ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เพิ่มทุน “สตราทีจิค อินคัม ฟันด์” หมื่นล้านบาท เน้นกลยุทธ์ Income Return คาดสร้างผลตอบแทน 3.5% - 4.5% ต่อปี

จันทร์ ๐๘ สิงหาคม ๒๐๑๖ ๑๐:๓๑
บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ประกาศเพิ่มทุน "กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล สตราทีจิค อินคัม ฟันด์" 10,000 ล้านบาท ภายหลังจากที่นักลงทุนให้ความเชื่อมั่นลงทุนต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดตัวกองทุนเมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเน้นกลยุทธ์ Income Return สร้างผลตอบแทนให้ผู้ลงทุน คาดการณ์ผลตอบแทนประมาณ 3.5% - 4.5% ต่อปี

นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้รับอนุมัติเพิ่มทุนจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ให้เพิ่มทุนกองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิลสตราทีจิค อินคัม ฟันด์ (CIMB-Principal Strategic Income Fund: CIMB-PRINCIPAL SIF) เป็น 10,000 ล้านบาท เนื่องจากกองทุนมีขนาดเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ที่จัดตั้งกองทุนในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม

กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล สตราทีจิค อินคัม ฟันด์ (CIMB-PRINCIPAL SIF) ในช่วงที่ผ่านมาสามารถสร้างผลตอบแทนได้เหมาะสม จุดเด่นของกองทุนนี้คือ เน้นกลยุทธ์การจัดสรรพอร์ตการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทน ด้วยการผสมผสานการลงทุนใน "ตราสารหนี้คุณภาพ" ที่มีความมั่นคง กับ "กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์หรือทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์" คุณภาพดีและมีรายรับประจำสม่ำเสมอ การบริหารพอร์ตการลงทุนในเชิง Active Management ด้วยการประเมินปรับน้ำหนักสัดส่วนการลงทุนอยู่อย่างต่อเนื่องให้เหมาะสมตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อแสวงหาอัตราผลตอบแทนที่ดี เพื่อให้ได้พอร์ตแบบ Income Return ทำให้กองทุนมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในระยะยาว

"แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยรวมถึงตลาดหุ้นในกลุ่มอีเมอร์จิ้งมาร์เก็ตมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากกระแสเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติด้วยเหตุผลการคลายความกังวลต่อสถานการณ์ BREXIT ทำให้นักลงทุนสถาบันเลือกที่จะมาลงทุนในกลุ่มอีเมอร์จิ้งมาร์เก็ตแทน แต่ในอนาคตก็มีโอกาสที่เงินลงทุนเหล่านี้จะขายทำกำไรซึ่งอาจทำให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนได้ ในขณะที่ความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงเป็นปัจจัยหลักที่บั่นทอนในด้านการลงทุนต่อเนื่องในปีนี้ ซึ่งทำให้ธนาคารกลางหลักๆ ของโลกกลับมาดำเนินนโยบายสอดคล้องไปในทางเดียวกันอีกครั้ง คือ การใช้นโยบายเชิงผ่อนคลายต่อเนื่องทั้งด้านการคงอัตราดอกเบี้ยต่ำและการขยายระยะเวลาและมีโอกาสการเพิ่มวงเงิน QE เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม QE โดยเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2559 ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% และเพิ่มวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามนโยบายเชิงผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศและรองรับผลกระทบจาก BREXIT"

สำหรับในประเทศไทยเมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา กนง.ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ระดับ 1.50% ต่อปี และคาดว่าจะทรงตัวอยู่ต่อไปอีกระยะหนึ่ง เรามองว่าภายใต้ภาวะความไม่แน่นอนของการลงทุนจะส่งผลทำให้ความต้องการลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลางถึงยาว และการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์/REITs ของนักลงทุนสถาบันจะมีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะผลตอบแทนที่มาจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นผลตอบแทนที่เป็นรายได้มากกว่าดอกเบี้ย และราคาไม่ผันผวนมากนัก โดยผลตอบแทนโดยรวมหรืออัตราเงินปันผลของ REITs สิงคโปร์อยู่ประมาณ 6.4% กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยอยู่ที่ 6.1%

"เรามองว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการสร้างผลตอบแทนของพอร์ตการลงทุนกองทุน CIMB-PRINCIPAL SIF ซึ่งมีสัดส่วนการลงทุนในกลุ่มกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และ REITs ในขณะที่การลงทุนส่วนตราสารหนี้จะเน้นกลยุทธ์ Enhanced Strategy ด้วยการเลือกลงทุนตราสารระยะกลาง – ระยะยาวเพื่อเพิ่มผลตอบแทน เราเชื่อว่ากองทุน CIMB-PRINCIPAL SIF จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมได้อย่างต่อเนื่องจากแบบจำลอง Model Portfolio ที่เราได้ทำการทดสอบไว้เราคาดว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนจะอยู่ที่ประมาณ 3.5% - 4.5% ต่อปี ซึ่งกองทุนนี้สามารถตอบโจทย์ผู้ลงทุนที่ต้องการแสวงหาโอกาสของการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงินเพียงอย่างเดียวในระดับความเสี่ยงที่ไม่สูงนัก เราเชื่อว่ากองทุนนี้จะเป็นอีกหนึ่งกองทุนที่จะสามารถสร้างผลตอบแทน Income Return ที่เหมาะสมให้กับท่านนักลงทุน" นายจุมพลกล่าว

สำหรับนักลงทุนที่สนใจ กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล สตราทีจิค อินคัม ฟันด์ (CIMB-PRINCIPAL SIF) สามารถขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ทุกสาขา ทั่วประเทศ และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุนหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล โทร.0-2686-9595 www.cimb-principal.co.th

ที่มา: Model Portfolio จัดทำโดย บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล อัตราผลตอบแทนเป็นการประมาณการ ไม่ได้เป็นการรับประกันผลตอบแทนแต่อย่างใด

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า(กองทุน) เงื่อนไขผลตอบและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลของกองทุนรวมโดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายการลงทุน ความเสี่ยงและผลการดำเนินงานของกองทุนรวมที่เปิดเผยไว้ในเวปไซต์ของบริษัท หรือสามารถขอข้อมูลได้จากฝ่ายการตลาดก่อนตัดสินใจลงทุน

บริษัทจัดการอาจใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) ทั้งนี้ บริษัทผู้จัดการกองทุนอาจพิจารณาปรับเปลี่ยนอัตราส่วนในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนในแต่ละช่วงเวลาของการลงทุน ทั้งนี้เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง