นอกจากนี้ ดร.ดนันท์ ได้เปิดเผยถึงแผนการพัฒนาการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล (Digital Economy) ว่า " ตามที่รัฐบาลได้พยายามผลักดันแผน Digital Economy อย่างเป็นรูปธรรม โดยมีการจัดตั้งคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อกำหนดนโยบายในการพัฒนาด้านสังคมดิจิทัลนั้น CAT ได้สนับสนุนนโยบายของรัฐบาลด้วยการขยายโครงข่ายไฟเบอร์ออปติกส์ และพัฒนาโครงข่ายอินเทอร์เน็ตเกตเวย์ ซึ่งนับเป็นแกนหลักของการพัฒนาอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ และมีเสถียรภาพ ในราคาที่เหมาะสม สามารถต่อยอดกิจกรรมการพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด"
ด้าน คุณกิตตินันท์ อนุพันธ์ ผู้ก่อตั้งและพัฒนาแอปพลิเคชั่น "เคลมดิ" (Claim Di) และเป็น 1 ใน SMEs ที่ได้รับเงินลงทุนเริ่มต้นจาก Venture capital รายใหญ่จากต่างประเทศ เปิดเผยแนวคิดในการสร้างธุรกิจให้รวยด้วยนวัตกรรมว่า "การพัฒนาแอปพลิเคชั่นเคลมดิ เป็นการต่อยอดความคิดจากระบบประกันภัย โดยมีแนวคิดของ คือการสร้างความสะดวกให้ทั้งกับผู้ใช้งานเองและบริษัทประกันภัย โดยผู้ใช้งานสามารถทำการเคลมประกันได้ ณ จุดเกิดเหตุภายใน 15 นาที และช่วยประหยัดเวลาได้มากถึง 90% โดยไม่ต้องเสียเวลารอตัวแทนจากบริษัทประกัน แต่ผู้ใช้สามารถถ่ายรูปแล้วส่งให้บริษัทประกันทางแอปพลิเคชั่น ในส่วนบริษัทประกันก็สามารถประหยัดค่าใช้จ่าย และลดขั้นตอนในการส่งพนักงานไปยังที่เกิดเหตุ โดย Business Model ของเคลมดิ ได้วางไว้อย่างชัดเจน และไม่หยุดนิ่ง เพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพสูงสุด และตอบโจทย์ผู้ใช้ โดยเรามีการพัฒนาต่อยอดความคิดเมื่อมีนวัตกรรมใหม่ๆ และใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า"
แอปพลิเคชั่น "เคลมดิ" นับเป็นตัวอย่างผู้ประกอบการไทยที่สามารถนำนวัตกรรมมาเป็น "โอกาส" สู่ความสำเร็จในธุรกิจได้เป็นอย่างดี โดยข้อมูลต่างๆ ที่เหล่าวิทยากรนำมาพูดคุย นับเป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าสัมมนาอย่างยิ่ง
ติดตามงานสัมมนาดีๆ แบบนี้ได้ทาง www.catdatacom.com
CAT หนึ่งในผู้ให้บริการโครงข่ายสื่อสารข้อมูลรายใหญ่ในประเทศไทย ที่มีระบบโครงข่ายครอบคลุมมากที่สุดพร้อมให้บริการด้านโทรคมนาคมทุกด้านอย่างครบวงจรให้แก่องค์กรธุรกิจเพื่อก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน