กรมประมง…ระดมทีมลงพื้นที่สำรวจความเสียหายภาคประมงจากเหตุอุทกภัยภาคใต้ พร้อมเร่งช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยง หลังสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย

พฤหัส ๐๒ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๗ ๑๐:๐๒
นายมีศักดิ์ ภักดีคง รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยหลังติดตามคณะนายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันโอชา) ลงพื้นที่ให้กำลังใจพร้อมมอบเงินเยียวยาและถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2560 ที่ผ่านมาว่า จากสภาวะฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคม 2559 ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันในเขตพื้นที่

12 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ ตรัง พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ระนอง ชุมพร และประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งรัฐบาลได้มีนโยบายสั่งการให้หน่วยงานต่าง ๆ ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นการเร่งด่วน โดยในส่วนของกรมประมงนั้นได้มีการระดมทีมลงพื้นที่เร่งสำรวจความเสียหาย

ด้านการประมง ล่าสุดพบพื้นที่เพาะเลี้ยงประสบอุกภัยแล้วรวม 31,022.50 ไร่ 92697.75 ตารางเมตร เกษตรกรได้รับความเสียหาย 19,989 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 2,001,781,362.53 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 23 ม.ค. 60 )

สำหรับพื้นที่ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี พบความเสียหาย 4,825.42 ไร่ เกษตรกรได้รับความเสียหายจำนวน 1,928 ราย มูลค่าความเสียหาย 110,596,312.59 บาท โดยแบ่งเป็นกุ้งทะเล จำนวน 67 ราย พื้นที่ 397.20 ไร่ ปูทะเล 34 ราย พื้นที่ 153.5 ไร่ ปลาในบ่อดิน 1,514 ราย พื้นที่ 1,882.68 ไร่ และปลาในกระชัง 313 ราย พื้นที่ 40,492.44 ตารางเมตร ซึ่งทางจังหวัดได้มีการติดตามสถานการณ์

อย่างใกล้ชิด และได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายของเกษตรกรในเบื้องต้นแล้ว และกำลังเร่งสำรวจความเสียหายที่แท้จริงหลังน้ำลดให้แล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม 2560 ในทุกพื้นที่ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือ

ตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ นอกจากนี้ ยังดำเนินการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเร่งด่วนเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าตามความสามารถและศักยภาพของหน่วยงานที่อยู่ในพื้นที่เป้าหมาย โดยออกเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ และสร้างความเข้าใจแก่เกษตรกรในการให้ความช่วยเหลือ โดยเฉพาะระเบียบหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ของทางราชการ พร้อมประสานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรที่ประสบภัย

รองอธิบดีกรมประมง กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ทางกรมฯ ยังได้เตรียมผลิตลูกพันธุ์ปลาคุณภาพ เพื่อแจกจ่ายให้เกษตรกรตามความต้องการหลังสภาวะน้ำเข้าสู่สถานการณ์ปกติ และยังมีแผนในการฟื้นฟูช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยในระยะยาว โดยจัดทำโครงการพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานทดแทนในบ่อกุ้ง โครงการเลี้ยงปลาดุก และกบในกระชังบก พร้อมทั้งผลักดันให้เกษตรกรที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนผู้เพาะเลี้ยงเข้าสู่ระบบให้ถูกต้อง เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป ซึ่งจะเป็นแนวทางในการปฏิบัติของจังหวัดต่าง ๆ ที่ประสบอุทกภัยด้วย

ทั้งนี้ หากเกษตรกรประสบปัญหาต้องการความช่วยเหลือต่าง ๆ สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำหรือขอความช่วยเหลือได้ที่สำนักงานประมงอำเภอ/ สำนักงานประมงจังหวัด/ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงในพื้นที่ หรือ กองโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและกิจกรรมพิเศษ กลุ่มช่วยเหลือเกษตรกรและชาวประมง โทรศัพท์ 0 2558 0218 และ 0 2561 4740

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน