แม็กซ์ม่า ลุยอากาศร้อนบุกตลาดอสังหาฯ ส่งน้ำยาเคลือบกระจกสู้กับอุณหภูมิเดือด

นายชัยรัตน์ ชูประภาวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วงศ์บราเดอร์ อินเตอร์เทรด จำกัดผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มประหยัดพลังงาน"แม็กซ์ม่า" เปิดเผยว่าบริษัทมีแผนที่จะขยายไลน์ธุรกิจสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพยมากขึ้นจากเดิมที่เน้นทำตลาดฟิล์มประหยัดพลังงานสำหรับรถยนต์โดยที่ผ่านมาได้ขยายการทำตลาดฟิล์มประหยัดพลังงานสำหรับอาคารสูง ทั้งอาคารสำนักงานโรงแรม บ้านพักอาศัย เนื่องจากเห็นโอกาสในการสร้างตลาดใหม่ๆอีกทั้งปัจจุบันผู้ประกอบการและผู้บริโภคให้ความสำคัญการกับประหยัดพลังงานและต้องการอยู่อย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญยังช่วยลดค่าใช้จ่ายจากค่าไฟฟ้าด้วย

ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวสินค้าใหม่ เพื่อเป็นการต่อยอดจากฟิล์มประหยัดพลังงานคือน้ำยาเคลือบกระจกประหยัดพลังงาน (MAXXMA ECO COATING)มีคุณสมบัติพิเศษคือสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการลดความร้อนได้มากกว่าเดิมแต่ไม่ลดแสงสว่าง ช่วยให้ประหยัดค่าไฟฟ้าและลดการใช้พลังงานในการทำความเย็นเหมาะสำหรับเคลือบกระจกประตู หน้าต่าง สามารถลดอุณหภูมิได้ถึง 2-5 องศาเซลเซียสอีกทั้งยังสามารถประหยัดพลังงานได้มากถึง 20% ที่สำคัญยังช่วยลดรังสีอินฟราเรด ได้สูงสุดถึง90% และป้องกันรังสี UV ได้มากถึง 99% สามารถช่วยรักษาเฟอร์นิเจอร์ โซฟาผ้าม่านให้สีสันสดใส ไม่ซีดจาง

"เพียงแค่เคลือบน้ำยาเคลือบกระจกไปบนกระจก ก็สามารถลดความร้อนได้ทันทีเพราะจะช่วยป้องกันแสงแดดและความร้อนเข้าสู่ตัวอาคาร เหมาะสำหรับใช้ในอาคารสำนักงานหรือที่พักอาศัย นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการทำความเย็นโดยไม่ต้องเปลี่ยนกระจกใหม่ให้ความสมดุลย์ทั้งการประหยัดพลังงานและแสงสว่าง ไม่เปลี่ยนภาพลักษณ์ของอาคารเดิมน้ำยาเคลือบกระจกมีความแข็ง ทนต่อการขูดขีด ไม่แตกร้าว ไม่เป็นฟอง มีอายุการใช้งานนานถึง10 ปี"นายชัยรัตน์กล่าว

การใชัน้ำยาเคลือบกระจกจึงเหมาะสำหรับอาคารต่างๆที่ต้องการลดความร้อนเข้าสู่ภายในอาคารแต่ยังสามารถมองเห็นภายนอกอย่างชัดเจนซึ่งในประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีจะใช้น้ำยาเคลือบกระจกกันอย่างแพร่หลาย ในอาคารสำนักงานบ้านพักอาศัย เพราะไม่บดบังทัศนียภาพ

ทั้งนี้ ในญี่ปุ่นยังใช้น้ำยาเคลือบกระจกทากระจกอาคารสนามบิน มหาวิทยาลัย ห้างสรรพสินค้าและสถานบันเทิงต่างๆ หลายแห่ง เพื่อลดแสงแดดและความร้อนเข้าสู่อาคารอีกทั้งยังช่วยให้ภายในอาคารเย็นขึ้น อาทิ สนามบินนานาชาติไฮเนดะ Tokyo Art Theater ,Tokyo Big Sight,Tokyo Metropolitan University,Tokyo Red Cross Blood Center,Tokyo Medical and Dental University , Otemachi Main Government Building,Tokyo Fire Department ,Hiramachi Eco Plaza,Meguroku

สำหรับแผนการตลาดนั้น บริษัทจะทำตลาดสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่ายที่มีอยู่ทั่วประเทศรวมถึงการออกบูธ ในงานเกี่ยวกับที่พักอาศัย อาทิ งานสถาปนิกเพื่อแนะนำสินค้าให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายรู้จักโดยจะโฟกัสไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีส่วนร่วมในการลดโลกร้อน ขณะเดียวกันก็เร่งสร้างการรับรู้กับกลุ่มผู้บริโภคผ่านตัวแทนจำหน่าย ทั้งร้านค้าผ้าม่านและร้านขายกระจกรายใหม่

ส่วนงบโฆษณาประชาสัมพันธ์นั้น ได้เพิ่มสัดส่วนไปที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ 65-70%ของงบประชาสัมพันธ์ และตลาดรถยนต์ 35-40% จากที่ในปีที่ผ่านมา ใช้งบส่วนใหญ่ ประมาณ65% สำหรับตลาดรถยนต์ และอีก 35% ใช้ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้ไว้ที่50-60 ล้านบาท เนื่องจากมั่นใจว่าภาวะเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวและตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นเช่นเดียวกัน

ด้านสภาพการแข่งขันนั้น มีค่อนข้างน้อยเพราะน้ำยาเคลือบกระจกเป็นสินค้าที่ค่อนข้างใหม่ในประเทศไทยอีกทั้งมีผู้ประกอบการทำตลาดน้อยมาก บริษัทจึงเห็นช่องว่างในการขยายตลาดจึงได้นำน้ำยาเคลือบกระจกจากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาขยายตลาดในประเทศไทย