นิปปอนเพนต์ ดันกรีนโปรดักส์ ตอกย้ำผู้นำตลาดสีพ่นซ่อมรถยนต์

จันทร์ ๑๕ พฤษภาคม ๒๐๑๗ ๑๔:๑๒
"นิปปอนเพนต์" กลุ่มธุรกิจสีพ่นซ่อมรถยนต์ เผยแนวโน้มตลาดปี 60 โตต่อเนื่อง ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา เตรียมทุ่มงบ 80ล้าน จัดกิจกรรมเข้าถึงผู้ใช้-ช่างสี พร้อมส่งกรีนโปรดักส์ จับมือพันธมิตร และขยายตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน มั่นใจรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดสีพ่นซ่อมรถยนต์

นายทวีชัย ตังธนาวิรุตม์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด กลุ่มธุรกิจสีพ่นซ่อมรถยนต์ กล่าวว่า นิปปอนเพนต์ให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้าและบริการ สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดสีพ่นซ่อมรถยนต์ สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดที่นำมาใช้จะเน้นใน 3 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ การร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจพันธมิตร และการขยายตลาดเพื่อให้ครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ ในส่วนของผลิตภัณฑ์ใหม่นั้น นิปปอนเพนต์ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์"แนกซ์ อีคิวบ์ (Nax E3)" ที่สุดแห่งนวัตกรรมสีพ่นรถยนต์สูตรน้ำ เป็นผลิตภัณฑ์หลักที่จะใช้ขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมาย ภายใต้แนวคิด "E3" คือ Easy-ใช้งานง่าย Exciting-ทำงานได้เร็วเต็มประสิทธิภาพ และ Ecology-ปลอดภัย ไม่ทำลายสภาพแวดล้อม

"ทุกวันนี้สีสูตรน้ำ (Waterborne) กำลังเป็นที่ต้องการของผู้ประกอบอุตสาหกรรม OEM และศูนย์ซ่อมสีทั่วโลก เนื่องจากเป็นมิตรต่อผู้ใช้ สามารถกำจัดของเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงช่วยลดปริมาณการปล่อยสารอินทรีย์ไอระเหยสู่บรรยากาศ(VOCs) จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดปัญหาโลกร้อน โดยผลิตภัณฑ์แนกซ์ อีคิวบ์ ที่นิปปอนเพนต์ได้คิดค้นขึ้นนี้ เป็นสีพ่นสูตรน้ำที่พ่นเสร็จเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา ช่วยลดเวลาการทำงาน ทั้งยังประหยัดค่าไฟ เพราะไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องผสมสี นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองมาตรฐาน VOCs ของยุโรปด้วย"

สำหรับแนวทางขยายตลาดสีพ่นซ่อมรถยนต์ นายทวีชัย กล่าวว่า ตลาดในประเทศยังคงใช้การผลักดันผ่านการร่วมมือกับตัวแทนจำหน่าย โดยเน้นในช่องทางที่นิปปอนเพนต์ยังมีส่วนแบ่งตลาดน้อยอยู่ ทั้งนี้ ได้ตั้งงบประมาณการตลาดไว้ที่ประมาณ 80ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับกิจกรรมต่างๆ ให้เข้าถึงผู้ใช้หรือช่างสีโดยตรง

นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการยกระดับฝีมือช่างพ่นซ่อมสีรถยนต์ไทยสู่สากล ด้วยการริเริ่มโครงการ "Protege Project" ซึ่งได้ร่วมกับ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน จัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมช่าง สีรถยนต์ในสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน (สพร.) 12 แห่งทั่วประเทศ

ส่วนตลาดต่างประเทศ ที่ผ่านมาเน้นไปที่ภูมิภาคเอเชียเป็นหลัก ปีนี้จะเข้าไปทำตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม) อย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น เนื่องจากตลาดกลุ่มนี้ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ขณะเดียวกันก็เริ่มขยายตลาดไปยังทวีปแอฟริกา และออสเตรเลียแล้วด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน