ไฮเซนส์ เปิดแบรนด์ธุรกิจ B2B ตอกย้ำศักยภาพในการทำธุรกิจหลากหลายรูปแบบ

ศุกร์ ๒๘ ตุลาคม ๒๐๑๖ ๑๒:๕๘
นายหลิว หงซิน ประธานบริษัท ไฮเซนส์ กรุ๊ป (Hisense Group) เปิดตัวแบรนด์และอัตลักษณ์ของธุรกิจ B2B ในเครือไฮเซนส์ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ เมืองชิงเต่า ประเทศจีน โดยในช่วงเดือนมกราคม-กันยายน 2559 บริษัท B2B ในเครือมีรายได้จากการขายคิดเป็น 27% ของรายได้ทั้งหมดของไฮเซนส์ กรุ๊ป และทำกำไรสูงถึง 38% ของทั้งหมด นอกจากนี้ ไฮเซนส์ กรุ๊ป ยังสามารถรักษาสมดุลระหว่างธุรกิจดั้งเดิมแบบ B2C กับธุรกิจใหม่แบบ B2B จึงทำรายได้จากการขายได้ถึง 7.85 หมื่นล้านหยวน ณ สิ้นเดือนกันยายน หรือเพิ่มขึ้น 6.53% และทำกำไรได้ถึง 5.36 พันล้านหยวน หรือพุ่งขึ้น 53.31%

รูปภาพ: http://photos.prnasia.com/prnvar/20161027/0861611224

ไฮเซนส์เป็นบริษัทสัญชาติจีนรายแรกในรอบ 56 ปีที่เป็นผู้สนับสนุนของ UEFA โดยรับบทเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของการแข่งขันฟุตบอล UEFA EURO 2016 และด้วยเหตุนี้ ไฮเซนส์จึงได้ปรากฏสู่สายตาชาวโลกในฐานะแบรนด์โทรทัศน์อันดับ 1 ของจีน โดยธุรกิจทีวีของไฮเซนส์ครองส่วนแบ่งสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในตลาดจีนมายาวนานถึง 13 ปีติดต่อกัน นอกจากนั้นยังเป็นแบรนด์ทีวีที่มียอดขายสูงสุดในแอฟริกาใต้และออสเตรเลียในปีนี้ สำหรับธุรกิจ B2C ของไฮเซนส์นั้นครอบคลุมถึงโทรทัศน์ ตู้เย็น เครื่องปรับอาหาศ และอีกมากมาย

อย่างไรก็ดี ความสำเร็จของไฮเซนส์ในธุรกิจ B2B ยังไม่เป็นที่รับรู้มากนักหากเทียบกับธุรกิจ B2C โดยธุรกิจการสื่อสารเชิงแสง (Optical Communication) ของไฮเซนส์ครองอันดับ 1 ในจีน และเครื่องรับสัญญาณเชิงแสง (Optical Receiver) ของไฮเซนส์ก็อยู่ในอันดับต้นๆของโลกมาเป็นเวลา 5 ปีติดต่อกัน นอกจากนี้ ระบบขนส่งอัจฉริยะของไฮเซนส์ก็ครองส่วนแบ่งเป็นอันดับ 1 ในตลาดจีน 7 ปีติดต่อกัน ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงปี 2555-2558 ไฮเซนส์ยังชนะการประมูลโครงการสร้างระบบขนส่งอัจฉริยะมากถึง 42% จากทั้งหมดในประเทศ โดยแต่ละโครงการมีมูลค่ากว่า 100 ล้านหยวน นอกจากนี้ ไฮเซนส์ยังพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยในการผ่าตัดและระบบจอแสดงผลการผ่าตัดอัจฉริยะ ขณะที่ระบบนำทางเพื่อช่วยในการผ่าตัดก็ก้าวสู่ความล้ำสมัยในระดับสากลภายในเวลาเพียง 3 ปีเท่านั้น และหากพูดถึงส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์แล้ว ไฮเซนส์ใช้เวลา 14 ปีในการพัฒนาตนเองจนก้าวขึ้นเป็นอันดับ 2 ในประเทศจีน โดยได้รับอานิสงส์จากเทคโนโลยี VRF ชั้นนำระดับโลกของไฮเซนส์เอง

อนึ่ง ธุรกิจ B2B ที่เฟื่องฟูนั้น แสดงให้เห็นว่าไฮเซนส์ไม่ได้เป็นเพียงบริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป ทว่ายังเป็นบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูงอีกด้วย

สำหรับอนาคตนั้น ไฮเซนส์จะใช้เทคโนโลยีของตนเองในการเชื่อมโยงทุกชุมชนด้วยผลิตภัณฑ์ด้านการสื่อสารและผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฮม รวมถึงให้บริการหลังการขายครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่

ธุรกิจ B2B ของไฮเซนส์จะเดินหน้ารุกเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ ควบคู่ไปกับการพัฒนาธุรกิจโทรทัศน์ ตู้เย็น และเครื่องปรับอากาศที่มีอยู่เดิมทั่วโลก

รูปภาพ - http://photos.prnasia.com/prnh/20161027/0861611224

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง