นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า จากความห่วงใยของพลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กรมฝนหลวงและการบินเกษตรจึงได้ร่วมมือกับกรมชลประทานในการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูแล้งและช่วงต้นฤดูฝนโดยร่วมวางแผนกำหนดพื้นที่เป้าหมายการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อเติมน้ำต้นทุนในเขื่อน โดยเฉพาะเขื่อนขนาดใหญ่ของประเทศที่มีน้ำใช้การอยู่ในเกณฑ์ต่ำ จำนวน 2 เขื่อน คือ เขื่อนภูมิพลและเขื่อนลำตะคอง ซึ่งหวังให้มี น้ำต้นทุนในปริมาณที่มากขึ้น โดยดำเนินการตามแผนการป้องกันและแก้ไขภัยแล้ง และแผนการเติมน้ำต้นทุน ให้เขื่อนกักเก็บน้ำ ประจำปี 2560 ที่เน้นการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่เกษตรกรรม และป่าไม้ และปฏิบัติการฝนหลวงเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับเขื่อนต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อสำรองไว้เป็นน้ำต้นทุนในการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้งและเพื่อสาธารณประโยชน์ต่างๆ และจากข้อมูลสภาพอากาศ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จะสามารถปฏิบัติการฝนหลวงอย่างเต็มกำลังครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศได้ตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม เป็นต้นไป โดยในช่วงก่อนวันที่ 2 มีนาคม กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้เปิดหน่วยปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วจำนวน 3 หน่วย ที่จังหวัดนครสวรรค์ และติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง หากพื้นที่ใดมีสภาพอากาศเอื้อต่อการปฏิบัติการฝนหลวง ก็พร้อมที่จะบินปฏิบัติการได้ทันที
นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับการปฏิบัติการฝนหลวงอย่างเต็มกำลังครอบคลุมพื้นที่ ทั่วประเทศในปีนี้ จะมีพิธีเปิดการปฏิบัติการฝนหลวงอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม 2560 ณ สนามบินนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ โดยได้รับเกียรติจาก พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธี ภายในงานประกอบไปด้วยการจัดพิธีสงฆ์ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจและเป็นสิริมงคลให้กับเจ้าหน้าที่กรมฝนหลวงและการบินเกษตรในการปฏิบัติงาน การแสดงนิทรรศการจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภายในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานภายนอกที่ร่วมกันบูรณาการในการสร้างประโยชน์และความผาสุกให้กับพี่น้องเกษตรกรนอกจากนี้ยังมีการแถลงข่าวแนวทางการดำเนินงานปฏิบัติการฝนหลวงและแก้ไขปัญหาภัยแล้งในปี 2560 อีกด้วย ทั้งนี้ สามารถติดตามข่าวสารจากกรมฝนหลวงและการบินเกษตรเพิ่มเติมได้ที่ เพจ Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร หรือเว็บไซต์www.royalrain.go.th