เอ็มยูที กระตุกต่อมการศึกษา หยุดสาดสี ใส่เด็ก

จันทร์ ๑๒ มิถุนายน ๒๐๑๗ ๑๔:๑๐
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร หรือ เอ็มยูที (MUT) จุดประกายความคิดระบบการศึกษาไทย ขอให้หยุด "ตีกรอบความคิด" ของเด็กและเยาวชน เน้นส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ เปิดโลกทัศน์และมุมมองใหม่ โดยพัฒนาระบบการเรียนการสอนให้เหมาะสม พร้อมชวน ครู ผู้ปกครอง เด็กและเยาวชนไทย แสดงความคิดเห็น ติดแฮชแท็ก #หยุดสาดสีใส่เด็ก สะท้อนปัญหาการศึกษาไทย

ผศ.ดร.ภานวีย์ โภไคยอุดม รองอธิการบดี ฝ่ายนโยบายและแผน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร หรือ เอ็มยูที (MUT) เปิดเผยว่า "เด็กและเยาวชนไทยปัจจุบัน มีแนวคิด พฤติกรรม และรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อนมาก การพัฒนาระบบการศึกษา จึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนทั้งในส่วนของรูปแบบการเรียนการสอน และเนื้อหาหลักสูตรให้มีความน่าสนใจ กระตุ้นให้เกิดความอยาก ใคร่รู้ มากกว่าการสอนแบบเดิม เน้นการสร้างความรู้มากกว่าการท่องจำ รวมทั้งต้องสร้างบรรยากาศ สภาพแวดล้อมให้เหมาะสมเอื้อต่อการพัฒนาองค์ความรู้ด้วย

สถาบันอนาคตไทยศึกษา ระบุว่า ปัญหาการศึกษาของเด็กไทยมีปัญหา ตั้งแต่เด็กวัยก่อนเรียนไปจนถึงมหาวิทยาลัย ร้อยละ 20 ของเด็กก่อนวัยเรียนมีพัฒนาการที่ต่ำกว่าวัย เด็กชั้นประถมศึกษาประมาณ 140,000 คนอ่านหนังสือไม่ออก และกว่า 270,000 คนเขียนหนังสือไม่ได้ ส่วนเด็กชั้นมัธยมศึกษากว่า 1 ใน 3 ไม่สามารถอ่านจับใจความได้ ส่วนการที่จะเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำได้นั้น จำเป็นต้องเข้ามาเรียนในกรุงเทพ ดังเห็นได้จากโรงเรียนที่คะแนนโอเน็ตสูงสุด 50 โรงเรียน จำนวน 34 โรงเรียนอยู่ในกรุงเทพ ส่วนนักศึกษามหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่เมื่อเรียนจบ จะได้งานต่ำกว่าวุฒิที่จบการศึกษา และเงินเดือนไม่สูงนัก

ปัญหาดังกล่าว ส่วนหนึ่งเกิดจากระบบการสอนแบบเดิมที่มักจะตีกรอบความคิด สอนให้ท่องจำ ไม่เน้นการคิดวิเคราะห์ ทำให้เด็กหรือเยาวชนรุ่นใหม่ขาดอิสระทางความคิด ขาดความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ เกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายในการเรียน นำไปสู่การพัฒนาบุคลากรพร้อมใช้ในอนาคตไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ดังนั้น MUT จึงได้ออกแคมเปญรณรงค์ #หยุดสาดสีใส่เด็ก เพื่อศึกษาถึงความคิดและความต้องการของเด็กและเยาวชนต่อระบบการศึกษาปัจจุบัน รวมทั้งกระตุกต่อมความคิดต่อระบบการศึกษาไทยจากคนไทยทุกคน

ผู้ที่ต้องการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับระบบการศึกษาของไทย สามารถแสดงความคิดเห็นและติด แฮชแท็ก (Hashtad) #หยุดสาดสีใส่เด็ก ได้ทั้งในสื่อสังคมออนไลน์ Facebook และ Instagram

"ถึงเวลาแล้วที่ ระบบการศึกษาไทย จะก้าวผ่านสู่การศึกษา 4.0 ที่มุ่งเน้นการเรียนการสอนแบบ Active Learning ส่งเสริมให้เกิดการคิดวิเคราะห์ ประมวลผลความรู้มากกว่าการท่องจำ เช่นเดียวกับ MUT ที่ได้ปรับและเปลี่ยนเนื้อหารายวิชาให้เหมาะสมกับรูปแบบกิจกรรม เพื่อกระตุ้นความสนใจและความคิดสร้างสรรค์จากผู้เรียน โดยพบว่า กลุ่มนักศึกษามีความสุขกับการเรียน ส่งผลให้มีผลการเรียนที่ดีขึ้นมากเดิมกว่าร้อยละ 70" รองอธิการบดีกล่าวสรุป

สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร โทรศัพท์ 02-988-4021-4 เว็บไซต์www.mut.ac.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง
๐๓ พ.ค. มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เดินหน้า โครงการบ้านชื่นสุขสร้างสุขผู้สูงอายุ ตอกย้ำ ความกตัญญู
๐๓ พ.ค. รีเล็กซ์ โซลูชันส์ เผยกลุ่มค้าปลีกและผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยังไม่ใช้ศักยภาพของ AI มากนัก
๐๓ พ.ค. กทม. บูรณาการหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาเด็กเช็ดกระจก-ขายของริมถนน ใช้สหวิชาชีพแก้ปัญหารายครอบครัว