กรณีสื่อมวลชนรายงานข่าวว่ามีผู้ร้องเรียนให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบคณะกรรมการ ป.ป.ช. เกี่ยวกับการใช้เงินงบประมาณแผ่นดินว่าจ้างสภาทนายความในการดำเนินคดีต่างๆ

พุธ ๒๘ ธันวาคม ๒๐๑๖ ๑๕:๒๕
ตามที่ สื่อมวลชนได้รายงานข่าวว่า มีผู้ร้องเรียนต่อสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินขอให้ดำเนินการตรวจสอบคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีการออกระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าด้วยการแต่งตั้งทนายความและการจ่ายเงินรางวัลและค่าใช้จ่ายแก่ทนายความ พ.ศ. ๒๕๕๒ และใช้เงินงบประมาณแผ่นดินจำนวนมากในการว่าจ้างสภาทนายความเพื่อฟ้องคดีต่างๆ ให้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. นั้น

สำนักงาน ป.ป.ช. ขอเรียนชี้แจงว่า ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๙๗ วรรคสองประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๒๓ (๒) และมาตรา ๑๑ วรรคสอง ได้กำหนดว่า ในกรณีที่คณะทำงานร่วมระหว่างอัยการสูงสุดและคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่อาจหาข้อยุติเกี่ยวกับการดำเนินการฟ้องคดีได้ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจฟ้องคดีเองหรือแต่งตั้งทนายความให้ฟ้องคดีแทน ดังนั้น เมื่อมีกรณีที่ต้องแต่งตั้งทนายความให้ฟ้องคดีแทนจึงเป็นเรื่องที่อยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะต้องกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการแต่งตั้งทนายความ รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการฟ้องคดีแทน คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงได้ออกระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าด้วยการแต่งตั้งทนายความและการจ่ายเงินรางวัลและค่าใช้จ่ายแก่ทนายความ พ.ศ. ๒๕๕๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา ๒๕ (๔) และมาตรา ๑๐๗ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒

ในการดำเนินการตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าด้วยการแต่งตั้งทนายความ ฯ ได้กำหนดให้สำนักงาน ป.ป.ช. ประสานงานไปยังสภาทนายความ เพื่อเสนอรายชื่อทนายความที่มีความรู้ ความสามารถในการว่าความมาให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแต่งตั้งเพื่อฟ้องคดีแทนคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งสอดคล้องกับพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. ๒๕๒๘ มาตรา ๘ ที่ได้กำหนดให้สภาทนายความมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสภาทนายความ และอำนาจหน้าที่ซึ่งกำหนดไว้ ดังนั้น การดำเนินการของสภาทนายความตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าด้วยการแต่งตั้งทนายความ ฯ จึงถือว่าเป็นการกระทำเพื่อส่งเสริม และช่วยเหลือหน่วยงานของรัฐ อันเป็นประโยชน์ต่อทางราชการและสังคม

ในการแต่งตั้งทนายความให้ฟ้องคดีแทนคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ผ่านมา เกิดขึ้นในช่วงระยะเริ่มแรกซึ่งสำนักงาน ป.ป.ช. ยังไม่สามารถพัฒนาพนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ช. ให้ดำเนินการฟ้องคดีแทนคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้เอง ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องอาศัยทนายความที่เป็นผู้มีวิชาชีพโดยเฉพาะ เพื่อมิให้เกิดความเสียหายต่อการดำเนินคดีที่เกิดขึ้น ส่วนในเรื่องของการกำหนดเงินรางวัล และค่าใช้จ่ายแก่ทนายความ ตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยการแต่งตั้งทนายความ ฯ กำหนดให้คำนึงถึงความยากง่ายของคดี และระยะเวลาที่ทนายความต้องปฏิบัติ ซึ่งคดีที่มีการแต่งตั้งทนายความให้ฟ้องคดีแทนล้วนเป็นคดีที่มีความยุ่งยาก เกี่ยวข้องกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง ในบางคดีจำเป็นต้องมีการแต่งตั้งทนายความจำนวนหลายรายเข้าร่วมเป็นคณะทนายความ การกำหนดจำนวนเงินรางวัล และค่าใช้จ่ายจึงมีความแตกต่างกันในแต่ละคดี อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันสำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีการจัดให้มีการพัฒนาพนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ช. ผ่านการอบรมหลักสูตรวิชาชีพพนักงานไต่สวน และหลักสูตรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทำให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีคุณสมบัติเป็นผู้ดำเนินการฟ้องคดีแทนคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นจำนวนมากขึ้น อันเป็นการดำเนินการที่เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการมอบหมายให้พนักงานไต่สวนดำเนินคดีในชั้นศาล พ.ศ.๒๕๕๔

สำนักงาน ป.ป.ช. จึงขอเรียนว่า การแต่งตั้งทนายความให้ฟ้องคดีแทนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง และการใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน อยู่บนพื้นฐานตามความจำเป็นและเหมาะสมแล้ว โดยในทางปฏิบัติที่ผ่านมา คดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แต่งตั้งทนายความให้ฟ้องคดีแทน ทั้งศาลอาญาและศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็ยอมรับการทำหน้าที่ทนายความ ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่งตั้งขึ้น

อนึ่ง ในประเด็นร้องเรียนเดียวกันนี้ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ส่งเรื่องมาให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาประเด็นดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำหนังสือเพื่อแจ้งผลไปยังสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง
๐๓ พ.ค. มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เดินหน้า โครงการบ้านชื่นสุขสร้างสุขผู้สูงอายุ ตอกย้ำ ความกตัญญู
๐๓ พ.ค. รีเล็กซ์ โซลูชันส์ เผยกลุ่มค้าปลีกและผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยังไม่ใช้ศักยภาพของ AI มากนัก
๐๓ พ.ค. กทม. บูรณาการหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาเด็กเช็ดกระจก-ขายของริมถนน ใช้สหวิชาชีพแก้ปัญหารายครอบครัว