บลจ.กรุงไทยขายตราสารหนี้6เดือนชู1.55%

พุธ ๑๐ สิงหาคม ๒๐๑๖ ๑๓:๒๙
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 108 (KTFF108) ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 16 สิงหาคม 2559 อายุ 6 เดือน เน้นลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ ประเภทเงินฝากประจำ First Gulf Bank PJSC , China Construction Bank (Asia) Corp.Ltd , Agricultural Bank of CHINA , Union National Bank PJSC และตราสารหนี้ Qatar Nation Bank ผลตอบแทนประมาณ 1.55%โดยบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี

สำหรับภาพเศรษฐกิจโดยรวมทั้งในและต่างประเทศ หลังประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ มีผู้มาลงคะแนนเสียงราว 27 ล้านคน จากจำนวนผู้มีสิทธิมาลงคะแนนเสียงประมาณ 50 ล้านคน โดยผลการลงคะแนนรับร่างรับธรรมนูญเห็นชอบ 61% ปัจจัยทางการเมืองในประเทศจะหายไปหลังประชามติผ่านไปได้ ทำให้มีการเลือกตั้งอย่างเร็วสุดราวปลายปีหน้า ด้านธนาคารแห่งประเทศไทย มีการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.50% โดยยังให้น้ำหนักถึงความไม่แน่นอนในตลาดโลกที่เกิดขึ้นในอนาคต

ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ( NFP) ของสหรัฐออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด ทำให้ค่าเงินดอลล่าร์มีการปรับตัวขึ้นมาแข็งค่าอีกครั้ง และเป็นผลให้โอกาสการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายช่วงเดือนธันวาคมของ Fed กลับมาที่ 46.7% ด้านรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศนโยบายการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจ ( Fiscal Stimulus ) ด้วยวงเงิน 25 ล้านล้านเยน ตามที่ตลาดคาด โดย4.6 ล้านล้านเยน จะเป็นการเบิกจ่ายในปีงบประมาณปัจจุบัน ผลของการกระตุ้นจะไปอยู่กับผู้มีรายได้น้อย โครงสร้างพื้นฐาน และการช่วยเหลือผู้สูงอายุ

ธนาคารกลางออสเตรเลีย(RBA) และธนาคารกลางอังกฤษ(BOE) ทั้ง 2 ธนาคารกลางมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย นโยบาย โดย RBA ปรับลด 0.25% อยู่ที่ 1.5% ด้าน BOE ปรับลด0.25% ลดลงเหลือ 0.5% โดยฝ่ายวิจัยของบริษัท คาดว่า อาจยังมีโอกาสลดดอกเบี้ยได้อีกครั้งสำหรับ BOE หากเหตุการณ์ Brexit ส่งผลลบต่อเศรษฐกิจค่อนข้างมาก

ด้านตลาดหุ้นในประเทศ สภาพคล่องที่เหลือในระบบค่อนข้างมาก ประกอบกับปัจจัยที่มีผลกระทบอื่นๆ ที่จะส่งผลลบต่อตลาดได้ผ่านไปแล้ว ทำให้หากตลาดมีการปรับตัวลดลงจากความร้อนแรงของตลาด จะมีแรงหนุนเข้ามาอีกครั้ง ส่งผลให้ตลาดจะไม่ลดลงรุนแรงมากนัก โดยเรามองว่าปัจจัยเรื่องประชามติรับร่างรับธรรมนูญ จะส่งผลบวกให้กับตลาดในระยะสั้น

ส่วนทางด้านตลาดตราสารหนี้ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากตัวเลข NFP ที่ออกมาดีเกินคาด ทำให้ตลาดคาดการณ์ถึงการขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง ทำให้เกิดแรงขายในกลุ่มพันธบัตรรัฐบาลระยะยาว ราว 10-13 bps. ในขณะที่พันธบัตรระยะสั้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 5bps. ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในประเทศ ปรับตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่ โดยมีแรงซื้อจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ จากปัจจัยการคาดการณ์ของอัตราดอกเบี้ยของไทย โดยตลาดมองว่าแม้จะไม่ขึ้นดอกเบี้ย แต่ยังเปิดช่องถึงการปรับลงของอัตราดอกเบี้ยได้หากมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้น

ตลาดหุ้นต่างประเทศ ส่วนใหญ่ตอบสนองปัจจัยในทางบวก โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐ หลังจากที่ตัวเลข NFP ออกมาดี ยืนยันถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังตลาดมีการลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น ( Risk on ) ขณะที่ราคาน้ำมันมีการปรับตัวลดลงค่อนข้างมากจากความกังวลด้านอุปทานในอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๗ เม.ย. อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud