฎว่าตรวจไม่พบอาการผิดปกติใดๆ และความผิดปกติของอวัยวะภายในต่างๆ นอกจากนั้นผลิตภัณฑ์ยังไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อดวงตาและผิวหนังเมื่อทดสอบในกระต่าย ทั้งนี้ วว. จะดำเนินการทดสอบเพิ่มเติม เพื่อศึกษาฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงต่อสารพันธุกรรมหรือ DNA และการทดสอบพิษตกค้างต่อสิ่งมีชีวิตในแหล่งน้ำต่อไป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ที่ ศูนย์เทคโนโลยีปุ๋ย วว.
เลขที่ 35 หมู่ 3 เทคโนโธานี ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12120
โทรศัพท์ 0 2577 9000 โทรสาร 0 2577 9009 ในวันเวลาราชการ--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง