ในการประชุมเชิงปฏิบัติการพิเศษเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่กรุงเซาเปาโล ประเทศบราซิล ได้มีการหารือเกี่ยวกับรูปแบบของเครือข่ายเพื่อการปกป้องสัตว์ป่า สัตว์น้ำ และพืชป่าอย่างมีประสิทธิภาพ
เนื่องจากทวีปอเมริกาใต้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า สัตว์น้ำและพืชป่าที่หลากหลายและหลายชนิดมีราคาสูงในตลาดมืดทำให้ตกเป็นเป้าหมายของขบวนการค้าที่ผิดกฎหมาย เครือข่ายการบังคับใช้กฎหมายสัตว์ป่าของทวีปจึงตั้งขึ้นเพื่อตอบโต้ขบวนการเหล่านี้โดยใช้รูปแบบเครือข่ายเดียวกันกับภูมิภาคอื่นๆ ได้แก่ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ จีน แอฟริกา และอเมริกากลาง
การประชุมเชิงปฏิบัติการเจ้าหน้าที่อัยการที่เซาเปาโลจัดขึ้นโดยสำนักงานอัยการบราซิลโดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ โดยมีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ และสำนักงานบังคับกฎหมายสัตว์ป่าและพันธุ์พืช แลกเปลี่ยนความรู้และบทเรียนต่างๆ แก่สำนักงานอัยการบราซิล โดยเฉพาะการจัดตั้งเครือข่ายระดับภูมิภาค เช่น ในเอเชียจะมีโครงสร้างที่ให้เจ้าหน้าที่ระดับชาติเป็นผู้ประสานงานและจัดตั้งปฏิบัติการต่างๆ เป็นต้น
นอกจากนี้สาธารณรัฐบราซิลยังประกาศแผนการจัดตั้งคณะทำงานที่มีหลายหน่วยงานทำงานร่วมกันเป็นการนำร่องและจะส่งผู้แทนเข้าร่วมกิจกรรมการบังคับใช้กฎหมายที่กรุงเทพมหานครในเดือนพฤศจิกายนเพื่อริเริ่มความร่วมมือกับหน่วยงานและเครือข่ายในเอเชีย แอฟริกา และอเมริกาเหนือ
จากข้อมูลของ National Network to Combat Trafficking of Wild Animals (RENCTAS, 2001) พบว่าในหนึ่งปีประเทศบราซิลมีสัตว์ป่ากว่า 38 ล้านตัวถูกจับไปขายในตลาดมืดคิดเป็น 15% ของยอดมูลค่าการค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมายของโลกที่มีมูลค่ากว่า 10,000 – 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ สุรนาทยุทธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ผิดกฎหมาย กล่าวว่า "การลักลอบค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ผิดกฎหมายเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อความหลากหลายทางชีวภาพ วิธีที่ได้ผลดีที่สุดต่อการปราบปรามอาชญากรรมองค์กรเหล่านี้ ด้วยการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างเครือข่ายการบังคับใช้กฎหมายสัตว์ป่าและพันธุ์พืชที่แข็งแรงและสมบูรณ์ ทั้งในระดับชาติและภูมิภาค สำนักงานส่งเสริมการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ผิดกฎหมายขอร่วมแสดงความยินดีในการจัดตั้งเครือข่ายการบังคับใช้กฎหมายสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ของประเทศทั้ง 8 ในภูมิภาคอเมริกาใต้"