ปภ.แนะผู้ขับขี่เรียนรู้หลักขับรถผ่านอุโมงค์ทางลอด...ลดเสี่ยงอุบัติเหตุ

ศุกร์ ๐๙ มิถุนายน ๒๐๑๗ ๑๘:๓๑
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะผู้ขับขี่เรียนรู้ข้อควรปฏิบัติ เพื่อป้องกันอันตรายจากการขับรถผ่านอุโมค์ทางลอด โดยไม่ขับรถเร็ว โดยเฉพาะช่วงทางเข้าและทางออกอุโมงค์ เพิ่มความระมัดระวังในการขับรถช่วงที่ฝนตก และสภาพการจราจรติดขัด ไม่ขับรถย้อนศร เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า ในระยะไม่ต่ำกว่า 5 เมตร ขับรถให้อยู่กึ่งกลางช่องทางจราจร ไม่หยุดหรือจอดรถในอุโมงค์ หากจำเป็นต้องจอดรถ ควรเปิดไฟฉุกเฉิน และไม่ใช้อุโมงค์ทางลอดเป็นที่หลบฝน เพราะผู้ขับรถคันอื่นอาจมองไม่เห็น ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า อุโมงค์ทางลอด เป็นเส้นทางที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง โดยเฉพาะหากผู้ขับขี่ขาดความระมัดระวัง และขับรถด้วยความเร็วสูง จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในลักษณะรุนแรง เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) ขอแนะข้อควรปฏิบัติเพื่อป้องกันอันตรายจากการขับรถผ่านอุโมงค์ทางลอด ดังนี้ ไม่ขับรถเร็ว โดยเฉพาะช่วงทางเข้าและทางออกอุโมงค์ ซึ่งมีแสงสว่างไม่สม่ำเสมอ เพราะผู้ขับขี่อาจมองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพิ่มความระมัดระวังในการขับรถ โดยเฉพาะในช่วงฝนตก สภาพถนนเปียกลื่น มีน้ำท่วมขังเส้นทาง และสภาพการจราจรติดขัด ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ โดยไม่ขับรถย้อนศร ไม่ขับชิดท้ายรถคันหน้าในระยะกระชั้นชิด เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าในระยะไม่ต่ำกว่า 5 เมตร หากรถคันหน้าหยุดรถกะทันหัน จะช่วยให้มีระยะในการหยุดรถได้อย่างปลอดภัย ขับรถให้อยู่กึ่งกลางช่องทางจราจร ไม่เปลี่ยนช่องทางกะทันหัน เพราะรถ ที่ขับตามหลังมาอาจหยุดไม่ทัน ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ไม่หยุดหรือจอดรถในอุโมงค์ หากจำเป็นต้องจอดรถ ควรเปิดไฟฉุกเฉิน เพื่อส่งสัญญาณเตือนให้ผู้ขับรถคันอื่นเพิ่มความระมัดระวัง ไม่ใช้อุโมงค์ทางลอดเป็นที่หลบฝน โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ เพราะผู้ขับรถคันอื่นอาจมองไม่เห็นรถที่จอด ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ควรเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถเข้าและออกจากอุโมงค์ทางลอด เนื่องจากการขับรถจากที่มืดออกสู่ที่สว่าง สายตาต้องใช้ระยะเวลาในการปรับแสงประมาณ 3 วินาที จึงสามารถเห็นเส้นทางได้อย่างชัดเจน ขณะที่การขับรถจากที่สว่างเข้าสู่ที่มืด ใช้เวลาประมาณ 6 วินาที แม้จะเป็นระยะเวลา ไม่นานมากนัก แต่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง
๐๓ พ.ค. มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เดินหน้า โครงการบ้านชื่นสุขสร้างสุขผู้สูงอายุ ตอกย้ำ ความกตัญญู
๐๓ พ.ค. รีเล็กซ์ โซลูชันส์ เผยกลุ่มค้าปลีกและผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยังไม่ใช้ศักยภาพของ AI มากนัก
๐๓ พ.ค. กทม. บูรณาการหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาเด็กเช็ดกระจก-ขายของริมถนน ใช้สหวิชาชีพแก้ปัญหารายครอบครัว