ASIAN คาดแนวโน้มธุรกิจ Q4 ยอดขายใกล้เคียง Q3/59 รับ Q3/59 กำไรลดผลกระทบจากค่าเงิน-ต้นทุนวัตถุดิบ

อังคาร ๑๕ พฤศจิกายน ๒๐๑๖ ๑๑:๕๘
ASIAN เปิดงบ Q3/59 โกยยอดขาย 2,334 ล้านบาท จากยอดขายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอาหารแช่เยือกแข็ง และกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์น้ำเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่กำไรหดตัว 88.61% โดยได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงิน ดอลลาร์สหรัฐ บวกกับต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้น "สมศักดิ์ อมรรัตนชัยกุล" ซีอีโอ คาดการณ์แนวโน้มธุรกิจไตรมาส 4/59 ยอดขายใกล้เคียงไตรมาส 3/59 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซัน เนื่องจากอัตรากำไร-ยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแช่เยือกแข็ง และยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงคาดว่าจะสูงขึ้น

นายสมศักดิ์ อมรรัตนชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในงวดไตรมาส 3/59 ว่า มีกำไรสุทธิ 9.66 ล้านบาท ลดลง 88.61% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 84.82 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น อยู่ที่ 7.6% ลดลง จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ 11.3% ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราแลกเปลี่ยน และต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้น โดยบริษัทฯ มียอดขายที่ 2,334 ล้านบาท ใกล้เคียงช่วงเดียวกันของปีก่อน และมียอดขายรวม 9 เดือน ที่ 6,303 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 5,620 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอาหารแช่เยือกแข็ง และกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์น้ำเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ทูน่าบรรจุกระป๋องลดลง

"กำไรสุทธิที่ลดลงสาเหตุสำคัญมาจากอัตราแลกเปลี่ยนของเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับค่าเงินบาทไทยอ่อนค่าลง และจากการที่กลุ่มบริษัทฯ มีรายรับส่วนใหญ่เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐราว 2,000 ล้านบาทในไตรมาสดังกล่าวมีต้นทุนส่วนใหญ่เป็นเงินบาทส่งผลกำไรของกลุ่ม บริษัทลดลงราว 25 ล้านบาท และมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งที่เกิดขึ้นจริงและยังไม่เกิดขึ้นอีก ราว 2 ล้านบาท (เทียบกับไตรมาส 3/58 ที่มีกำไรราว 33 ล้านบาท) และอีกส่วนมาจากต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้นและไม่สามารถผลักภาระ ให้กับลูกค้า ได้ ส่งผลให้มาร์จิ้น Q3/59 อยู่ที่ 7.6% ลดลง 3.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมาร์จิ้น 11.3" นายสมศักดิ์ กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานโดยภาพรวมอยู่ในระดับที่น่าพอใจ จากการบริหารจัดการภายในอย่างเต็มที่ ภายใต้สถานการณ์ที่ตลาดเป็นอุปสรรค โดยยอดขายในไตรมาส 3/2559 กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแช่เยือกแข็งอยู่ที่ 1,136 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากที่ราคากุ้งแวนนาไมท์พุ่งสูงขึ้นในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ราคากุ้งไซส์ใหญ่ กลับทรงตัวตลอดไตรมาส ทำให้ราคาไม่สอดคล้องกับราคาขาย ในขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้น ทำให้อัตรากำไรสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์กุ้งหลักหรือสินค้า (Commodity) ได้รับแรงกดดันอย่างหนัก แต่คาดว่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 4/59

ด้านยอดขายกลุ่มทูน่าอยู่ที่ 282 ล้านบาท ลดลง 34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาทูน่าลดต่ำลงในไตรมาส 2/59 ที่ผ่านมา ทำให้ลูกค้าชะลอสั่งซื้อ แต่ในไตรมาส 3/59 ปรากฏว่าราคาทูน่าทรงตัวอยู่ที่ระดับ 1,400 เหรียญสหรัฐ/ตัน และราคาเริ่มขยับสูงขึ้นตั้งแต่เดือนก.ย.59 เป็นต้นมา และคาดการณ์ว่าปริมาณขายและอัตรากำไรจะดีขึ้นในไตรมาส 4/59 สำหรับยอดขายในกลุ่มอาหารสัตว์น้ำอยู่ที่ 354 ล้านบาท เติบโตขึ้นราว 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารกุ้งเพิ่มขึ้นราว 19% ในขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารปลาส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีราคาต่ำ แต่อัตรากำไรยังคงดี

ในส่วนของยอดขายกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง และปลาป่น อยู่ที่ 439 ล้านบาท คิดเป็น 19% ของรายได้รวมในไตรมาส มียอดขายใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยยอดขายปลาป่นที่ลดลง และจากการที่บริษัทพัฒนาการขึ้นระบบ ERP เพื่อมุ่งปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน และเลือกเพิ่มยอดขายกับกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ ซึ่ง ได้แก่ เจ้าของพรีเมี่ยมแบรนด์ หรือกลุ่มร้านค้าปลีกที่ต้องการสินค้าที่เป็นตราของตัวเองซึ่งมีการเติบโต อย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่ายอดขายจะยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อไปในไตรมาส 4/59

นายสมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทฯในไตรมาส 4/59 คาดการณ์ว่ายอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแช่เยือกแข็งจะยังทรงตัวโดยมีอัตรา กำไรที่ดีขึ้นจากราคาขายที่สอดคล้องกับทิศทางราคาวัตถุดิบมาก ขึ้น ขณะที่ยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงคาดว่าจะยังคงสูงขึ้น และหากไม่นำปัจจัยเรื่องราคาวัตถุดิบที่คาดการณ์ไม่ได้มา พิจารณา ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์ทูน่าบรรจุกระป๋องคาดว่าจะมีอัตรากำไรดีขึ้น เช่นกัน

ในเดือนตุลาคม กลุ่มบริษัทเอเชี่ยน เริ่มใช้งานระบบ ERP หลังจากใช้เวลาพัฒนาระบบ 9 เดือนเต็ม โดยระบบบัญชีการเงินของบริษัทและบริษัทในเครือ เปลี่ยนมาใช้ระบบ SAP ทั้งหมด ในขณะที่ในกลุ่มธุรกิจทูน่าและอาหารสัตว์เลี้ยง เป็นการใช้ระบบ SAP เต็มระบบ หลังจากระยะแรกที่ถือว่าเป็นระยะเวลาศึกษาเรียนรู้ระบบ คาดว่ากลุ่มบริษัทจะเริ่มได้รับประโยชน์จากการใช้ระบบในปี พ.ศ. 2560

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง