สคร.10 อุบลฯ เผย หน้าฝน ไข้หวัดใหญ่ระบาด ตั้งแต้ต้นปี พบผู้ป่วยแล้ว ห้าหมื่นกว่า ราย

พุธ ๒๗ กรกฎาคม ๒๐๑๖ ๑๕:๒๒
นพ.ศรายุธ อุตตมางคพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จ.อุบลราชธานี (สคร.10) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี 2559 เป็นต้นมา ประเทศไทยมีรายงานผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่เพิ่มสูงมากขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา โดยมีรายงานผู้ป่วยสะสม ปี 2559 ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤษภาคม จำนวน 51,044 ราย ปี 2558 จำนวน 37,415 ราย ซึ่งโรคดังกล่าวเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ เป็นการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ พบได้ในผู้ป่วยทุกกลุ่มอายุเกิดขึ้นได้ตลอดปีแต่มักจะพบว่ามีการระบาดเพิ่มสูงขึ้นในช่วงหน้าฝนที่อากาศเย็นและชื้น

สำหรับในปี 2559 สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 อุบลราชธานี ได้พยากรณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในภาพรวมของ 5 จังหวัดในเขตสุขภาพที่ 10 ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ ยโสธร และมุกดาหาร คาดว่าจะมีจำนวนผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ จำนวน 6,814 ราย โดยคาดว่าจังหวัดอุบลราชธานีจะมีจำนวนผู้ป่วยมากที่สุดประมาณ 6,200 ราย กระจายในทุกเดือน แต่ในเดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคมซึ่งเป็นช่วงของฤดูฝนจะมีจำนวนผู้ป่วยมากที่สุด

นพ.ศรายุธ กล่าวต่ออีกว่า เชื้อไข้หวัดใหญ่จะอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะของผู้ป่วย การติดต่อส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสละอองฝอยจากการไอ จามของผู้ป่วย โดยละอองฝอยที่มีเชื้อเหล่านี้เมื่อสัมผัสกับทางเดินหายใจหรือตามเยื่อบุต่างๆ เช่น เยื่อบุตา จะทำให้เชื้อเข้าสู่ร่างกายและเป็นโรคได้ อาการโดยทั่วไป คือ มีไข้ ไอ มีน้ำมูก บางคนมีอาการเจ็บคอ ปวดเมื่อยตามตัว คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย อาการส่วนใหญ่จะไม่รุนแรงเป็นอยู่ประมาณ 3-5 วัน ซึ่งบางครั้งจะคล้ายโรคไข้หวัดธรรมดา แต่ท้ายที่สุดอาการก็จะหายไปเองได้ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะมีอาการรุนแรง เช่น ไอมาก หอบเหนื่อย หายใจลำบาก มีการอักเสบของปอดทำให้ปอดบวม การหายใจล้มเหลว ซึ่งอาการอาจจะ รุนแรงจนถึงเสียชีวิตได้ กลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อโรคไข้หวัดใหญ่รุนแรง คือ กลุ่มเด็กเล็ก กลุ่มผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอด โรคอ้วน และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำ

โรคนี้ไม่ถือว่าเป็นโรคร้ายแรง ส่วนมากให้การดูแลตามอาการและจะหายเองได้ หากมีบุคคลในบ้านหรือผู้ใกล้ชิดป่วยหรือสงสัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่จำเป็นต้องป้องกันการติดต่อ เวลาไอ จามควรสวมหน้ากากอนามัยปิดปาก ปิดจมูกเพื่อลดการแพร่กระจายของละอองฝอย ล้างมือบ่อยๆ และหลีกเลี่ยงการใช้มือ สัมผัสหน้า ตา จมูกโดยไม่จำเป็นเพราะเป็นทางแพร่เชื้อเข้าสู่ร่างกาย ถ้าปฏิบัติได้ดังนี้จะช่วยลดการติดต่อและการแพร่กระจายเชื้อไปสู่คนใกล้ชิดและผู้อื่นได้ ทั้งนี้ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลฮ็อตไลน์กระทรวงสาธารณสุขโทรฟรีหมายเลข 1422 /นพ.ศรายุธ กล่าวปิดท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๙ สจล. ร่วมมือมูลนิธิปัญพัฒน์เพื่อคนพิการ ขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมอาชีพครอบครัวคนพิการอย่างยั่งยืน
๑๖:๓๕ KOAN ในเครือ CPW บุกตลาด Smart Home เปิดตัวนวัตกรรมบ้านอัจฉริยะในงานสถาปนิก'68 ภายใต้แนวคิด Touch And
๑๖:๔๕ ซีเอ็ด ผนึกกำลังกระทรวงพาณิชย์ ร่วมโครงการ เปิดเทอม เติมพลัง หนุนการศึกษาไทย - ลดภาระผู้ปกครอง พร้อมโปรโมชั่นพิเศษต้อนรับเปิดเทอมทั่วประเทศ
๑๖:๔๗ รพ.ธนบุรี ปลื้ม! ผ่านการรับรองมาตรฐาน HA ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5
๑๖:๑๖ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง บรรเทาทุกข์ผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา และ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ มอบเงินช่วยเหลือพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค รวมมูลค่ากว่า 3
๑๕:๔๐ แม็คโคร เปิดสาขาพังงา (ตะกั่วป่า) ยกขบวนสินค้าสด ครบ คุ้ม เต็มแม็ค พร้อมจัดโปรสุดคุ้มฉลองเปิดสาขา ตอบรับศักยภาพของจังหวัด
๑๕:๑๐ 'โอสถสภา' จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผ่านรูปแบบ E-AGM พร้อมโชว์วิสัยทัศน์ พลังเพื่อเสริมสร้างชีวิต
๑๕:๒๘ Merkle Capital แต่งตั้ง ธนลภย์ ปรีดามาโนช นั่งเก้าอี้ ผู้จัดการเงินทุน
๑๕:๒๗ ร้านอาหารไทย ทองหล่อ ชวนคลายร้อนกับเมนูพิเศษ ขนมจีนซาวน้ำ ต้อนรับฤดูร้อน
๑๕:๒๕ แรบบิท ประกันชีวิต เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Wealthy 99/2 รับเทรนด์ Great Wealth Transfer ส่งต่อความมั่งคั่ง ให้ชีวิต แฮปปี้ง่ายๆ พร้อมได้ Passive Income คุ้มครองยาวถึง 99