GL งบ Q1 ผ่านฉลุย กำไรทำนิวไฮต่อเนื่องไตรมาสที่ 10 รับปันผลพิเศษจาก GLH 346 ลบ. คาดผลประกอบการดีต่อเนื่อง Q2

จันทร์ ๑๕ พฤษภาคม ๒๐๑๗ ๑๖:๐๓
บมจ.กรุ๊ปลีส ผู้นำธุรกิจดิจิทัลไฟแนนซ์ในภูมิภาคเอเชีย รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2560 โชว์กำไร 327.36 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 47.35% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า สะท้อนถึงผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้นชัดเจนในประเทศไทยและตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจอยู่ ซึ่งงบการเงินได้ผ่านความเห็นชอบจากผู้สอบบัญชีบริษัท สำนักงาน อีวาย จำกัด (EY) โดยไม่ต้องตั้งสำรองเผื่อหนี้สูญสำหรับกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ในสิงคโปร์และไซปรัส และไม่จำเป็นต้องตั้งสำรองสำหรับการด้อยค่าของเงินลงทุนในศรีลังกา

กำไรสุทธิในไตรมาส 1 นับเป็นสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 10 หรือเพิ่มขึ้นจากกำไรสุทธิ 324.40 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมา โดยในรายงานที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันนี้ (15 พฤษภาคม 2560) ระบุว่า คณะกรรมการของบริษัทย่อยคือ GL Holdings (GLH) ในประเทศสิงคโปร์ มีมติเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมาให้จ่ายเงินปันผล 9.99 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 346 ล้านบาท ให้กับผู้ถือหุ้นคือบริษัทแม่ GL ภายในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ ซึ่งคาดว่าเงินปันผลพิเศษดังกล่าวจะส่งผลให้ผลประกอบการในไตรมาส 2/60 พุ่งขึ้นต่อเนื่อง

นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL ผู้นำธุรกิจดิจิทัลไฟแนนซ์ในภูมิภาคเอเชีย กล่าวชี้แจงว่า บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในไตรมาส 1/60 เนื่องจากต้องลงทุนเพื่อเตรียมขยายธุรกิจในตลาดหลักแห่งใหม่ 2 แห่งคือประเทศอินโดนีเซียและเมียนมา โดยทั้ง 2 ตลาดนี้มีศักยภาพการเติบโตอย่างมากในอนาคตระยะยาว ทั้งนี้ ผลกำไรในไตรมาส 1 จะสูงกว่าตัวเลขที่รายงานหากไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนดังกล่าว

นายทัตซึยะกล่าวชี้แจงเพิ่มเติมว่า งบไตรมาส 1 ได้ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีอย่างไม่มีเงื่อนไข (Clean Audit) โดยเฉพาะในประเด็นที่ไม่มีความจำเป็นต้องตั้งสำรองเผื่อการด้อยค่าของเงินลงทุนในบริษัท Commercial Credit and Finance PLC (CCF) สอดคล้องกับสิ่งที่ฝ่ายบริหารได้ชี้แจงกับผู้ถือหุ้นในการประชุมสามัญประจำปีเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งประเด็นดังกล่าวสืบเนื่องจากที่ GL ได้เข้าถือหุ้น 29.99% ใน CCF ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยราคาหุ้นของ CCF ในตลาดหลักทรัพย์โคลัมโบได้ปรับลดลง ซึ่งทำให้เกิดความกังวลในผู้ถือหุ้นบางกลุ่มว่าบริษัทฯ อาจต้องตั้งสำรองเผื่อการด้อยค่า โดยล่าสุด นายทัตซึยะกล่าวยืนยันว่าไม่มีความจำเป็นต้องตั้งสำรองเพื่อการดังกล่าวในขณะนี้ เนื่องจาก CCF มีผลประกอบการที่ดีและ GL ถือว่าเงินลงทุนใน CCF เป็นการลงทุนระยะยาว

GL ได้บันทึกส่วนแบ่งกำไรจาก CCF มูลค่าประมาณ 55.5 ล้านบาทในงบไตรมาส 1 โดยตัวเลขดังกล่าวนับเป็นประมาณ 20% ของกำไรทั้งหมดในไตรมาสแรกปีนี้ โดยกำไรส่วนที่เหลืออีกประมาณ 80% ส่วนใหญ่มาจากผลประกอบการในประเทศไทยและกัมพูชา ในขณะที่ผลกำไรจากธุรกิจในอีก 3 ประเทศคือ สปป.ลาว อินโดนีเซียและเมียนมายังเป็นส่วนน้อย เนื่องจากเพิ่งเริ่มดำเนินธุรกิจมาไม่นาน

นายทัตซึยะกล่าวว่า สำหรับธุรกิจในประเทศไทยนั้นเริ่มปรับตัวดีขึ้นในปีนี้ หลังจากที่ชะลอตัวมาประมาณ 3 ปีตามยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ปรับตัวสูงขึ้นจากเฉลี่ยประมาณ 4,100 คันต่อเดือนในไตรมาส 1 ของปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 4,500 คันต่อเดือนในไตรมาส 1 ปีนี้ หลังจากที่ GL ได้เพิ่มจำนวนดีลเลอร์มอเตอร์ไซค์ ซึ่งทำให้ตัวเลขยอดขายเพิ่มขึ้นแม้กระทั่งในเดือนเมษายนที่มีวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยบริษัทฯ ได้เริ่มขยายธุรกิจใหม่ให้สินเชื่อเช่าซื้อสำหรับรถมอเตอร์ไซค์มือ 2 ในปีนี้ หลังจากที่ได้ทดสอบตลาดจนเป็นที่น่าพอใจในรอบปีที่ผ่านมา ส่วนผลประกอบการในกัมพูชานั้นชะลอตัวลงบ้างในรอบปีที่แล้ว อันสืบเนื่องจากเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากภาวะฝนแล้ง แต่ยอดสินเชื่อสำหรับสินค้าหลักคือ เครื่องจักรการเกษตร KUBOTA มอเตอร์ไซค์ HONDA และแผงโซลาร์เซลล์เริ่มปรับตัวดีขึ้นในปีนี้ตามภาวะฝนฟ้าที่ดีกว่าเดิม โดยบริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจใหม่ปล่อยสินเชื่อให้แก่ลูกค้าที่เป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์อยู่แล้ว โดยใช้รถมอเตอร์ไซค์ของลูกค้าเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน นอกเหนือจากเดิมที่ปล่อยสินเชื่อสำหรับรถใหม่

นายทัตซึยะมองแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจในอินโดนีเซียและเมียนมาว่า จะมีนัยสำคัญต่อผลประกอบการของบริษัทฯ ในอนาคตระยะยาว โดยประเทศอินโดนีเซียเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในอาเซียนมีประชากรกว่า 250 ล้านคน ทำให้บริษัทฯ มีโอกาสนำเสนอสินเชื่อทางการเงินรูปแบบต่างๆ ในขณะที่ตลาดเมียนมานั้นบริษัทฯ เพิ่งเซ็นสัญญาเป็นผู้แทนรายเดียวสำหรับการปล่อยสินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์ HONDA เป็นเวลา 5 ปี ซึ่งนับเป็นข้อตกลงที่สำคัญในเชิงธุรกิจ เนื่องจากรถมอเตอร์ไซค์ HONDA ในปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดเพียง 10% หรือประมาณ 100,000 คันต่อปีจากยอดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ทั้งหมดในเมียนมาประมาณ 1 ล้านคันต่อปี และเนื่องจาก HONDA เพิ่งเข้าไปทำตลาดในเมียนมาเมื่อเร็วๆ นี้ โดยตลาดส่วนใหญ่จะเป็นรถมอเตอร์ไซค์คุณภาพต่ำจากจีน "นั่นหมายความว่า HONDA มีศักยภาพสูงในการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 50% ในอีกหลายปีข้างหน้า และ GL เป็นเพียงบริษัทไฟแนนซ์แห่งเดียวที่สามารถปล่อยสินเชื่อรองรับการขยายตลาดในส่วนนี้" นายทัตซึยะกล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง