“เอสซีจี เอ็กซ์เพรส” เผยแผนธุรกิจปี 60 ตอกย้ำภาพผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งด่วน

จันทร์ ๑๐ เมษายน ๒๐๑๗ ๑๗:๐๑
เหนือกว่าด้วยนวัตกรรมบริการส่งพัสดุด่วนแบบควบคุมอุณหภูมิรายเดียวในไทย พร้อมเปิดให้บริการทั่วประเทศในปี 2561 ตั้งเป้ายอดขายมากกว่า 1,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี

"เอสซีจี เอ็กซ์เพรส" เปิดแผนธุรกิจปี 60 รุกตลาดส่งด่วนเต็มรูปแบบ รับแนวโน้มธุรกิจการค้าออนไลน์ที่โตก้าวกระโดด เดินหน้าสร้างการรับรู้ถึงจุดแข็ง "บริการที่มีคุณภาพ เอาใจใส่ ตรงต่อเวลา" และการเป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทยที่เปิดตลาด "ขนส่งพัสดุแบบควบคุมอุณหภูมิ" (COOL TA-Q-BIN) ตอบความต้องการลูกค้ากลุ่มธุรกิจรายย่อยที่ต้องการส่งสินค้าในรูปแบบควบคุมอุณหภูมิ อาทิ อาหารแช่แข็ง ผลไม้ ยา และเครื่องสำอาง ลุยขยายศูนย์บริการเอสซีจี เอ็กซ์เพรส (Service Point) และตัวแทนรับพัสดุเอสซีจี เอ็กซ์เพรส (Service Agent) อย่างต่อเนื่อง เตรียมจับมือพันธมิตรเปิดจุดบริการตัวแทนรับพัสดุ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมเล็งจับมือพันธมิตรรายอื่นๆ และเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจร่วมเป็นตัวแทนรับพัสดุเอสซีจี เอ็กซ์เพรส ตลอดจนเตรียมขยายพื้นที่การให้บริการสู่ภาคตะวันออก, ภาคตะวันตก และภาคอีสานภายในปีนี้ และครอบคลุมทั่วประเทศภายในปี 2561 ตั้งเป้ายอดขายมากกว่า 1,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี

นายนิธิ ภัทรโชค ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-ตลาดในประเทศ ธุรกิจ เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง กล่าวว่า "เอสซีจี" ได้ร่วมกับ บริษัท ยามาโตะ กรุ๊ป จำกัด เปิดธุรกิจ "เอสซีจี เอ็กซ์เพรส" ธุรกิจส่งพัสดุย่อยแบบเร่งด่วน ภายใต้แนวคิด "Deliver Your Happiness" เพื่อต่อยอดการให้บริการจากธุรกิจเอสซีจี โลจิสติกส์ ที่ให้บริการด้านโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งยังตอบเทรนด์ตลาดการค้าออนไลน์ หรืออีคอมเมิร์ซ (E-commerce) ที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยในปี 2559 ตลาดอีคอมเมิร์ซในรูปแบบค้าปลีกค้าส่ง (E-commerce Retail Market)

มีมูลค่า 7 แสนล้านบาท เติบโตขึ้น 30% ส่งผลให้ความต้องการใช้บริการส่งพัสดุย่อยแบบเร่งด่วนมีแนวโน้มสูงขึ้นตามไปด้วย โดยวางให้ "เอสซีจี เอ็กซ์เพรส" เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการส่งพัสดุแบบเร่งด่วน ที่มอบบริการที่มีคุณภาพ ตรงต่อเวลา และเอาใจใส่พัสดุประดุจแม่แมวดูแลลูกแมว และได้ประเดิมเปิดให้บริการในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 ที่ผ่านมา โดยได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าที่ให้ความสนใจใช้บริการส่งพัสดุด่วน

กว่า 150,000 ชิ้น ตลอดระยะเวลา 3 เดือน

"เอสซีจี เอ็กซ์เพรส มี 4 รูปแบบบริการให้เลือก โดยบริการที่นับว่าเป็นการเปิดตลาดครั้งแรกของประเทศไทย คือบริการขนส่งพัสดุแบบควบคุมอุณหภูมิ (COOL TA-Q-BIN) จัดส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมตั้งแต่ต้นทางจนถึงมือผู้รับ ด้วยเทคโนโลยีและอุปกรณ์จากยามาโตะ กรุ๊ป ได้แก่ "กล่องรักษาความเย็น" (Cool Container) ที่สามารถเก็บรักษา

ความเย็นได้นานถึง 12 ชั่วโมง ตลอดจนกระบวนการควบคุมคุณภาพและการรักษาความเย็นด้วยหลัก "530" คือ พัสดุควบคุมอุณหภูมิ ทุกชิ้นจะมีโอกาสสัมผัสกับอุณหภูมิปกติไม่เกิน 30 วินาที และจะถูกดำเนินการคัดแยกภายในระยะเวลา 5 นาที นับตั้งแต่เปิดกล่องรักษาความเย็น (Cool Container) ตลอดจนมีกระบวนการเช็คอุณหภูมิทุกขั้นตอน เพื่อให้ผู้บริการมั่นใจได้ว่าพัสดุถูกจัดเก็บภายใต้อุณหภูมิที่เหมาะสมจนส่งมอบถึงมือผู้รับ ทั้งนี้ผู้บริโภคสามารถส่งได้ทั้งพัสดุแบบแช่เย็น (Chilled) ระบบควบคุมอุณหภูมิที่รักษาความเย็นได้ 0-8 องศาเซลเซียส สินค้าแช่แข็ง (Frozen) ระบบควบคุมอุณหภูมิที่รักษาความเย็นได้ต่ำกว่า -15 องศาเซลเซียส ซึ่งบริการขนส่งพัสดุแบบควบคุมอุณหภูมิ (COOL TA-Q-BIN) จะสามารถตอบความต้องการลูกค้ากลุ่มธุรกิจรายย่อยที่ต้องการส่งสินค้าในรูปแบบควบคุมอุณหภูมิ อาทิ อาหารแช่แข็ง ผลไม้ ยา ขนม และเครื่องสำอาง โดยคาดการณ์ว่าตลาดนี้มีมูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท และยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดให้บริการ นอกจากนี้ยังมีบริการอื่นๆ อีก ได้แก่ บริการขนส่งพัสดุย่อยแบบเร่งด่วนถึงบ้านหรือทัค-คิว-บิง (TA-Q-BIN) บริการรับพัสดุถึงบ้านลูกค้าและจัดส่งถึงปลายทางในวันถัดไป, บริการส่งเอกสารหรือพัสดุภัณฑ์ด่วนระหว่างบริษัทถึงบริษัท (DOCUMENT TA-Q-BIN), บริการเก็บเงินปลายทาง (TA-Q-BIN COLLECT)" นายนิธิกล่าว

โดยทิศทางการดำเนินธุรกิจของเอสซีจี เอ็กซ์เพรสในปี 2560 เน้นเดินหน้าสร้างการรับรู้ถึงจุดแข็งด้านคุณภาพใน

การให้บริการและความทันสมัยของระบบการจัดส่งพัสดุ โดยเน้นสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ และการเพิ่มจุดรับพัสดุเอสซีจี เอ็กซ์เพรสอย่างรวดเร็ว เพื่อกระตุ้นให้เกิดการทดลองใช้ ตอกย้ำการเป็นรายแรกและรายเดียวในตลาดที่มีนวัตกรรมบริการส่งพัสดุด่วนแบบควบคุมอุณหภูมิ และการส่งมอบบริการด้วยความเอาใจใส่จากพนักงานที่ได้รับการอบรมมาตรฐานการให้บริการจาก ยามาโตะ กรุ๊ป โดยเจาะไปยังกลุ่มเป้าหมายหลักคือ กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ (B2C) กลุ่มนักช้อปออนไลน์ และประชาชนทั่วไป (C2C) ขณะเดียวกันเตรียมเปิดจุดรับบริการในกรุงเทพฯ และปริมณฑลต่อเนื่องตลอดปี โดยจะเปิดศูนย์บริการเอสซีจี เอ็กซ์เพรส (Service Point) เพิ่มอีก 4 สาขา ได้แก่ พื้นที่เขตรัชดาภิเษก, รังสิต, ปทุมวันและบางนา ทั้งยังเตรียมจับมือกับพันธมิตรเพื่อเปิดจุดบริการตัวแทนรับพัสดุเอสซีจี เอ็กซ์เพรส (Service Agent) นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้องค์กรธุรกิจ หรือผู้ที่สนใจร่วมสมัครเป็นตัวแทนรับพัสดุเอสซีจี เอ็กซ์เพรส (Service Agent) ผ่านเว็บไซต์ www.scgexpress.co.th โดยวางเป้าหมายทั้งปีไว้ที่ 300 สาขา

ทั้งนี้ยังมีแผนในการรุกขยายพื้นที่ให้บริการไปพร้อมกับการพัฒนาคุณภาพ โดยตั้งเป้าขยายการให้บริการสู่ภาคตะวันออก, ภาคตะวันตก และภาคอีสานภายในปี 2560 พร้อมตั้งเป้าหมายขยายพื้นที่บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศภายในปี 2561 ด้วยการนำจุดแข็งที่มีของทั้ง 2 บริษัทมาประยุกต์ใช้ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายของเอสซีจี โลจิสติกส์ ที่มีบริการและ

จุดกระจายสินค้าอยู่ทั่วประเทศ และการใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญและบุคลากรจากยามาโตะ กรุ๊ป ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับโลก ทั้งในเรื่องความสุภาพและความเต็มใจให้บริการ มาพัฒนาพนักงานขับรถ

ด้าน มร.ฉั่ว ขิ่ง เส็ง กรรมการผู้จัดการ "บริษัท ยามาโตะ เอเชีย จำกัด" (YAMATO ASIA PTE., LTD) ผู้นำตลาดการขนส่งพัสดุย่อยประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า "ยามาโตะ กรุ๊ป" มีวิสัยทัศน์ในการมุ่งสู่การเป็นธุรกิจบริการขนส่งสินค้าและพัสดุอันดับหนึ่ง ทั้งในด้านนวัตกรรมการบริการและการส่งเสริมความเป็นอยู่ของผู้บริโภคในเอเชีย จึงเดินหน้าขยายธุรกิจไปยังประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเซีย อินเดีย อินโดนีเซีย พม่า และ ฟิลิปปินส์ ล่าสุดได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ "เอสซีจี" องค์กรชั้นนำไทยที่มีนโยบายการดำเนินธุรกิจที่ใส่ใจและให้ความสำคัญกับการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภคเช่นเดียวกับยามาโตะ กรุ๊ป ทั้งยังมีความแข็งแกร่งของเครือข่ายด้านโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้าในประเทศไทย จึงนำจุดแข็งดังกล่าวมาผสมผสานกับนวัตกรรมและความเชี่ยวชาญด้านตลาดขนส่งสินค้าย่อยแบบเร่งด่วนของยามาโตะ เพื่อมอบความสะดวกด้านการขนส่งสินค้าและพัสดุที่ดีที่สุด และตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยได้มากที่สุด

"ตลาดขนส่งพัสดุย่อยในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จากพฤติกรรมการใช้สมาร์ทโฟนที่เข้ามามีบทบาทกับชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้เพื่อซื้อขายสินค้าระหว่างบุคคล ส่งผลให้ตลาดอีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึงจำนวนการขนส่งพัสดุแบบย่อยก็มีอัตราเพิ่มขึ้นตามไปด้วย จึงมองว่าประเทศไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพที่จะช่วยเพิ่มเครือข่ายทางธุรกิจบริการขนส่งพัสดุขนาดย่อยที่มีคุณภาพ บริษัทเชื่อมั่นว่าการจับมือกับเอสซีจี จะสามารถให้บริการขนส่งที่มีคุณภาพให้กับทุกคนในประเทศไทยได้แน่นอน" มร.ฉั่ว ขิ่ง เส็ง กล่าว

"ทั้งนี้จากกลยุทธ์ในการสร้างการรับรู้ถึงจุดแข็งเรื่องการให้บริการที่แตกต่างของเอสซีจี เอ็กซ์เพรส การเพิ่มจำนวน

จุดรับบริการทั้งในรูปแบบศูนย์บริการ และตัวแทนรับพัสดุ ตลอดจนขยายพื้นที่บริการให้ครอบคลุมควบคู่กับการพัฒนาระบบการให้บริการอย่างมีนวัตกรรม เรามั่นใจว่าเอสซีจี เอ็กซ์เพรส จะเป็นที่รู้จักและครองใจผู้บริโภคได้ในเวลาอันรวดเร็ว โดยตั้งเป้าภายใน 5 ปี มียอดขายมากกว่า 1,000 ล้านบาท และครองความเป็นผู้นำตลาดส่งพัสดุแบบควบคุมอุณหภูมิ" นายนิธิ กล่าวสรุป

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถใช้บริการส่งพัสดุผ่านศูนย์บริการฯ และตัวแทนรับพัสดุเอสซีจี เอ็กซ์เพรส หรือ

ใช้บริการรับพัสดุถึงบ้าน (Pick up Service) ผ่านคอลเซ็นเตอร์ โทร.02-239-8999 หรือใช้บริการผ่านเว็บไซต์ www.scgexpress.co.th และแอพพลิเคชั่น SCG EXPRESS ทั้งระบบ iOS และ Android ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สำหรับผู้ที่สนใจเป็นตัวแทนรับพัสดุเอสซีจี เอ็กซ์เพรส สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่คอลเซ็นเตอร์หรือสมัครผ่านเว็บไซต์ ยามาโตะ กรุ๊ป หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ "แมวดำ" บริษัทขนส่งพัสดุย่อยรายใหญ่เป็นอันดับหนึ่งในญี่ปุ่นด้วยส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 46% และมีนวัตกรรมที่ช่วยพลิกโฉมการขนส่งพัสดุย่อยออกมาในตลาดอย่างต่อเนื่อง ด้วยวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจที่ไม่หยุดนิ่งในการสร้างความแตกต่างและสร้างโอกาสทางธุรกิจอยู่เสมอ จึงมุ่งพัฒนาระบบการให้บริการ

โดยมีการนำเทคโนโลยีมาผสมผสานกับเทรนด์และความต้องการของผู้บริโภค เพื่อมอบบริการที่สะดวกสบายและตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด จนเกิดเป็นรูปแบบการให้บริการที่หลากหลาย ครบครัน อาทิ บริการขนส่งพัสดุแบบควบคุมอุณหภูมิ (COOL TA-Q-BIN) บริการขนส่งกระเป๋าเดินทางจากสนามบิน (Airport TA-Q-BIN) บริการขนส่งกระเป๋ากอล์ฟ (Golf TA-Q-BIN) บริการขนส่งอุปกรณเล่นสกี (Ski TA-Q-BIN) เป็นต้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง