แอสตัน มาร์ติน เปิดตัวไฮไลท์รุ่นพิเศษ DB11 เผยโฉมครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก ในงานบางกอก อินเตอร์เนอร์ชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2016

พุธ ๒๓ มีนาคม ๒๐๑๖ ๑๕:๔๕
แอสตัน มาร์ติน แบงคอก ภายใต้บริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ เอ็มจีซี-เอเชีย (MGC-ASIA) เปิดตัวยนตกรรมรุ่นพิเศษ DB10 และ DB11 ครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2016 หลังจากเผยโฉมครั้งแรกในโลกในงาน Geneva Motor show เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

นายคมกริช นงค์สวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เฮอริเทจ มอเตอร์ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส (ไทยแลนด์) จำกัด ภายใต้บริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ เอ็มจีซี-เอเชีย (MGC-ASIA) กล่าวว่า

"ปีนี้เป็นปีที่พิเศษสุดสำหรับ แอสตัน มาร์ติน ในงานมอเตอร์โชว์ 2016 ที่แอสตัน มาร์ติน ได้นำ ไฮไลท์พิเศษมาเปิดตัวถึงสองรุ่นให้เศรษฐีไทยได้สัมผัสก่อนใครในเอเชีย ได้แก่ แอสตัน มาร์ติน DB10ซึ่งรุ่นนี้ผลิตขึ้นมาเพียง 10 คันเท่านั้น สำหรับใช้ในภาพยนตร์เจมส์บอนด์ 007 ภาคล่าสุดสเปกเตอร์ เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้รับชมรถคันจริงเป็นครั้งแรก ซึ่งเหลืออยู่เพียงคันเดียวในโลกหลังจากการถ่ายทำภาพยนตร์ และอีกหนึ่งรุ่นสุดพิเศษนั่นก็คือ แอสตัน มาร์ติน DB11 ที่จะมาเผยโฉมเป็นครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก โดย DB11 เป็นรถยนต์รุ่นแรกภายใต้แผนก้าวสู่ศตวรรษที่ 2 ของแอสตัน มาร์ติน และเป็นรถตระกูลดีบีที่แรงที่สุดเท่าที่ แอสตัน มาร์ติน เคยผลิตมา"

Aston Martin DB11: ทายาทรุ่นล่าสุดของตระกูลอันเลื่องชื่อ

โดดเด่นด้วยดีไซน์ใหม่ล่าสุดอันเป็นเอกลักษณ์ และระบบพลศาสตร์ระดับแนวหน้า ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V12 ทวินเทอร์โบ 5.2 ลิตร รุ่นล่าสุดจาก Aston Martin ด้วยโครงสร้างอะลูมิเนียมแบบเชื่อมเป็นชิ้นเดียวที่เบาขึ้น แกร่งขึ้น และประหยัดพื้นที่มากขึ้น DB11 จึงเป็นยนตรกรรม DB อันเปี่ยมด้วยสมรรถนะ ประสิทธิภาพ และความปราดเปรียวมากที่สุดเท่าที่ Aston Martin เคยมีมา และนี่คือยนตรกรรมชั้นนำรุ่นล่าสุดจาก Aston Martin นับตั้งแต่มีการเปิดตัว DB9 เมื่อปี 2003

DB11 คือภาพสะท้อนดีไซน์ยุคใหม่ของ Aston Martin และหลักชัยล่าสุดแห่งการเดินทางเพื่อตามหาสุนทรียะอันตราตรึง ซึ่งได้เคยให้กำเนิดยนตรกรรมอันเป็นเอกลักษณ์มาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น DB2/4, DB5 และล่าสุด DB10 ที่ได้รับการสร้างสรรค์ให้เป็นพาหนะคู่ใจของ James Bond โดยเฉพาะ DB11 ผสานรูปทรงกับฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ ได้อย่างลงตัวภายใต้ดีไซน์รูปแบบใหม่อันเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะฝากระโปรงหน้าแบบบานพับด้านหน้าดีไซน์เปลือกหอย ไฟหน้า LED อันโดดเด่น และกระจังหน้าที่ตอกย้ำภาพลักษณ์แห่ง Aston Martin อย่างชัดเจน สะกดทุกสายตาด้วยแผ่นหลังคารถที่เดินแนวจากเสา A ถึงเสา C อย่างพลิ้วไหวไม่สะดุด ต่อไปถึงท้ายรถกับฝากระโปรงท้ายแบบโค้งที่สอดประสานเข้ากับไฟท้ายอันโดดเด่นได้อย่างกลมกลืน ให้ภาพลักษณ์แบบใหม่ที่ไม่ซ้ำแบบใคร

หัวใจที่สูบฉีด DB11 ให้ขับเคลื่อนนั้นอยู่ใต้ฝากระโปรงหน้าเช่นเดียวกับยนตรกรรม Aston Martin ทุกรุ่น แต่สิ่งที่แตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ก่อนหน้านี้ ได้แก่ เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ V12 5.2 ลิตร ผลงานออกแบบของ Aston Martin ที่มาพร้อมขุมพลัง 608PS1 (600BHP1) และแรงบิด 700Nm1 จึงขับเคลื่อนให้ DB11 เป็นยนตรกรรม DB ที่เปี่ยมพลังมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ทั้งยังปราดเปรียวและรวดเร็วอย่างเหนือชั้นด้วยความเร็วสูงสุดถึง 200 ไมล์/ชม.1 และเร่งความเร็วจาก 0 เป็น 62 ไมล์/ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.9 วินาที1 ผสานสมรรถนะจากระบบสั่งการอัจฉริยะและเทคโนโลยีหยุด-เดินเครื่องอัตโนมัติเพื่อประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เพื่อให้ใช้ประโยชน์จากโครงสร้างตัวถังแบบใหม่และขุมพลังเต็มเปี่ยมจากเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ V12 รุ่นใหม่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งแชสซี ระบบกันสะเทือน ระบบบังคับเลี้ยว และระบบอิเล็กทรอนิกส์ของ DB11 ล้วนออกแบบขึ้นใหม่เพื่อให้รองรับเทคโนโลยีรุ่นใหม่โดยเฉพาะโหมดขับเคลื่อนที่เลือกได้หลายรูปแบบ - GT, Sport และ Sport Plus - ช่วยกระตุ้นการทำงานของเครื่องยนต์, เกียร์ ZF อัตโนมัติความเร็ว 8 ระดับ, พวงมาลัยเพาเวอร์ระบบไฟฟ้ารุ่นใหม่ และระบบ Torque Vectoring ให้การตอบสนองได้อย่างฉับไว ด้วยการเบรกพร้อมกับเพิ่มความมั่นคงของระบบกันสะเทือนแบบปรับระดับได้ เพื่อสัมผัสแห่งความคล่องตัวอันเหนือกว่า ผลที่ได้คือประสบการณ์การขับขี่ที่ผสานความสบายในการขับอย่างเหนือชั้นเข้ากับความคล่องตัวตามแบบฉบับของรถสปอร์ตได้อย่างลงตัว เพื่อสมรรถนะแห่งความปราดเปรียวอันไร้ขีดจำกัด

"ในขณะเดียวกัน แอสตัน มาร์ติน แบงคอก ไม่ได้หยุดนิ่งที่จะขยายธุรกิจไปยังตลาดอาเซียน (ASEAN) ซึ่งขณะนี้ก็เป็นที่ยืนยันจาก Aston Martin Lagonda (HQ) ที่ให้ความไว้วางใจ และมอบหมายให้เอ็มจีซี-เอเชีย เป็นผู้รับผิดชอบและขยายตลาด แอสตัน มาร์ติน ไปยังประเทศเวียดนามและกัมพูชา ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปี 2016 นี้อย่างแน่นอน ซึ่งเป้าหมายการลงทุนขั้นแรกวางไว้ประมาณ 12-15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับการสร้างโชว์รูมและศูนย์บริการแบบครบวงจร ในการขยายธุรกิจดังกล่าว ทางบริษัทฯ จะใช้สำนักงานที่เมืองไทยเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อน ซึ่งคาดหมายว่าตลาดรถยนต์แอสตัน มาร์ติน จะเติบโตขึ้นไม่น้อยกว่า 20% ในปี 2559 นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเปิดโชว์รูมแอสตัน มาร์ติน แบบครบวงจรที่จังหวัดภูเก็ตในเดือนเมษายนนี้ เพื่อรองรับการเติบโตและความต้องการของลูกค้าในพื้นที่อีกด้วย" นายคมกริช กล่าวเพิ่มเติม

พบกับที่สุดของไฮลักชัวรี่สปอร์ตคาร์สัญชาติอังกฤษ แอสตัน มาร์ตินได้ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 3 เมษายน 2559 ณ ชาเลนเจอร์ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๑๙ ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๑๗:๕๑ GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๑๗:๒๗ กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๑๗:๑๔ กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๑๗:๒๕ First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๑๗:๐๒ CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๑๗:๑๑ บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง
๑๗:๕๒ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เดินหน้า โครงการบ้านชื่นสุขสร้างสุขผู้สูงอายุ ตอกย้ำ ความกตัญญู
๑๗:๐๑ รีเล็กซ์ โซลูชันส์ เผยกลุ่มค้าปลีกและผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยังไม่ใช้ศักยภาพของ AI มากนัก
๑๗:๔๓ กทม. บูรณาการหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาเด็กเช็ดกระจก-ขายของริมถนน ใช้สหวิชาชีพแก้ปัญหารายครอบครัว