นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงความคืบหน้าของการจัดตั้งมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติว่าตามที่ คสช.และรัฐบาลมีนโยบายปฏิรูปการกีฬาในทุกมิติ ในด้านการปฏิรูปโครงสร้างการกีฬานั้น ได้มีนโยบายจัดตั้ง"มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ"ขึ้น เพื่อให้เป็นสถาบันการศึกษาเฉพาะทางด้านการกีฬาที่จะผลิตบุคลากรทางการกีฬาออกมาพัฒนาด้านการกีฬาของประเทศให้อยู่ในระดับสากล ต้องมีการผลิตนักวิทยาศาสตร์การกีฬา นักโภชนาการกีฬา นักจิตวิทยาการกีฬา รวมถึงมีการค้นคว้าวิจัยในเรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการกีฬา โดยรูปแบบของการจัดตั้งมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาตินั้น ในเบื้องต้นจะมีการบูรณาการสถาบันการพลศึกษาสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งมีอยู่ 17 แห่งทั่วประเทศแล้วคัดเลือกสถาบันฯ ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ขึ้นเป็น "มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ"
พร้อมกันนี้ นางกอบกาญจน์ยังกล่าวด้วยว่าผลจากการที่ได้เข้าพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชนและการกีฬา ประเทศมาเลเซียไครี่ (H.E. KhairyJamaluddin Minister of Youth and Sports , Malaysia ) ล่าสุดมีประเด็นหารือที่น่าสนใจคือการเสนอให้บรรจุกีฬามวยไทย และยูโดไว้ในการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 29ซึ่งจะจัดขึ้น ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ในเดือนสิงหาคมปีหน้าและมีแนวโน้มที่ดีที่มวยไทยจะได้รับการบรรจุในการแข่งขันซีเกมส์ปีหน้า โดยจะทราบผลอย่างเป็นทางการในกลางเดือนกรกฎาคมนี้ รวมถึงการเดินหน้าความร่วมมือด้านกีฬาตามที่ได้มีการลงนาม MOU 2013 อาทิเช่นการร่วมผลักดันให้มี "ASEAN Sports Day"เป็นวันที่ประชาชนในอาเซียนพร้อมใจกันมาออกกำลังกายทั่วทั้งภูมิภาค
นอกจากนี้ยังได้มีการหารือถึงการสนับสนุนเรื่อง Sports Tourism และการแลกเปลี่ยนทางการกีฬาระหว่างทีมเยาวชนไทยด้านการฝึกสอนและแข่งขันฟุตบอลเยาวชน ที่มีอายุ 7-17 ปีโดยทางมาเลเซียได้หยิบยกประเด็นหารือเรื่อง การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพร่วมจัดฟุตบอลโลก FIFA 2034 ซึ่งอาจจัดในลักษณะการเป็นเจ้าภาพร่วมระหว่างไทย กับ มาเลเซีย โดยอาจไปใช้สนามแข่งขันที่สิงคโปร์ในบางรายการ ซึ่งจะมีการรายงานผลการศึกษาความเป็นไปได้ในโอกาสต่อไป
นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า ประเทศไทย ได้ย้ำเรื่องบทบาทการพัฒนาในรูป ASEAN CONNECT โดยเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมาได้ ได้เข้าร่วมพิธีเปิด ASEAN Ecotourism Forum 2016 ซึ่งมีรัฐมนตรีจากประเทศอาเซียนมาร่วมประชุม และมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สปป.ลาว เป็นประธาน ซึ่งจากการประชุมดังกล่าวได้มีแนวทางที่จะให้มีการจัดทำ MOU ร่วมกันเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นภายใต้แนวคิด 2 ประเทศ 1 จุดหมายปลายทางร่วมกัน
โดยประเทศไทยขอให้ สปป.ลาว ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับสถานที่หรือแหล่งท่องเที่ยวของ สปป.ลาว ที่ต้องการจะส่งเสริมพัฒนาในลำดับแรก เพื่อจะได้นำมาจัดทำเป็นแผนการพัฒนาเส้นทาง หรือแพคเกจการท่องเที่ยวร่วมกันต่อไป โดยที่ประชุมครั้งนี้ได้ให้ความสำคัญกับการร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) และเน้นสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ (Young Generation) ได้เข้ามามีบทบาทในการพัฒนาด้านการท่องเที่ยว ส่งเสริมให้มีการทำธุรกิจอยู่ในท้องถิ่นบ้านเกิดของตนเองมากยิ่งขึ้น
สำหรับตัวเลขนักท่องเที่ยวล่าสุดของเดือนกรกฎาคม 2559 (วันที่ 1-3) มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเดินทางมาประเทศไทยจำนวน 285,326 คน ขยายตัวร้อยละ 22.32 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งก่อให้เกิดรายได้จากนักท่องเที่ยว 14,695,57 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 29.01 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม จนถึงปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวสะสม จำนวน 16.8 ล้านคน ก่อให้เกิดรายได้ 8.41 แสนล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 12.31 และ 17.23 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา