คีนันและไอบีเอ็มผนึกกำลังภาครัฐ ผลักดัน “สะเต็ม” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่ "ประเทศไทย 4.0"

อังคาร ๒๗ ธันวาคม ๒๐๑๖ ๐๙:๐๑
สถาบันคีนันแห่งเอเซีย (คีนัน) ร่วมกับ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด จัดการอภิปรายเรื่อง "การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านสะเต็ม (STEM) สู่ประเทศไทย 4.0" นับเป็นการเสวนาต่อยอดแนวคิดและแนวทางสร้างคนเก่งด้านวิทยาศาสตร์ (S) เทคโนโลยี (T) วิศวกรรมศาสตร์ (E) และคณิตศาสตร์ (M) หรือสายวิชาด้านสะเต็ม (STEM) โดยมีผู้แทนจากภาครัฐ ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับไอบีเอ็ม ในฐานะภาคเอกชน และคีนัน ในฐานะองค์กรพัฒนาเอกชน ร่วมกันระดมแนวคิดสร้างคนเพื่อเป็นพลังใหม่ในการขับเคลื่อนเมืองไทยไปสู่โมเดล "ประเทศไทย 4.0" (Thailand 4.0) ซึ่งมุ่งปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม โดยมีเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่เกี่ยวข้องด้านสะเต็ม นักการศึกษา นักศึกษาด้านสะเต็ม และผู้สนใจเข้าร่วมฟัง เมื่อเร็วๆ นี้ ณ สำนักงานใหญ่ ไอบีเอ็ม (ประเทศไทย)

การอภิปรายครั้งนี้ได้เปิดโอกาสให้ผู้กำหนดนโยบายด้านสะเต็มจากทุกภาคส่วนได้ร่วมวงสนทนาถึงแนวนโยบายในการพัฒนาและเสริมกำลังทรัพยากรบุคคลด้านสะเต็ม ตลอดจนความท้าทายต่าง ๆ ทั้งจากมุมมองของผู้พัฒนาและถ่ายทอดความรู้ ผู้จัดการศึกษา ผู้ประเมินศักยภาพแรงงาน ผู้จ้างงาน และผู้ทำงานพัฒนาที่จะเป็นตัวกลางในการผนึกกำลังของทุกภาคส่วน เพื่อบรรลุเป้าหมายในการผลิตกำลังพลคนเก่งด้านสะเต็ม ที่สามารถขานรับกับการปฏิรูปเศรษฐกิจประเทศได้อย่างทันท่วงที

ดร.ศิริชัย กิตติวราพงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในฐานะตัวแทนกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยถึงแนวนโยบายส่งเสริมด้านสะเต็มเพื่อการสร้างนวัตกรรมใหม่ว่า "ทาง สวทช. ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านสะเต็มและความคิดสร้างสรรค์แก่ครูและนักเรียนอย่างต่อเนื่อง ด้วยการจัดเวิร์คชอปด้านสะเต็มโดยเน้นหัวข้อที่ไฮเทค น่าตื่นเต้น ออกนอกกรอบ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ นอกจากนี้ยังมีแนวคิดส่งเสริมให้ครูเลือกบทเรียนสะเต็มที่เหมาะสมกับท้องถิ่น หรือประสานความร่วมมือกับผู้ประกอบการในท้องถิ่นเพื่อสร้างหลักสูตรสะเต็มที่เชื่อมโยงกับสังคมและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่นั้น ๆ วิธีนี้จะช่วยให้ครูและนักเรียนสามารถเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ ที่พบเจอในชีวิตประจำวันเข้ากับสะเต็ม และจะเห็นว่าสะเต็มไม่ใช่เรื่องยากหรือเรื่องไกลตัวแต่อย่างใด"

ดร.พิเชฏษ์ จับจิตต์ รองผู้อำนวยการสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา (สวก.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ ได้เปิดเผยถึงแนวนโยบายด้านสะเต็มศึกษาเพื่อเตรียมคนสู่การทำงานในยุคแห่งนวัตกรรมว่า "กระทรวงศึกษาธิการเล็งเห็นถึงความสำคัญของสะเต็มว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการนำพาเยาวชนไทยไปสู่แรงงานคุณภาพ และจะนำพาประเทศไทยไปสู่การแข่งขันในระดับโลก จึงได้วางรากฐานด้านสะเต็มตั้งแต่ระดับปฐมวัย (อนุบาล) ไปจนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เพื่อให้เด็กไทยมีทักษะพร้อมสู่ศตวรรษที่ 21 โดยได้ออกแบบหลักสูตรสะเต็มศึกษาขึ้นเพื่อช่วยให้การจัดการเรียนรู้มีประสิทธิภาพ นั่นคือเน้นสร้างความรู้ ทักษะ กระบวนการคิด ซึ่งนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรม การเรียนจะมุ่งเน้นให้นักเรียนได้เรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติ การทำงานกลุ่ม ได้แลกเปลี่ยนและแสดงออก และจะต้องมีนวัตกรรมเกิดขึ้นในห้องเรียน ที่สำคัญเด็กจะต้องสามารถนำสิ่งที่ได้รียนรู้ไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันและนำไปสู่การประกอบอาชีพในอนาคตได้"

คุณกัญณัฏฐ์ สวัสดิ์สว่าง, ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศึกษาธิการ กล่าวเพิ่มเติมถึงหลักสูตรสะเต็มศึกษาของไทยว่า "สสวท. มีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้ครูและนักเรียนมีแรงบันดาลใจและรักที่จะเรียนรู้ในเรื่องวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี การสอนแนวใหม่จะมุ่งบูรณาการความรู้ต่าง ๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กสนใจใฝ่รู้ที่จะเรียนต่อในสายอาชีพสะเต็มมากขึ้น รวมถึงผลักดันให้เด็กสร้างนวัตกรรมด้วยตนเอง เพราะเรามองว่าคนทำงานรุ่นใหม่ในอนาคตไม่จำเป็นต้องไปสมัครงานกับใคร แต่จะสามารถสร้างนวัตกรรม สร้างอาชีพใหม่ๆ และสร้างรายได้ได้ด้วยตัวเอง สุดท้ายอยากฝากถึงคุณครูว่าสะเต็มไม่ใช่เรื่องใหม่หรือเรื่องยาก แค่ปรับเปลี่ยนวิธีการสอนเพื่อทำให้ความรู้วิทยาศาสตร์มีประโยชน์กับอาชีพและชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง"

คุณวิรัช คันศร ผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงความท้าทายในเรื่องศักยภาพด้านสะเต็มของแรงงานไทย และแนวนโยบายในการพัฒนาทักษะอาชีพด้านสะเต็มว่า "ณ วันนี้แรงงานไทยมีระดับความรู้ที่หลากหลาย นโยบายของกระทรวงแรงงานในการเตรียมพร้อมทรัพยาการมนุษย์เพื่อรองรับไทยแลนด์ 4.0 จึงแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ระยะละ 5 ปี สำหรับระยะที่ 1 คือ 5 ปีแรกจะเน้นการวางรากฐานด้านสะเต็มให้กับกลุ่มแรงงานที่มีความรู้ปานกลางจนถึงน้อย ด้วยการพัฒนาทั้งความรู้ ทักษะ และทัศนคติในด้านสะเต็มอย่างรอบด้าน จากนั้นในระยะที่ 2 หรือ 5 ปีถัดมาจะมุ่งสร้าง Innovative Workforce หรือแรงงานที่สามารถใช้งานเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่อมาในระยะที่ 3 จะมุ่งเน้นความคิดสร้างสรรค์และการพัฒนางาน และระยะที่ 4 ตั้งเป้าสร้างแรงงานที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มหรือเพิ่มรายได้ด้วยเทคโนโลยี โดยปัจจุบันกรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้บูรณาการร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมและสภาอุตสาหกรรมในการดำเนินโครงการพัฒนาบุคลากรด้านปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง"

คุณภาวศุทธิ ศรีวิโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด ในฐานะตัวแทนภาคเอกชน ได้กล่าวถึงแนวโน้มความต้องการและความสำคัญของทรัพยากรบุคคลด้านสะเต็มว่า "เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่เรียกว่าค็อกนิทีฟคอมพิวติ้ง (Cognitive Computing) หรือยุคที่คอมพิวเตอร์มีความสามารถมากขึ้นจนเข้าใจภาษามนุษย์ ตั้งสมมุติฐาน และเรียนรู้ได้ด้วยการสอน เทคโนโลยีในยุคนี้แตกต่างอย่างมากจากเมื่อก่อน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและมีความคิดสร้างสรรค์ ในการนำสิ่งเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ในอีก 5 ปีข้างหน้าเราคงได้เห็นอาชีพใหม่ๆ เกิดขึ้นอีกมากมายอันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงนี้ ซึ่งเราเชื่อว่าความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ วิศวกรรม และเทคโนโลยีจะเป็นพื้นฐานสำคัญที่ส่งเสริมให้เด็กไทยมีศักยภาพในการแข่งขัน ตลอดจนเร่งให้เกิดการพัฒนาทั้งระดับอุตสาหกรรมและประเทศ"

คุณไสว ศรีไสย ที่ปรึกษาอาวุโส ด้านนวัตกรรมการศึกษา สถาบันคีนันแห่งเอเซีย กล่าวสรุปว่า "การสร้างความเข้มแข็งให้กับทรัพยากรบุคคลนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันและความเจริญรุ่งเรืองของชาติ ความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและภาคประชาสังคมจะสามารถสนับสนุนภาครัฐและภาคการศึกษาเพื่อให้บรรลุปัญหาและความท้าทายต่าง ๆ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ปัจจุบันสถาบันคีนันแห่งเอเซียได้ทำงานร่วมกับบริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งพัฒนาบทเรียนด้านสะเต็มให้มีความหลากหลาย เป็นไปได้จริงในทางปฏิบัติ เหมาะสมกับบริบทการศึกษาของประเทศไทย และเพื่อพัฒนาศักยภาพครูผู้สอนเพื่อให้สามารถนำบทเรียนสะเต็มไปใช้และเกิดการปฏิวัติห้องเรียนได้จริง"

การอภิปรายครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ IBM Thai Teachers TryScience ซึ่งไอบีเอ็ม (ประเทศไทย) และคีนัน ร่วมกันดำเนินโครงการเป็นปีที่ 2 เพื่อส่งเสริมสะเต็มศึกษาในประเทศไทยผ่านการเรียนรู้แบบการทำโครงการ ด้วยการนำหน่วยการเรียนรู้ดิจิตัลจากเว็บไซต์ Teachers TryScience ของไอบีเอ็มมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาศักยภาพของครูไทย โดยเป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นของไอบีเอ็มที่ดำเนินกิจกรรมพัฒนาการศึกษาไทยมาอย่างยาวนานกว่า 64 ปีแล้ว

ติดตามข่าวสารการพัฒนาด้านสะเต็มศึกษาและงานพัฒนาด้านอื่นๆ ของคีนันได้ที่

www.kenan-asia.org

www.facebook.com/KenanInstituteAsia

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง