นางสาวเขมวิกา ดามาพงษ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท พูราโต๊ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ธุรกิจเบเกอรี่ในประเทศไทยยังมีโอกาสในการเติบโตอีกมาก โดยปัจจุบันอัตราการบริโภคเบเกอรี่ในประเทศไทยอยู่ที่ 3.3 กิโลกรัมต่อปีเท่านั้น ซึ่งยังอยู่ในปริมาณที่น้อยเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ มาเลเซียและเวียดนามที่มีอัตราบริโภคอยู่ที่ 9.6 และ 5.7 กิโลกรัมต่อปีตามลำดับ นอกจากนี้ ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น ธุรกิจร้านกาแฟและร้านสะดวกซื้อก็มีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นเช่นกันจึงเป็นแรงหนุนโดยตรงกับกลุ่มผู้ประกอบการด้านวัตถุดิบ ส่งผลให้มีปริมาณผู้เล่นทั้งในและต่างประเทศเข้าสู่ตลาดดังกล่าวจำนวนมาก ก่อให้เกิดความเคลื่อนไหวด้านการแข่งขันด้วยการนำเสนอนวัตกรรมสินค้าที่มากคุณภาพในราคาที่จูงใจกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น ผ่านกลยุทธ์ทางการตลาดแบบผสมผสาน ทำให้กลุ่มลูกค้ามีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าของ พูราโต๊ส (ประเทศไทย) ในปัจจุบัน มีมากกว่า 200 ราย โดยมีตั้งแต่กลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ หรือเรียกว่า Large Account ประกอบด้วย กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร, กลุ่มซุปเปอร์มาร์เก็ตและศุนย์การค้า, กลุ่มฟู้ดส์เซอร์วิส แลกลุ่มลูกค้ารายย่อย ประกอบด้วย ร้านเบอเกอรี่ และร้านค้าส่งโดยทั่วไป
"ปัจจุบันกลุ่มลูกค้ามีการเลือกสรรวัตถุดิบมากกว่าในอดีตค่อนข้างมาก โดยจะเน้นที่คุณภาพของผลิตภัณฑ์เป็นหลัก ทำให้ พูราโต๊ส ต้องเน้นหนักด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์นำเสนอสู่มือผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลงานด้านการวิจัยและพัฒนาของเรา เป็นที่ยอมรับในตลาดโลกภายใต้โครงการวิจัยและสำรวจความต้องการของผู้บริโภคภายใต้ชื่อ 'Taste Tomorrow' ที่ได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญเข้าสัมภาษณ์กลุ่มผู้บริโภคกว่า 11,000 คน ใน 25 ประเทศทั่วโลก เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ ตลอดจนวัตถุดิบที่กลุ่มผู้บริโภคมองหาเพื่อเติมเต็มความต้องการได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้การพูดคุยแบบเจาะลึกยังทำให้ พูราโต๊ส มองเห็นความคิดและวิสัยทัศน์ของกลุ่มลูกค้า เพื่อนำมาสร้างเป็นแนวทางในการพัฒนาธุรกิจที่ยั่งยืนร่วมกันในอนาคต" นางสาวเขมวิกา ดามาพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ ในตลาดโลกและในประเทศไทย พูราโต๊ส ถือเป็นบริษัทชั้นแนวหน้าที่เน้นการพัฒนานวัตกรรมเพื่อเอื้อประโยชน์สูงสุดต่อกลุ่มลูกค้าและผู้บริโภค โดยนางสาวเขมวิกา กล่าวเสริมว่า "พูราโต๊ส ได้พัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า Strategic innovation ซึ่งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มดังกล่าว จะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดีตามกระแสนิยม อาทิ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในกลุ่มเบเกอรี่แล้วทำให้ลดปริมาณการใช้ไขมันลง ซึ่งเราเรียกนวัตกรรมผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ว่า Puraslim ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบโจทย์กระแสนิยมด้านการดูแลสุขภาพ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ Actifresh ที่ใช้ในกลุ่มขนมอบประเภทเค้ก โดยได้มีการพัฒนาเอนไซม์ที่ให้คุณลักษณะเฉพาะ เพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถคงความชุ่มชื้นในเนื้อสัมผัสได้ยาวนานยิ่งขึ้น ตามมาด้วยนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ Sunset glaze เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทาผิวขนมแทนไข่ โดยที่ไม่มีส่วนผสมของนม หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ช่วยทำให้ลูกค้าสะดวกในการใช้ ช่วยลดการปนเปื้อนของเชื้อโรคเมื่อเทียบกับการใช้ไข่ โดยสามารถใช้ได้ทั้งปีรวมถึงเทศกาลกินเจ และไม่มีวัตถุเจือปนอาหาร ซึ่งถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ประเภท Clean label ซึ่งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีจากตลาดเมืองไทยและสามารถเพิ่มยอดขายได้สูงถึง 300% ในปีนี้ และยังคงเชื่อมั่นว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีต่อๆ ไป เพราะความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมอันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของพูราโต๊ส"
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ตลอดจนเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงความต้องการที่แท้จริงของกลุ่มลูกค้าในประเทศไทย พูราโต๊ส จึงได้จัดงาน The Magic Chocolate Experience ขึ้น โดยได้เชิญเชฟชื่อดังระดับโลกมาสาธิตเมนูพิเศษพร้อมด้วยเชฟชื่อดังชาวไทย เพื่อเปิดโลกทัศน์และถ่ายทอดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่กลุ่มลูกค้าในเมืองไทยได้มีโอกาสสัมผัสอย่างใกล้ชิด นำโดย เชฟเดวิด เลดอน, เชฟสเตฟานี ดาบาซาค, เชฟเพนนี-เพ็ญณี จิรายุวัฒนา จากเฟสบุ้คชื่อดัง Penny The Chef และเชฟโอปอล ลิปปกร ปรียาภาบุลกิต เค้กดีไซเนอร์ชื่อดัง โดยไฮไลท์ของงานจะเป็นการปั้น chocolate ให้เป็นเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณขนาดความยาว 1 เมตร ที่ทำจาก Dark Chocolate ของ พูราโต๊ส "เราจัดกิจกรรมในครั้งนี้เพื่อช่วยให้ลูกค้าของพูราโต๊สมองเห็นโอกาสใหม่ๆ เพื่อนำไปพัฒนาใช้ในธุรกิจของตน โดยใช้นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่พูราโต๊สคิดค้นขึ้น ปัจจุบันบริษัทฯ เป็นผู้ผลิต Belcolade เบลเยี่ยมช็อคโกแลตที่ได้รับการยอมรับในทั่วทุกมุมโลก นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Patisfrance ซึ่งเป็น Fine Patisserie จากฝรั่งเศส เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายเช่นกัน จึงได้นำทั้งสองแบรนด์มารวมกัน เพื่อให้เกิด Inspiration ให้กับลูกค้าของ พูราโต๊ส ได้นำไปใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภคในเมืองไทย" นางสาวเขมวิกา อธิบายภาพรวมการจัดงานเพิ่มเติม