ก.ล.ต. และสภาวิชาชีพบัญชี จับมือหาแนวทางผลักดันให้ประเทศไทยใช้มาตรฐานการบัญชีสากล

ศุกร์ ๒๑ มกราคม ๒๐๐๕ ๐๙:๓๗
กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--ก.ล.ต.
ก.ล.ต. และสภาวิชาชีพบัญชีหารือแนวทางการยกระดับมาตรฐานการบัญชีไทยให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับที่ทุกประเทศทั่วโลกยอมรับ โดยจะตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาแนวทางการนำมาตรฐานสากลมาใช้เป็นกรอบการบัญชีสำหรับบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ขายแก่ประชาชน และจะหารืออย่างใกล้ชิดกับภาคเอกชนเพื่อป้องกันผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ทางด้านการค้าและการประกอบธุรกิจ
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “ ทั้งสองหน่วยงานมีความเห็นร่วมกันว่า
ประเทศไทยสมควรใช้มาตรฐานการบัญชีสากล หรือ IFRS (International Financial Reporting Standards) เป็นกรอบการบัญชีสำหรับบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ขายแก่ประชาชนซึ่งจะทำให้ผู้ลงทุนสามารถวิเคราะห์และเปรียบเทียบข้อมูลในงบการเงินของบริษัทไทยกับบริษัทในต่างประเทศได้อย่างสะดวก อย่างไรก็ดี ถึงแม้กำหนดกรอบใหญ่ไว้เช่นนี้ก็ตาม ทั้งสองหน่วยงานเห็นว่า จำเป็นต้องมีการประกาศข้อยกเว้นในบางจุด เพื่อให้มีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติและป้องกันผลกระทบที่ไม่เหมาะสมต่อบริษัทของไทย เช่น ในเรื่องความลับทางการค้า ก.ล.ต. จึงจะแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากภาคเอกชนและร่วมกันกำหนดแนวทางการจัดทำข้อยกเว้นจากมาตรฐานการบัญชีสากลดังกล่าวอย่างเป็นขั้นเป็นตอน โดยมีนายชาลี จันทนยิ่งยง ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส เป็นประธาน และจะมีผู้แทนจากสภาวิชาชีพบัญชี ผู้แทนจากสมาคมบริษัทจดทะเบียน ผู้แทนจากหน่วยงานของทางการ ผู้แทนจากสมาคมอื่น ๆ และผู้ทรงคุณวุฒิอีกจำนวนหนึ่ง เข้าร่วมเป็นคณะทำงาน เพื่อให้แน่ใจว่า แนวทางดังกล่าวจะเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ”
ศาสตราจารย์ เกษรี ณรงค์เดช นายกสภาวิชาชีพบัญชี กล่าวว่า “การประกาศเจตนารมณ์ที่ชัดเจนที่จะใช้ IFRS เป็นกรอบการบัญชีสำหรับบริษัทในตลาดทุนในครั้งนี้ เป็นก้าวที่สำคัญของวิชาชีพบัญชีที่จะพัฒนาไปสู่ความเป็นสากล และจะทำให้ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ลงทุนอย่างเต็มที่ ซึ่งการดำเนินการในเรื่องนี้ไม่น่าจะมีอุปสรรคใด ๆ เนื่องจากมาตรฐานการบัญชีของไทยที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ ส่วนใหญ่ก็สอดคล้องกับมาตรฐานสากลอยู่แล้ว นอกจากนี้ การยกระดับมาตรฐานการบัญชีในครั้งนี้ จะยังคงคำนึงถึงสภาพแวดล้อมในการทำธุรกิจ และความได้เปรียบเสียเปรียบในด้านการแข่งขันประกอบด้วย จึงเชื่อว่า จะไม่มีผลกระทบในทางลบต่อภาคธุรกิจอย่างแน่นอน และที่สำคัญคือ มาตรการดังกล่าวจะใช้เฉพาะสำหรับบริษัทในตลาดทุนเท่านั้น จึงจะไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อผู้ประกอบการทั่วไปภายนอกตลาดทุน ”--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๗ ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๑๗:๕๓ NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๑๗:๐๕ แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๑๗:๓๒ แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๑๗:๒๕ RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๑๗:๔๘ ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๑๗:๐๕ เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๑๗:๐๖ ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๑๗:๔๙ ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud
๑๗:๐๐ เปิดรับสมัครแล้ว HaadThip Fan Run 2024 แฟนรัน ฟันแลนด์ ดินแดนมหัศจรรย์ หาดสมิหลา จ.สงขลา