สมาคมสัตว์ปีกบุกทำเนียบ ยื่นหนังสือนายกฯ ค้าน (ร่าง) พ.ร.บ.ควบคุมการฆ่าสัตว์

ศุกร์ ๐๑ กรกฎาคม ๒๐๑๖ ๑๗:๐๕
ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนรี ผู้แทน 9 สมาคมผู้ผลิตสัตว์ปีก นำโดย นายวีระพงษ์ ปัญจวัฒนกุล นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ เข้ายื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอคัดค้าน (ร่าง) พ.ร.บ.ควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ..... โดยมีนายสมพงษ์ ไวถนอมสัตย์ ผู้อำนวยการส่วนดำเนินการเรื่องราวร้องทุกข์ 2 เป็นผู้รับมอบ เนื่องจากมีความกังวลว่า หากมีผลบังคับใช้ โดยเฉพาะการกำหนดอัตราค่าอากรการฆ่า และค่าธรรมเนียมการรับรองให้จำหน่ายเนื้อสัตว์ จะส่งผลถึงหายนะอุตสาหกรรมไก่ของไทย โดยจะเกิดการลักลอบนำสัตว์ปีกไปชำแหละนอกโรงฆ่า เสี่ยงโรคระบาดสัตว์ และสุขอนามัยผู้บริโภค ตลอดจนลดขีดความสามารถในการแข่งขันของไก่ไทยในตลาดโลก วอนนายกฯพิจารณารอบคอบ

9 สมาคมผู้ผลิตสัตว์ปีก ประกอบด้วย สมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ สมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมถ์ สมาคมผู้เลี้ยงไก่เพื่อการส่งออก สมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย สมาคมผู้เลี้ยงเป็ดเพื่อการค้าและการส่งออก สมาคมสัตวแพทย์ควบคุมฟาร์มสัตว์ปีก สมาคมสัตวบาลแห่งประเทศไทยฯสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยฯ สมาคมผู้เลี้ยงไก่พันธุ์ และสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย

นายวีระพงษ์ เปิดเผยว่า หากประกาศใช้ (ร่าง) พ.ร.บ. ดังกล่าว โดยเฉพาะการกำหนดให้เก็บอากรการฆ่าและค่าธรรมเนียมการรับรองให้จำหน่ายเนื้อไก่ เป็ด ห่าน จะส่งผลให้เกิดการหลีกเลี่ยงไม่แจ้งการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกอย่างถูกต้องและลักลอบนำสัตว์ปีกไปชำแหละนอกโรงฆ่าสัตว์ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อภาคอุตสาหกรรมสัตว์ปีกทั้งระบบ ทำให้ระบบการควบคุมโรคระบาดในสัตว์ปีกของประเทศไทยเป็นไปอย่างไร้ประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันโรคไข้หวัดนก และผู้บริโภคต้องรับความเสี่ยงต่อการบริโภคเนื้อสัตว์ที่ไม่ปลอดภัยและมีราคาสูงขึ้น การเรียกเก็บอากรดังกล่าวจึงขัดกับเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.ที่ต้องการยกระดับมาตรฐานการฆ่าสัตว์ให้เป็นสากล และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคในสัตว์โดยสิ้นเชิง ตลอดจนไม่สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่ต้องการลดค่าครองชีพให้ประชาชน รวมทั้งลดต้นทุนการผลิตเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันกับสินค้าเกษตรของไทย

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาภาครัฐให้ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมการผลิตเนื้อสัตว์ปีกเพื่อการส่งออก จึงไม่มีการเก็บอากรการฆ่าและค่าธรรมเนียมจำหน่ายเนื้อสัตว์ปีก ส่งผลให้อุตสาหกรรมสัตว์ปีกของไทยสามารถแข่งขันได้ในระดับโลก นำเงินตราเข้าประเทศได้ปีละเกือบ 9 หมื่นล้านบาท ซึ่งหาก(ร่าง)พ.ร.บ.ดังกล่าว ออกมาบังคับใช้จริงจะกลายเป็นอุปสรรคสำคัญของภาคส่งออกและลดศักยภาพในการแข่งขันของไทยลงทันที เนื่องจากปัจจุบันต้นทุนการผลิตของไทยก็สูงกว่า บราซิล และสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้ส่งออกไก่อันดับ 1 และ 2 ของโลก อยู่แล้ว

นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ กล่าวว่า การเรียกเก็บอากรและค่าธรรมเนียมดังกล่าวเป็นการซ้ำเติมเกษตรกรให้ต้องมีภาระต้นทุนที่สูงขึ้น และเมื่อเกิดภาวะราคาเนื้อสัตว์ตกต่ำ เกษตรกรก็จะประสบภาวะขาดทุนมากยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งปัจจุบันเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ก็ประสบปัญหาราคาเนื้อไก่ตกต่ำมาตั้งแต่ปีที่แล้ว

ที่ผ่านมาเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ได้ให้ความร่วมมือกับภาครัฐในแจ้งการนำสัตว์ปีกเข้าโรงฆ่าทุกครั้ง โดยไม่มีการหลบเลี่ยงหากมีการเก็บค่าอากรค่าธรรมเนียม จึงเกรงว่าหากมีบางรายหลบเลี่ยงไม่แจ้งการเคลื่อนย้ายและเกิดโรคหวัดนกขึ้นมา จะส่งผลเสียร้ายแรงอย่างมาก ถึงวันนี้เกษตรกรเลี้ยงไก่ยังคงจดจำวิกฤตหวัดนก ปี 2547 ได้ไม่ลืม ดังนั้น ขอให้นายกรัฐมนตรีช่วยพิจารณาทบทวน ร่างพ.ร.บ.นี้ใหม่ อย่างรอบคอบ โดยเฉพาะการเก็บค่าอากรและค่าธรรมเนียมที่จะส่งผลกระทบ ต่อเกษตรกร ต่อผู้บริโภค และต่อประเทศชาติ

ด้านนายสุเทพ วงศ์รื่น นายกสมาคมสัตวบาลแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กล่าวว่า มีข้อสงสัยเกี่ยวกับตารางแนบท้าย (ร่าง) พ.ร.บ.นี้ ที่กำหนดค่าอากรฯ ไก่ สูงมากถึง 2 บาทต่อตัว หากคำนวณจากราคาไก่ที่ 90 บาทต่อตัว เท่ากับเสียอากรฯสูงถึงร้อยละ 2.22 ของมูลค่า ขณะที่เมื่อเทียบกับโคที่มีมูลค่าถึงตัวละ 50,000 บาท กลับตั้งอากรฯไว้ที่ 20บาทต่อตัว คิดเป็นร้อยละ 0.04 ของมูลค่า หรือ สุกรตัวละ 7,500 บาท ตั้งอากรไว้ที่ 15 บาทต่อตัว คิดเป็นร้อยละ 0.2 ไม่ทราบว่า ใช้หลักเกณฑ์ใดเป็นตัวกำหนด จึงตั้งอากรสำหรับไก่สูงขนาดนี้ ซึ่งหากคำนวณเฉพาะค่าอากร 2 บาทกับการชำแหละไก่ของประเทศไทยราว 1,400 ล้านตัวต่อปี เท่ากับเงินมหาศาลถึง 2,800.- ล้านบาทต่อปี ถ้าต้นทุนต้องสูงขึ้นขนาดนี้ ไก่ไทยก็ขายแข่งกับประเทศอื่นๆในตลาดโลกไม่ได้.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน