การยางฯ ยัน ถนนยาง 'ลดการลื่นไถล เพิ่มความปลอดภัย’ ในการขับขี่

พฤหัส ๓๐ มิถุนายน ๒๐๑๖ ๑๔:๓๓
การยางฯ ยืนยันถนนยางพารามีประสิทธิภาพ ช่วยลดการลื่นไถลของยานพาหนะ และมีส่วนช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ พร้อมอ้างอิงผลวิจัยการนำยางพาราผสมลาดถนนจากกรมทางหลวง

ดร.ณพรัตน์ วิชิตชลชัย ผู้อำนวยการกลุ่มอุตสาหกรรมยาง การยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อเปรียบเทียบระหว่างถนนแอสฟัลต์คอนกรีตผสมยางพารา ร้อยละ 5 กับถนนแอสฟัลต์คอนกรีตทั่วไป โดยอ้างอิงจากผลวิจัยของกรมทางหลวง สรุปได้ว่าถนนผสมยางพารามีประสิทธิภาพดีกว่าถนนทั่วไป จากการทดสอบปรากฏผลบ่งชี้ไปในแนวทางเดียวกัน คือ ถนนผสมยางพารามีค่าความอ่อนตัวสูงกว่า จึงทนทานต่อความร้อนได้มากกว่า ประมาณร้อยละ 48 ดังนั้น ถนนผสมยางพาราจึงมีความทนทานและแข็งแรงกว่าถนนทั่วไป ซึ่งหากใช้งานประมาณ 5 ปี สภาพผิวถนนจะเริ่มมีสภาพชำรุด ในขณะที่ถนนผสมยางพารายังคงสภาพพื้นผิวเรียบ ไม่ชำรุดและไม่เกิดร่องหลุม

"นอกเหนือจากคุณสมบัติด้านความทนทานและแข็งแรง ถนนแอสฟัลต์คอนกรีตผสมยางพารายังมีคุณสมบัติช่วยลดการลื่นไถลของยานพาหนะ จากการทดสอบค่าการลื่นไหลของถนนยางพารามีน้อยกว่า จึงถือว่ามีความฝืดมากขึ้น ช่วยลดการลื่นไถลได้ รวมถึงมีความต้านทานร่องล้อของยานพาหนะ ซึ่งมีส่วนช่วยให้การขับขี่มีความปลอดภัยมากขึ้นด้วย" ดร.ณพรัตน์ กล่าว

ล่าสุด หลังจากกรณีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนถนน 305 รังสิต-องครักษ์ นครนายก นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ได้มอบหมายให้ ดร.สุจินต์ ไชชุมศักดิ์ เป็นประธานในการประชุมแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยคณะประชุมได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งแขวงทางหลวงแผ่นดินจังหวัดนครนายกได้ยืนยันว่า พื้นที่เกิดอุบัติเหตุนั้นไม่อยู่บนพื้นถนนที่ใช้ยางพาราผสม แต่เป็นพื้นถนนแอสฟัลติกคอนกรีตธรรมดาทั่วไป

นายสุรพล ประเสริฐสัมพันธ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม แขวงทางหลวงแผ่นดินจังหวัดนครนายก กล่าวว่า กรมทางหลวงได้ดำเนินการทดสอบถนนที่มีการใช้ยางพาราเป็นส่วนผสม คู่กับถนนแอสฟัลติกคอนกรีตทั่วไป ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2556 โดยจุดที่เกิดอุบัติเหตุอยู่ในช่วง กม. 51+750 ถึง 52+750 (ระยะทาง1 กิโลเมตร) ซึ่งเป็นช่วงถนนแอสฟัลติกคอนกรีตทั่วไปไม่มียางพาราเป็นส่วนผสม สำหรับช่วงถนนแอสฟัลติกคอนกรีตผสมยางพาราที่กรมทางหลวงทดสอบ คือ ช่วง กม. 52+750 ถึง 53+750 (ระยะ 1 กิโลเมตร) ซึ่งเป็นช่วงที่ต่อจากช่วงถนนที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น

"ถนนแปลงทดสอบระยะทาง 2 กิโลเมตร ดังกล่าว มีอายุประกันสัญญา 2 ปี และหมดอายุของสัญญาไปเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2558 โดยหลังจากหมดสัญญามีการทำสัญญาจ้างเหมาบริษัทเพื่อบำรุงซ่อมแซมถนน โดยกรมทางหลวงได้เร่งรัดให้มีการซ่อมผิวถนนมาตลอด เนื่องจากช่วงถนนแอสฟัลติกคอนกรีตทั่วไปที่เกิดอุบัติเหตุนั้น ผิวถนนมีสภาพเสียรูป เกิดร่องล้อ เมื่อมีฝนตกจึงมีน้ำขังอาจเป็นเหตุให้เกิดการลื่นไถล"นายสุรพล กล่าวเพิ่มเติม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน