สศก.ร่วมเวที COP22 เดินหน้าปรับโครงสร้างภาคเกษตรสู่การพัฒนาแบบคาร์บอนต่ำ

พฤหัส ๒๙ ธันวาคม ๒๐๑๖ ๑๐:๔๘
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ร่วมเวทีประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 22 โดยไทยเตรียมความพร้อมในการปรับโครงสร้างภาคเกษตรที่มุ่งการพัฒนาแบบคาร์บอนต่ำ ทั้งการเสริมสร้างศักยภาพของเกษตรกร บุคลากรภาครัฐ และการถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อยกระดับการดำเนินงานของภาคเกษตรภายใต้อนุสัญญาตามความตกลงปารีส

นางจันทร์ธิดา มีเดช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 22 (COP22) ณ เมืองมาร์ราเกซ ประเทศโมร็อกโก ระหว่างวันที่ 7-18 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมได้หารือถึงแนวทางการดำเนินงานภายใต้อนุสัญญาฯ ตามความตกลงปารีส (Paris Agreement) ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2559

การหารือได้ให้ความสำคัญกับกลไกทางการเงิน การพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี และการเสริมสร้างศักยภาพ เพื่อบรรลุเป้าหมายของความตกลงปารีสทั้งในมิติของการลดก๊าซเรือนกระจกที่จะจำกัดการเพิ่มขึ้นอุณหภูมิโลกเฉลี่ยไม่ให้เกิน 2 องศาเซลเซียส และในมิติการตั้งรับปรับตัวต่อผลกระทบต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกดังกล่าว

สำหรับภาคเกษตร ได้หารือถึงการดำเนินงานต่างๆ ที่ให้ความสำคัญกับการปรับตัวและผลประโยชน์ร่วมจากการปรับตัว (Adaptation co-benefits) พร้อมทั้งเน้นการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี การเสริมสร้างศักยภาพ และการช่วยเหลือทางการเงิน เพื่อยกระดับการดำเนินงานของภาคเกษตรภายใต้อนุสัญญาฯ ซึ่งกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วต้องการให้ภาคเกษตรเน้นการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาแบบคาร์บอนต่ำ (Low carbon development) ไปพร้อมๆ กัน ขณะที่กลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ยังมีความกังวลต่อการดำเนินงานที่เน้นการพัฒนาแบบคาร์บอนต่ำในภาคเกษตรที่อาจจะกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารของประเทศกำลังพัฒนาที่ยังไม่มีความพร้อมในเรื่องดังกล่าว ซึ่งอนุสัญญาฯ ควรเร่งสร้างกลไกด้านการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี การเสริมสร้างศักยภาพ และการช่วยเหลือทางการเงิน เพื่อช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาในการปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรที่เน้นลดการปล่อยคาร์บอนต่ำ

ทั้งนี้ สศก. เห็นว่า ประเทศไทยมีการเตรียมความพร้อมในการปรับโครงสร้างภาคเกษตรที่มุ่งการพัฒนาแบบคาร์บอนต่ำ แต่ยังต้องการการสนับสนุนจากกลไกต่างๆ ภายใต้อนุสัญญาฯ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของเกษตรกร บุคลากรภาครัฐ และการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่สำคัญ เช่น เทคโนโลยีเกษตรแม่นยำ เทคโนโลยีปรับปรุงพันธุ์พืช/สัตว์ และเทคโนโลยีพยากรณ์และเตือนภัย

นอกจากนี้ ระหว่างการประชุม COP22 สศก. ได้ร่วมเสวนาเกี่ยวกับแนวทางการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในหัวข้อ "Collaborations on Agriculture Climate Insurance in South East Asia" โดยมีผู้ร่วมเสวนาจากประเทศในกลุ่มอาเซียน ซึ่งผลการเสวนาเสนอให้การจัดทำการประกันภัยพืชผลเกษตรควรที่จะมุ่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มอาเซียนเพื่อพัฒนาการประกันภัยพืชผลเกษตรที่ใช้ Weather Index พร้อมทั้งมุ่งพัฒนาความร่วมมือของภาครัฐและเอกชนในการดำเนินงาน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๐ เม.ย. COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๓๐ เม.ย. GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๓๐ เม.ย. PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๓๐ เม.ย. LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๓๐ เม.ย. ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๓๐ เม.ย. ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๓๐ เม.ย. LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๓๐ เม.ย. SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๓๐ เม.ย. STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๓๐ เม.ย. กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน