กระทรวงวิทย์ฯ เชิญกว่า 80 ภาคเอกชน ระดมสมองกำหนดทิศทางการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมของชาติ เจาะ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เร่งขับเคลื่อนการปฏิรูประบบวิจัยฯ ประเทศ

ศุกร์ ๒๑ เมษายน ๒๐๑๗ ๑๔:๑๙
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มอบหมาย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) ดำเนินการจัดการ "ประชุมเชิงปฏิบัติการเครือข่ายนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรมเป้าหมาย" ในวันที่ 20 เมษายน 2560 ณ ห้อง Crowne ชั้น 21 โรงแรมคราวน์ พลาซ่า กรุงเทพ ลุมพินี พาร์ค กรุงเทพฯ โดยได้เชิญหน่วยงานภาคเอกชนกว่า 80 หน่วยงาน และภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ระดมสมองกำหนดทิศทางการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม หวังตอบโจทย์ภาคเอกชน นำไปใช้จัดทำยุทธศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย

ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ดำเนินการจัดทำแผนขับเคลื่อนและปฏิรูประบบวิจัยแบบบูรณาการของประเทศ ตลอดจนกรอบยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ 20 ปี โดยให้ สวทน. จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ ครั้งนี้ ขึ้น เพื่อให้ทราบถึงความต้องการหรือโจทย์ของภาคเอกชนในด้านการวิจัยพัฒนาในการใช้กำหนดทิศทางการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม และจัดทำร่างกรอบการจัดทำยุทธศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ 20 ปี ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถตอบโจทย์ต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี โดยมุ่งเน้นที่อุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ จึงจำเป็นจะต้องเชิญภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมในการบูรณาการองค์ความรู้ร่วมกัน เพื่อให้งานวิจัยตรงกับความต้องการและสอดคล้องกับแผนพัฒนาชาติอย่างแท้จริง

"การที่หน่วยงานภาคเอกชนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้มาร่วมระดมสมอง ในการพิจารณาเทคโนโลยีสำคัญเพื่อจัดทำยุทธศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายในครั้งนี้นั้น ก็เพื่อวางกรอบให้ชัดเจนว่า ประเทศไทยกำลังต้องการงานวิจัยด้านใดบ้าง นอกจากนี้ยังได้ร่วมกันหารือกลไกสำคัญที่ภาครัฐและอุตสาหกรรมต้องเร่งดำเนินการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในด้านเทคโนโลยีของอุตสาหกรรม เช่น กลไกการถ่ายทอดเทคโนโลยี การพัฒนาเครือข่ายวิจัยและนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรม เป็นต้น โดยได้แนะนำให้จัดทำเป็นแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อติดตามแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น" รมว.วิทยาศาสตร์ฯ กล่าว

ด้าน ดร.กิติพงค์ พร้องวงค์ เลขาธิการ สวทน. กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการจัดทำกรอบยุทธศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ 20 ปี ภายใต้แผนงานหลักที่ 1 คือ ด้านการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทราบถึงความต้องการหรือโจทย์ของภาคเอกชนในด้านการวิจัย เทคโนโลยีสำคัญ และนวัตกรรมในแต่ละสาขาอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งข้อมูลความต้องการหรือโจทย์ดังกล่าวจะนำไปใช้ในการจัดทำแผนงานอีก 3 ด้านภายใต้ยุทธศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ 20 ปี คือ แผนงานที่ 4 ด้านการปรับระบบและบูรณาการงบประมาณวิจัยและนวัตกรรม แผนงานที่ 5 ด้านการพัฒนาบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐานด้านวิจัยและนวัตกรรม และแผนงานที่ 6 ด้านการปฏิรูประบบและพัฒนาปรับปรุงกฎหมาย

โดยจะมีจัดแบ่งการประชุมปฏิบัติการกลุ่มย่อย นำเสนอรายละเอียดของแต่ละอุตสาหกรรม อภิปรายภาพรวมของการจัดทำยุทธศาสตร์วิจัยของประเทศในระยะเวลา 5 ปี 10 ปี และ 20 ปี พร้อมทั้งนำเสนอข้อมูลเพื่อเป็นแนวทางในการระดมความเห็น 4 ส่วนหลัก 1) ทิศทางและเป้าหมายของการพัฒนาอุตสาหกรรม 2) เทคโนโลยีและนวัตกรรมส่วนที่เป็นเป้าหมายของอุตสาหกรรมไทย 3) วิเคราะห์โจทย์วิจัย พัฒนาและนวัตกรรมเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทย และ 4) ยุทธศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ของอุตสาหกรรมไทย เลฃาธิการ สวทน. กล่าว

สำหรับภาคเอกชนที่ตอบรับเข้าร่วมกว่า 80 หน่วยงานนั้น เป็นหน่วยงานที่อยู่ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่เชื่อมั่นว่าจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีกลุ่ม 5 อุตสาหกรรมเดิมที่มีศักยภาพที่มีอยู่แล้ว ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ และอุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ปัจจัยการผลิต โดยการลงทุนชนิดนี้จะส่งผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะสั้นและระยะกลางในลักษณะการต่อยอด และอีก 5 อุตสาหกรรมในอนาคตได้แก่ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติก อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ อุตสาหกรรมดิจิทัล และอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอุตสาหกรรมเดิมมีขีดจำกัด ไม่เพียงพอที่จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาอุตสาหกรรมในอนาคตควบคู่ไปด้วย เพื่อเปลี่ยนรูปแบบสินค้าและเทคโนโลยี ซึ่งการต่อยอดอุตสาหกรรมเดิมจะสามารถเพิ่มรายได้ของประชากรได้ประมาณ ร้อยละ 70 จากเป้าหมาย ส่วนอีกร้อยละ 30 จะมาจากอุตสาหกรรมใหม่

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน