บีโอไอจัดคณะเอสเอ็มอีบุกแม่สอด เล็งสร้างโอกาสลงทุนรับเส้นทางเชื่อมไทย-เมียนมา-อินเดีย

จันทร์ ๐๓ กรกฎาคม ๒๐๑๗ ๑๒:๕๑
บีโอไอนำคณะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย 35 ราย สร้างเครือข่ายทางธุรกิจ ลงพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษอ.แม่สอด จ.ตาก พร้อมศึกษาเส้นทางโลจิสติกส์ ไทย เมียนมา และอินเดีย มั่นใจปูทางโอกาสขยายตลาดเชื่อมประเทศเพื่อนบ้าน

นายเจษฎา ศรศึก ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาปัจจัยสนับสนุนการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า บีโอไออยู่ระหว่างเดินหน้าตามแผนงานส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ให้มีโอกาสสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน และสามารถต่อยอดธุรกิจไปสู่การผลิตซึ่งรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่สอดคล้องกับนโยบาย "ประเทศไทย 4.0" ของรัฐบาล

ทั้งนี้ระหว่างวันที่ 17-21 กรกฎาคม 2560 บีโอไอจะนำคณะเอสเอ็มอี จำนวน 35 ราย ซึ่งเป็นผู้ประกอบการ ในกลุ่มผู้ผลิตสินค้าเกษตรแปรรูป สิ่งทอ พลาสติก และวัสดุก่อสร้าง ร่วมเดินทางไปจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงธุรกิจกับผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี จ.กำแพงเพชร เช่น บริษัท ไทยเอ็นเนอร์ยี่คอนเซอร์เวชั่น จำกัด ผู้ผลิตอุปกรณ์พลังงานและระบบบำบัดน้ำเสียให้กับอาคาร โรงงานอุตสาหกรรม บริษัท โหย่ง จิ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตเครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังจะได้เข้าสำรวจพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ อ.แม่สอด จ.ตาก และรับฟังบรรยายสรุปภาวะการค้าชายแดน และความคืบหน้าในการพัฒนาพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ

นายเจษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะเอสเอ็มอี จะได้เข้าไปศึกษาศักยภาพเศรษฐกิจการค้าการลงทุนของจังหวัดเมียวดี ในสหภาพเมียนมา และสำรวจเส้นทางคมนาคมที่เชื่อมระหว่าง อ.แม่สอด ของประเทศไทย ไปยังประเทศเมียนมา และอินเดีย ซึ่งเป็นเส้นทางที่รัฐบาลของแต่ละประเทศให้ความสำคัญ และคาดการณ์ว่า เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะเป็นเส้นทางเชื่อม 3 ประเทศ และสนับสนุนนโยบาย "มองตะวันออก" (Look East Policy) ของอินเดีย ที่ต้องการเข้ามาค้าขายและลงทุนในไทยและอาเซียน ในขณะที่ไทยจะเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของภูมิภาค และได้ใช้ประโยชน์จากเส้นทางนี้เพื่อขยายการค้า การลงทุนไปยังเมียนมาและอินเดียและเชื่อมต่อไปยังตะวันออกกลางต่อไป

"กิจกรรมครั้งนี้ จะทำให้เอสเอ็มอีไทยได้ลงพื้นที่จริงเพื่อศึกษาลู่ทางการลงทุนและขยายตลาดสินค้าเพื่อรองรับการพัฒนาของทั้ง 3 ประเทศ ซึ่งปัจจุบันสินค้าไทยมีโอกาสค่อนข้างมาก เนื่องจากประชากรของเมียนมาและอินเดียมีความนิยมสินค้าไทย ทั้งด้านคุณภาพและราคาที่สมเหตุสมผล โดยเมื่อโครงการก่อสร้างเส้นทางดังกล่าวแล้วเสร็จ ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า มั่นใจจะทำให้เอสเอ็มอีไทยขยายตลาดและวางแผนการผลิตในภาคอุตสาหกรรมได้อีกมาก" นายเจษฎา กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๗ เม.ย. อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud