In-Sight VC200 มัลติสมาร์ทคาเมร่าวิชั่น
กล้องวิชั่นซิสเต็มส์แบบมัลติสมาร์ทคาเมร่าตัวแรกของโลก ที่พัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้รวดเร็วขึ้นตามจำนวนกล้องแต่ละตัวที่เพิ่มเข้ามา In-Sight® VC200 ซีรีส์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ในตระกูลกล้องวิชั่นซิสเต็มส์แบบมัลติสมาร์ทคาเมร่า In-Sight VC200 ซีรีส์เป็นการนำเอาประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของ In-Sight วิชั่นซิสเต็มส์มาผนวกรวมเข้ากับการใช้งานกล้องวิชั่นซิสเต็มส์มัลติสมาร์ทคาเมร่า
ระบบกล้องมัลติคาเมร่าแบบดั้งเดิมใช้ "ดัมบ์" ของกล้องที่แชร์ร่วมกับตัวโปรเซสเซอร์เดียวกัน ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานช้าลงเมื่อมีการเพิ่มกล้องเข้ามามากขึ้น เทคโนโลยีนี้จะจำกัดการใช้งานระบบมัลติคาเมร่าซิสเต็มส์ในปัจจุบันเมื่อมีการจับภาพหลายภาพพร้อมๆ กัน In-Sight VC200 เอาชนะข้อจำกัดเหล่านี้เพราะประสิทธิภาพในการประมวลผลกลับจะเพิ่มมากขึ้นตามจำนวนกล้องแต่ละกล้องที่เพิ่มเติมเข้ามา พร้อมทั้งเพิ่มขอบเขตการใช้งานในการตรวจสอบจากหลายกล้อง ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้นนี้จะช่วยรองรับกับสายการผลิตที่มีความรวดเร็วขึ้น และยังให้ความยืดหยุ่นในการแก้ปัญหาการใช้งานเกี่ยวกับการตรวจสอบการเรียงลำดับไม่ตรงกัน
In-Sight VC200 รวมเอา HMI ที่ใช้งานบนเว็บและปรับแต่งได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้การเฝ้าดูและควบคุมการเข้าถึงสำหรับแต่ละระดับผ่านการปกป้องโดยใช้รหัสผ่าน ด้วย In-Sight VC200 ผู้ปฏิบัติงานสามารถเรียกดูการตรวจสอบ วิศวกรฝ่ายควบคุมสามารถปรับเปลี่ยนค่าพารามิเตอร์ และผู้จัดการโรงงานสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานเชิงสถิติไปพร้อมๆ กันผ่านระบบปฏิบัติการ iOS®, Android® หรือจากอุปกรณ์ใด ๆ ที่รันบน Windows® ร่วมกับเว็บบราวเซอร์
"ในขณะที่ลูกค้าของเรามีการขยายการใช้งานระบบแมชชีนวิชั่นเพิ่มขึ้น พวกเขาต่างมองหาวิธีการที่จะทำให้กล้องแบบสแตนด์อโลนทำงานร่วมกันในการแก้ปัญหาการใช้งานที่กำหนดให้ต้องมีการตรวจสอบจากหลายมุมมอง" กล่าวโดย เจิร์ค คูเช่น รองประธานบริหารและผู้จัดการหน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์วิชั่นของค็อกเน็กซ์กล่าว "In-Sight VC200 มีฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์นี้โดยอาศัยข้อดีของแพลตฟอร์ม In-Sight ซึ่งได้รับการยอมรับว่าผ่านมาตรฐานระดับโกลด์สำหรับระบบแมชชีนวิชั่น"
เช่นเดียวกับ In-Sight วิชั่นซิสเต็มส์ในทุกๆ รุ่น การตั้งค่าการใช้งานมัลติคาเมร่าใน In-Sight VC200 นั้นง่ายมากด้วยประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์ In-Sight Explorer เวิร์คโฟลว์แบบกราฟิกช่วยให้การใช้งานระบบวิชั่นเรียบง่าย โดยระบบจะทำการแยกขั้นตอนการตรวจสอบลงในทูลส์บล็อก นอกจากนี้ยังสามารถเข้าถึง In-Sight วิชั่นทูลส์ (ที่รวมเอาเทคโนโลยี PatMax Redline, OCRMax และอื่น ๆ) ผ่านอินเตอร์เฟซแบบสเปรดชีตที่คุ้นเคย
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเรียนรู้ว่ากล้องวิชั่นซิสเต็มส์ In-Sight VC200 ซีรีส์ ที่มีความสามารถรอบด้านนี้จะช่วยปรับปรุงเพื่อให้การตรวจสอบในหลายมุมมองได้อย่างไร? โปรดเยี่ยมชม www.cognex.com/VC200
วิชั่นเซ็นเซอร์ที่เสริมประสิทธิภาพโดย IN-SIGHT 2000 Series
ผลิตภัณฑ์ In-Sight® 2000 Series รุ่นใหม่คือกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่รวมเอาประสิทธิภาพของระบบจับภาพ In-Sight ที่ใช้งานในระดับอุตสาหกรรมผนวกเข้ากับความง่ายและราคาที่ซื้อหาได้ของตัวเซ็นเซอร์จับภาพ เป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้งานสำหรับระบบพิสูจน์ข้อผิดพลาด โดยตัวเซ็นเซอร์จับภาพเหล่า นี้เป็นตัวกำหนดมาตรฐานใหม่ในด้านคุณประโยชน์ ความง่ายในการใช้ และความยืดหยุ่น ซึ่งต้องขอบคุณการรวมกันของเครื่องมือจับภาพ In-Sight ที่ได้รับการพิสูจน์ประสิทธิภาพ การตั้งค่าอย่างง่าย และการออกแบบแบบโมดูลที่มีคุณสมบัติพิเศษในเรื่องระบบส่องสว่างและเลนส์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ในสถานที่ปฏิบัติงานจริง
"เป็นเวลานานกว่า 15 ปี ที่ผู้ผลิตทั่วโลกไว้วางใจใน In-Sight เพื่อใช้ปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ เพิ่มกำลังการผลิต และลดของเสีย ในตอนนี้พวกเขาต้องการวิธีการที่คุ้มค่าการลงทุนเพื่อขยายการใช้เทคโนโลยีระบบจับภาพไปสู่การใช้งานที่ง่ายที่สุด นั่นคือ การใช้ซอฟต์แวร์ตั้งค่าอันเดียวกันกับที่พวกเขาใช้เพื่อแก้ปัญหาเรื่องระบบจับภาพให้ได้มากขึ้น" คำกล่าวของ จอร์จ เคอร์เชน รองประธานกรรมการและผู้จัดการธุรกิจผลิตภัณฑ์ระบบจับภาพ "In-Sight 2000 Series ง่ายต่อการนำไปใช้งานโดยการประยุกต์ใช้งานระบบจับภาพแทบจะไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรเลย ขณะที่มันยังสามารถให้ประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้และคาดหวังได้จากระบบจับภาพ In-Sight"
In-Sight 2000 Series ประกอบด้วยระบบสร้างภาพประสิทธิภาพสูงที่ถูกรวมไว้ด้วยกันซึ่งประกอบด้วยเลนส์แบบปรับเปลี่ยนได้และหลอดไฟแอลอีดีแบบวงแหวนที่กำลังอยู่ในระหว่างการจดสิทธิบัตรซึ่งทำหน้าที่กระจายแสงได้ตลอดพื้นที่ภาพทั้งหมด ช่วยให้ตัดความจำเป็นในการใช้ระบบการส่องสว่างจากภายนอกที่มีราคาแพงออกไปได้ ลูกค้ายังสามารถสลับเปลี่ยนเลนส์และเปลี่ยนสีของหลอดไฟวงแหวนแบบรวมตามความจำเป็นในการใช้งาน
โดยการใช้งานร่วมกับ In-Sight Explorer™ EasyBuilder® interface ช่วยให้การตั้งค่าการใช้งานแบบทีละขั้นตอนนั้นทำได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้ผู้ใช้งานรายใหม่ที่ใช้ In-Sight 2000 Series สามารถที่จะปฏิบัติงานเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการตรวจสอบที่เชื่อถือได้อย่างมากในเกือบทุกสภาพแวดล้อมการผลิต
ค็อกเน็กซ์เปิดตัวระบบอ่านข้อมูลป้ายเพื่อจัดการกระเป๋าเดินทางในสนามบินโดยใช้ภาพเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม
ความเร็วการอ่านที่สูงทำให้มั่นใจได้ถึงการส่งมอบกระเป๋าเดินทางที่รวดเร็วและเชื่อถือได้
ค็อกเน็กซ์ได้เปิดตัวระบบอ่านข้อมูลป้ายเพื่อจัดการกระเป๋าเดินทางในสนามบิน (ABH-ID) ซึ่งเป็นระบบเครื่องอ่านป้ายติดกระเป๋าโดยอัตโนมัติจากภาพ (ATR) ที่สามารถเอาชนะข้อจำกัดซึ่งไม่สามารถทำได้โดยระบบอ่านข้อมูลป้ายติดกระเป๋าที่ใช้แสงเลเซอร์ที่ใช้งานกันอยู่ปัจจุบัน เทคโนโลยีของค็อกเน็กซ์ยังมีความเร็วการอ่านสูงมากอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับระบบที่ทำงานด้วยเลเซอร์ จึงช่วยให้ลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการส่งมอบกระเป๋าเดินทางที่อาจจะเกิดการสูญหายหรือเกิดความล่าช้าในการส่งมอบลงได้
การเดินทางโดยสารด้วยเครื่องบินนั้นมีการเติบโตขึ้นร้อยละ 8 ต่อปี ทำให้เกิดภาระมากขึ้นในเรื่องระบบการจัดการกระเป๋าเดินทางในปัจจุบัน ซึ่งแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ระบบ ABH-ID ของค็อกเน็กซ์ใช้เทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับและพิสูจน์แล้วในอุตสาหกรรมการบินที่สามารถอ่านรหัสซึ่งระบบที่ใช้งานปัจจุบันนั้นยากที่จะอ่านได้ และมีความเร็วในการอ่านแม้กระทั่งบริเวณจุดรอยต่อที่ทำงานได้ยาก เช่น ระบบลำเลียง ซึ่งเป็นจุดที่ป้ายติดกระเป๋าเกิดความเสียหายอยู่บ่อยครั้งจากกระบวนการขนกระเป๋าขึ้นเครื่องบินและถ่ายลงจากเครื่องบิน
"แม้กระทั่งในปัจจุบันนี้ การอ่านป้ายติดกระเป๋าในระบบลำเลียงเป็นสิ่งที่ยากเนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่กระเป๋าแต่ละใบถูกขนย้ายเปลี่ยนตำแหน่งหลายครั้ง เราได้ออกแบบระบบอ่านข้อมูลและระบบติดตามที่มีประสิทธิภาพสูงโดยอิงประโยชน์ของเครื่องอ่านจากภาพที่มีราคาใกล้เคียงกับระบบที่ใช้เลเซอร์" คำกล่าวของเจย์ บูตัน ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจใหม่ของค็อกเน็กซ์ ฝ่ายระบบจัดการกระเป๋าเดินทางในสนามบิน "ผ่านการสาธิตการใช้งานจริงในระบบลำเลียงกระเป๋าเดินทางในเส้นทางบินระหว่างประเทศ ทางค็อกเน็กซ์สามารถที่จะอ่านข้อมูลได้เร็วขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับเครื่องอ่านระบบเลเซอร์ที่มีอยู่เดิม"
ผลิตภัณฑ์ใหม่จากค็อกเน็กซ์นี้มีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจาก มติข้อ 753 ของสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศที่ออกใหม่ได้แถลงว่า นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2561 สายการบินสมาชิกทั้งหมดจำเป็นต้องสาธิตให้เห็นถึงการรับและการส่งมอบกระเป๋า 3 จุดของเส้นทางการลำเลียงกระเป๋า ได้แก่ ขณะขนขึ้นเครื่องบิน ขณะลำเลียง และขณะมาถึงปลายทาง ในแต่ละครั้งนั้นกระเป๋าจะถูกเคลื่อนย้ายโดยมีป้ายติดกระเป๋าที่มีคุณภาพและสามารถอ่านป้ายนั้นได้แม้ว่าป้ายนั้นจะสกปรก เกิดรอยขีดข่วน หรือเกิดความเสียหายเนื่องจากฝนฟ้าอากาศ ระบบ ABH-ID มีความสามารถยอดเยี่ยมในการอ่านป้ายที่เกิดความเสียหายได้อย่างรวดเร็วและเที่ยงตรง การที่ระบบไม่สามารถ "อ่านข้อมูล" ได้สองสามป้ายหมายถึงจะมีกระเป๋าเดินทางพลาดขึ้นเครื่องบินสองสามใบ ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพของระบบจัดการกระเป๋าโดยรวมนั้นเพิ่มขึ้น ลดการปฏิบัติงานของการอ่านข้อมูลป้ายด้วยคน และทำให้ความพึงพอใจของลูกค้าเพิ่มมากขึ้น
ระบบ ABH-ID ของค็อกเน็กซ์นำเอาเครื่องอ่านรหัสบาร์โค้ดจากภาพแบบติดตั้งอยู่กับที่ DataMan® ซึ่งเป็นเครื่องอ่านรหัสบาร์โค้ดชั้นนำในอุตสาหกรรม ที่มีการออกแบบโดยไม่มีชิ้นส่วนเคลื่อนที่ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีการบำรุงรักษา ซึ่งตรงข้ามกับเครื่องสแกนแบบเลเซอร์ที่มีชิ้นส่วนเคลื่อนที่ซึ่งสามารถสึกหรอและขัดข้องได้ นอกจากนั้นผลิตภัณฑ์นี้ยังมีเทคโนโลยี Xpand™ ที่อยู่ระหว่างการยื่นจดสิทธิบัตรซึ่งสามารถให้ความยืดหยุ่นในการติดตั้งในสภาพแวดล้อมที่มีพื้นที่จำกัดได้ เทคโนโลยี Xpand™ นี้ยังมีระบบสำรองที่ได้รับการปรับปรุงใหม่และมีขอบเขตการมองเห็นที่เพิ่มขึ้น ทำให้ง่ายต่อการติดตั้งและลดค่าใช้จ่ายของระบบโดยรวมลงได้
ระบบอ่านข้อมูลป้ายเพื่อจัดการกระเป๋าเดินทางในสนามบินพร้อมสำหรับการใช้งานแล้วในตอนนี้ ทางวิศวกรของค็อกเน็กซ์พร้อมให้คำปรึกษากับผู้จัดการฝ่ายอาคารสถานที่ของสนามบิน เพื่อจะสาธิตการใช้งานในสถานที่จริงและการติดตั้งเพื่อทดลองการใช้งาน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.cognex.com/ATR/