บลจ.วรรณ ประเมินผลการประชุมกนง. 11 พ.ค.นี้ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

จันทร์ ๐๙ พฤษภาคม ๒๐๑๖ ๑๖:๑๑
บลจ.วรรณ ประเมินสถานการณ์ตลาดตราสารหนี้สัปดาห์นี้ อัตราผลตอบแทนมีโอกาสปรับตัวลง จากอุปทานที่จำกัด พร้อมคาดการณ์ ผลการประชุมกนง.ในวันที่ 11 พ.ค.นี้ ยังคงทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.50%ต่อปี แนะนำลงทุนในตราสารหนี้ที่มี Duration กลางขึ้นไป

นายมณฑล จุนชยะ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดตราสารหนี้ไทยในสัปดาห์นี้ บริษัทคาดว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะกลางและระยะยาวมีโอกาสปรับตัวลดลงตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลง จากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ ส่งผลให้ตลาดเริ่มคาดการณ์ต่อถึงแนวโน้มการพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในเดือนมิถุนายน อาจชะลอการปรับขึ้น โดยตัวเลข Fed Fund Future คาดการณ์โอกาสการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในเดือนหน้าอยู่ที่ระดับ 6% ขณะที่ตลาดพันธบัตรของไทยในเดือนพฤษภาคมนี้การประมูลพันธบัตรมีค่อนข้างจำกัด ทำให้ไม่มีแรงกดดันด้านอุปทานที่จะส่งผลต่ออัตราผลตอบแทนในตลาดพันธบัตรของไทยมากนัก

" บริษัทคาดการณ์ผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ของธปท. ในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ ว่า คณะกรรมการจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิม 1.50% ต่อปี ทั้งนี้ อาจต้องติดตามต่อไปว่า มติที่ประชุมจะยังคงเป็นเอกฉันท์หรือไม่ เนื่องจากบริษัทมองว่า หากคณะกรรมการเริ่มเห็นต่างเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยมีบางเสียงสนับสนุนให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้ อาจส่งผลต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในช่วงท้ายสัปดาห์"นายมณฑล กล่าว

อย่างไรก็ดี บริษัทมองว่า การปรับของอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้จะยังคงผันผวน แต่สภาพคล่องของตลาดตราสารหนี้ไทยยังคงมีอยู่จากแรงซื้อของกลุ่ม Interbank รวมถึง แรงซื้อเข้ามาจากนักลงทุนต่างชาติหลังจากที่ตลาดตราสารหนี้ไทยปิดทำการไปหลายวันในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งปกติทั่วไปนักลงทุนต่างชาติจะเข้าลงทุนในตราสารหนี้ที่มี duration ระยะยาว ดังนั้น บริษัทคงแนะนำให้ผู้ลงทุนหาโอกาสผลตอบแทนลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ โดยพิจารณาลงทุนตราสารหนี้ที่มี Duration ระยะกลางขึ้นไป เนื่องจากราคาของตราสารหนี้จะมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้น จากทิศทางของอัตราดอกเบี้ยและกระแสเงินลงทุน

สำหรับนักลงทุนที่ไม่สามารถรับความเสี่ยงต่อความผันผวนของอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้ในช่วงนี้ ยังคงแนะนำให้พิจารณาลงทุนในกองทุนประเภท Rollover เนื่องจากมีเป้าหมายผลตอบแทนที่คาดการณ์ได้เมื่อครบอายุกองทุน โดยระหว่างวันนี้ – 13 พ.ค. นี้ บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนวรรณ ไฟแนนซ์เชียล อินสตรูเมนท์ 6M/2 (1FIN6M/2) รอบการลงทุน 6 เดือน เน้นลงทุนในตราสารหนี้ไทยและต่างประเทศ โดยรอบการลงทุนนี้จะลงทุนใน เงินฝาก China Construction Bank (สาขาฮ่องกง) เงินฝาก Bank of China (สาขาฮ่องกง) และตั๋วแลกเงินในประเทศ ซึ่งมีอัตราผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายประมาณ 1.65% ต่อปี

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน