แคสเปอร์สกี้ แลป เผยผู้ใช้โซเชียลแชร์เรื่องส่วนตัวมากไป พบเยาวชนตกอยู่ในความเสี่ยงมากที่สุด

ศุกร์ ๑๖ มิถุนายน ๒๐๑๗ ๑๘:๑๔
การแชร์ข้อมูลส่วนตัวหรือภาพถ่ายลงโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊กหรืออินสตราแกรม กลายเป็นเรื่องปกติสำหรับหลายๆ คน แคสเปอร์สกี้ แลป ได้ทำการค้นคว้าล่าสุดเรื่อง Stranger danger: the connection between sharing online and losing the data we love เพื่อเปิดเผยว่าผู้ใช้โซเชียลได้แชร์ข้อมูลส่วนตัวสู่สาธารณะมากน้อยเพียงใด จากรายงานพบว่า ผู้ใช้ส่วนมาก (93%) มีพฤติกรรมแชร์ข้อมูลดิจิทัล ในจำนวนนี้ 70% แชร์รูปและวิดีโอของลูกหลาน และ 45% แชร์รูปและวิดีโอส่วนตัวและเปราะบางของคนอื่น รายงานยังพบพฤติกรรมเช่นนี้ในกลุ่มเยาวชน ซึ่งนับว่าแย่กว่ามาก นั่นคือการแชร์ข้อมูลส่วนตัวให้คนแปลกหน้ารับรู้อีกด้วย

ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตเกือบครึ่ง (44%) เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวสู่สาธารณะ และเมื่อข้อมูลส่งไปยังโดเมนสาธารณะ ก็จะถูกส่งต่อไปเรื่อยๆ เกินควบคุม ผู้ใช้จำนวนหนึ่งในห้ายอมรับว่าได้แชร์ข้อมูลเปราะบางกับคนอื่นทั้งที่ไม่รู้จักกันดี รวมถึงคนแปลกหน้า จึงทำให้ควบคุมการนำข้อมูลไปใช้ได้ยาก สาเหตุที่ทำให้ตกเป็นเหยื่อการจารกรรมตัวตนและการโจมตีทางการเงิน เกิดจากการแชร์รายละเอียดการเงิน/การจ่ายเงิน (37%) การสแกนหน้าพาสปอร์ต ใบขับขี่ และเอกสารอื่นๆ (41%) และการเปิดเผยพาสเวิร์ด (30%)

นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ใช้ไม่เพียงแต่แชร์ข้อมูลเท่านั้น ยังแชร์ดีไวซ์ที่เก็บข้อมูลมีค่าอีกด้วย ผู้ใช้หนึ่งในสิบ (10%) แชร์รหัส PIN ที่ใช้เข้าเครื่องกับคนแปลกหน้า ผู้ใช้หนึ่งในห้า (22%) ไม่ล็อกเครื่องและทิ้งเครื่องไว้ในคนอื่นเข้าถึง และผู้ใช้เกือบหนึ่งในสี่ (23%) เอาเครื่องตัวเองให้คนอื่นหยิบยืมใช้เป็นระยะเวลาหนึ่ง

อังเดรย์ โมโคล่า หัวหน้าฝ่ายธุรกิจสำหรับคอนซูมเมอร์ แคสเปอร์สกี้ แลป กล่าวว่า "การแชร์ข้อมูลส่วนตัวมากเกินไปกับคนอื่นๆ เป็นพฤติกรรมที่นำภัยมาสู่ตัว โลกออนไลน์ในปัจจุบัน การแชร์ข้อมูลให้คนอื่นรู้เป็นเรื่องง่ายมาก ทำได้หลายช่องทาง แต่ทันทีที่คุณเปิดเผยข้อมูลสำคัญและเปราะบาง ก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าข้อมูลจะส่งไปไหน ถูกนำไปใช้อย่างไร"

ผลการค้นคว้ายังพบว่า เยาวชนมักแชร์รูปส่วนตัวออนไลน์มากกว่าวัยอื่น ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอายุระหว่าง 16-24 ปี จำนวน 61% ยอมรับว่าได้แชร์รูปจริง ขณะที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่อายุมากกว่า 55 ปี มีจำนวนเพียง 38% เช่นเดียวกับการแชร์ข้อมูลการเงิน เยาวชน 42% แชร์ข้อมูลการเงิน/การจ่ายเงิน ขณะที่ผู้ใช้รุ่นใหญ่มีเพียง 27% เท่านั้น

อังเดรย์กล่าวเสริมว่า "การหวังให้ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตหยุดแชร์รูป แชร์รายละเอียดส่วนตัวและข้อมูลอื่นให้คนอื่นรู้ คงเป็นไปได้ยาก เราจึงขอให้ผู้ใช้คิดให้รอบคอบก่อนแชร์ข้อมูลสำคัญสู่สาธารณะ และควรมีมาตรการเพื่อปกป้องดูแลความปลอดภัย ไม่ให้ข้อมูลและดีไวซ์ตกอยู่ในมือมิจฉาชีพ"

ข้อมูลเพิ่มเติม

• รายงานเรื่อง "Stranger danger: the connection between sharing online and losing the data we love"

https://blog.kaspersky.com/my-precious-data-report-three/16883/

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง