ทรีนีตี้ชี้ เม.ย. หยุดยาว วอลุ่มบาง แนะลงทุนกรอบ 1,550-1,600 จุด

จันทร์ ๐๓ เมษายน ๒๐๑๗ ๑๐:๐๖
ทรีนีตี้ประเมิน ดัชนีหุ้นไทยเมษายนแกว่งตัวแคบ-วอลุ่มบาง หลังเจอวันหยุดยาว เชื่อหุ้นไทยแม้จะแพงแต่ฟันด์โฟลว์ยังเข้า แนะลงทุนในกรอบ 1,550-1,600 จุด เน้น กลุ่มโภคภัณฑ์ กลุ่มปิโตรเคมีที่อยู่ในช่วงขาขึ้น และ หุ้นที่ได้อานิสงส์จากนโยบายส่งเสริมการลงทุนระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยช่วงเดือนเมษายนนี้จะแกว่งตัวในกรอบ 1,550 – 1,600 จุด ด้วยความผันผวนในระดับต่ำและมูลค่าการซื้อขายเบาบาง เนื่องจากเป็นช่วงที่มีวันหยุดยาว

โดยมีปัจจัยบวกจากกระแสเงินต่างชาติที่ไหลเข้าตลาดหุ้นเกิดใหม่ หลังเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลดลง จากกรณีความกังวลในการสนับสนุนนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐของพรรครีพับรีกัน ประกอบกับตลาดได้รับรู้กรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ไปแล้ว

นอกจากนี้การที่เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้การบริโภคสินค้าโภคภัณฑ์อยู่ในระดับสูงต่อไป เป็นผลบวกต่อกลุ่ม พลังงาน ปิโตรเคมี ธุรกิจการเกษตร ส่วนราคาน้ำมันดิบมีโอกาสลงจำกัดแล้ว เนื่องจากมองว่าราคาน้ำมันในปีนี้จะอยู่ที่ 50-60 ดอลลาร์สหรับต่อบาเรล และคาดการณ์ว่าที่ประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันในเดือนพฤษภาคมนี้จะมีการขยายระยะเวลาการลดกำลังการผลิตออกไป

ส่วนปัจจัยลบคือ มูลค่าของตลาดหุ้นไทย (Valuation) ที่อยู่ในระดับสูง เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นเกิดใหม่อื่นๆ ดังนั้นกระแสเงินที่ไหลเข้าไทยจะไม่มากโดยเปรียบเทียบ ขณะที่การลงทุนภาครัฐหลายโครงการถูกเลื่อนออกไป การบริโภคภายในประเทศยังคงชะลอตัว โดยในช่วงที่ผ่านมา นักวิเคราะห์ได้มีการปรับลดประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนลงเล็กน้อย

นอกจากนี้ในวันที่ 23 เมษายนนี้ยังต้องจับตาการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกซึ่งล่าสุดคะแนนนิยมของนางมารีน เลอ เปน ซึ่งเป็นผู้สมัครฝ่ายขวาจัดที่มีจุดยืนในการนำฝรั่งเศสแยกตัวจากสหภาพยุโรป ยังคงสูสีกับนายเอมมานูเอล มาครอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ ทำให้ประเมินว่าการเลือกตั้งรอบแรกนี้จะยังไม่ได้ผู้ชนะที่ได้คะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ จนต้องมีการเลือกตั้งรอบที่ 2 ในวันที่ 7 พฤษภาคม แต่ท้ายที่สุดเชื่อว่า นายเอมมานูเอล มาครอง มีโอกาสคว้าชัยชนะได้ เนื่องจากจะได้คะแนนของผู้สมัครที่ตกรอบแรกมาครอง

ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในเดือนนี้ แนะนำซื้อเมื่อดัชนีลงมาระดับ 1,550 จุด และ ขายเมื่อดัชนีแตะ 1,600 จุด โดยควรพิจารณาเลือกลงทุนในหุ้นที่ราคายังปรับขึ้นไม่มาก ผสมผสานกับหุ้นที่มีธีมการลงทุนน่าสนใจ คือ หุ้นในกลุ่มโภคภัณฑ์ ได้แก่ PTTEP, STA หุ้นกลุ่มปิโตรเคมีที่มีสเปรดอยู่ในช่วงขาขึ้น ได้แก่ VNT, AJ และ หุ้นที่ได้อานิสงส์จากนโยบายส่งเสริมการลงทุนระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ได้แก่ AMATA, ROJNA, WHA

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน