กาแฟไทย พืชเศรษฐกิจที่น่าจับตามอง สศก. ลุยแหล่งปลูก จ.น่าน ผสานความร่วมมือแบบประชารัฐ

จันทร์ ๒๖ ธันวาคม ๒๐๑๖ ๑๖:๕๖
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ลุยเมืองน่าน อีกหนึ่งถิ่นปลูกกาแฟที่สำคัญตามโครงการแปลงใหญ่ประชารัฐ ที่มีความเหมาะสมในการปลูกกาแฟทั้งพันธุ์อะราบิกาและโรบัสตา โดยปัจจุบัน จังหวัดน่าน มีพื้นที่ปลูกกาแฟจำนวนกว่า 4,500 ไร่ ผลผลิตปีละ 400 ตัน มั่นใจ จะเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีศักยภาพในอนาคต และเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง

นางสาวราตรี เม่นประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงการร่วมเสวนา และดูงานการเชื่อมโยงเครือข่ายกาแฟไทยจากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ ซึ่ง สศก. ได้เข้าร่วมเสวนาและบรรยาย เมื่อวันที่ 6 – 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ณ จังหวัดน่าน จัดโดยสมาคมกาแฟไทย เพื่อให้หน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมกาแฟ และผู้นำเกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์การผลิต และการตลาดกาแฟในปัจจุบัน

ปัจจุบัน การผลิตกาแฟพันธุ์โรบัสตาส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ทางภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดชุมพร และระนอง ส่วนพันธุ์อะราบิกาอยู่ทางภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน ซึ่งจากข้อมูลการผลิตปัจจุบันพบว่า มีการปลูกกาแฟโรบัสตา ในภาคเหนือเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวัดน่าน ซึ่งเดิมเป็นแหล่งปลูกกาแฟพันธุ์อะราบิกา แต่เกษตรกรได้ปรับเปลี่ยนมาปลูกกาแฟพันธุ์โรบัสตาเพิ่มขึ้นและสามารถปลูกได้ผลดี โดยปลูกเป็นพืชเชิงเดี่ยวและปลูกร่วมกับไม้ผล เช่น มะม่วง

สำหรับพื้นที่ปลูกกาแฟของจังหวัดน่านมีจำนวนกว่า 4,500 ไร่ ผลผลิตปีละ 400 ตัน โดยเป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสมในการปลูกกาแฟทั้งพันธุ์อะราบิกาและโรบัสตา ซึ่งการปลูกทั้ง 2 พันธุ์ จะขึ้นอยู่กับระดับความสูงของพื้นที่ โดยหากมีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 700 เมตรขึ้นไป จะเหมาะสำหรับการปลูกกาแฟพันธุ์อะราบิกา เช่นที่

บ้านสันเจริญ อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน แต่ถ้าพื้นที่มีความสูงไม่เกิน 700 เมตรจากระดับน้ำทะเล จะเหมาะสมสำหรับการปลูกกาแฟพันธุ์โรบัสตา เช่นที่ อำเภอแม่จริม จังหวัดน่าน ที่สามารถผลิตกาแฟได้คุณภาพดี เป็นที่ต้องการของตลาด สามารถสร้างรายได้ดีให้แก่เกษตรกร โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมกันส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกกาแฟเพื่อทดแทนการเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ใน อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ซึ่งเกษตรกรมีความสนใจ พร้อมให้ความร่วมมือในการปรับเปลี่ยน นอกจากนี้

ในพื้นที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน ซึ่งมีพื้นที่กว่า 15,000 ไร่ กำลังปรับเปลี่ยนจากพื้นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไปปลูกพืชเศรษฐกิจชนิดอื่นเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะกาแฟซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่ได้รับการส่งเสริมจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และกาแฟยังได้ถูกบรรจุเป็นพื้นที่แปลงใหญ่ของจังหวัดน่านในโครงการประชารัฐอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม กาแฟจะเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีศักยภาพในอนาคต และเป็นที่ต้องการของตลาดอีกชนิดหนึ่ง ที่สามารถนำมาทดแทนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ซึ่งมีราคาตกต่ำ และไม่ยั่งยืน ซึ่งขณะนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดทำยุทธศาสตร์กาแฟ ปี 2560 - 2564 โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนการผลิตโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม พัฒนาเครือข่ายระหว่างกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการ พัฒนาการแปรรูป รวมถึงยกระดับคุณภาพมาตรฐานสู่สากลและภาพลักษณ์กาแฟไทย ให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้ากาแฟในอาเซียน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง