ความร่วมมือดังกล่าวเป็นโครงการภายใต้นโยบาย One Belt, One Road หรือที่เรียกว่า นโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของรัฐบาลจีน หรือเส้นทางสายไหมศตวรรษที่ 21 เพื่อสนับสนุนการเชื่อมโยงระบบโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคอันเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างจีนและประเทศต่างๆ ที่อยู่ในเส้นทางสายไหม และสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีนกับประเทศในภูมิภาคดังกล่าว รวมถึงประเทศในภูมิภาคอาเซียน โดยจีนเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของไทย รองจากสหรัฐอเมริกา ในปี 2559 ไทยส่งออกไปจีนเป็นมูลค่ากว่า 23,810 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อน 0.3% (ปี 2558 มูลค่าการส่งออกของไทยไปจีนอยู่ที่ 23,742 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากจีนยังอยู่ในช่วงปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพในระยะยาว สินค้าส่งออกไปจีนอันดับต้นๆ ของไทยในปี 2559 ได้แก่ เม็ดพลาสติก (10.24%) ยางพารา (8.79%) ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง (7.50%) เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (6.83%) และเคมีภัณฑ์ (5.94%)
"ความร่วมมือในครั้งนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมาก ในการส่งเสริมการส่งออกสินค้าและบริการของไทยไปจีน ส่งเสริมให้นักธุรกิจไทยเข้าไปลงทุนในจีน และส่งเสริมให้นักลงทุนจีนเข้ามาในไทยมากขึ้น รวมทั้งโอกาสขยายความร่วมมือระหว่างนักธุรกิจไทยและจีนเพื่อเข้าไปทำการค้าการลงทุนในประเทศอื่นๆ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของทั้งสองประเทศและภูมิภาคเอเชียโดยรวม" นายพิศิษฐ์กล่าว