CAT เร่งขยายเคเบิลใต้น้ำ 5 พันล้าน หลัง ครม.อนุมัติงบกระทรวงดีอี ขยายอินเทอร์เน็ตเกตเวย์นำประเทศสู่ดิจิทัลฮับอาเซียน

อังคาร ๐๘ สิงหาคม ๒๐๑๗ ๑๑:๒๐
CAT พร้อมดำเนินการทันทีหลัง ครม.อนุมัติงบประมาณโครงการขยายอินเทอร์เน็ตเกตเวย์และเคเบิล

ใต้น้ำเชื่อมต่อระหว่างประเทศ คาดทันแผนดีเดย์เปิดบริษัทลูก NGDC ปลายปีนี้ พร้อมปรับวิสัยทัศน์บริษัทแม่ สู่ดิจิทัลเซอร์วิส รองรับการขับเคลื่อนนโยบาย Thailand 4.0

พ.อ.สรรพชัย หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT เปิดเผยว่า CAT ซึ่งเป็นหน่วยงานดูแลด้านโครงข่ายระหว่างประเทศได้รับมอบหมายให้ดำเนินการโครงการขยายอินเทอร์เน็ตเกตเวย์และเคเบิลใต้น้ำเชื่อมต่อระหว่างประเทศ(ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE))

ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่รัฐบาลกำลังเร่งผลักดันให้เกิดการพัฒนาตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยในส่วนการขยายเคเบิลใต้น้ำ กระทรวงดีอีได้นำเสนอให้ CATและกระทรวงฯสามารถเบิกจ่ายแทนกันได้ ซึ่งกระทรวงดีอีนำเสนอ ครม.เห็นชอบในวันนี้ (1 ส.ค.60) CATได้เตรียมงานล่วงหน้าบางส่วนและเชื่อมั่นว่าจะสามารถดำเนินการได้ทันตามกำหนดเวลา

โครงการขยายอินเทอร์เน็ตเกตเวย์ฯ ในงบประมาณ 5 พันล้านบาท ประกอบด้วย 3 กิจกรรม ได้แก่

1. การขยายโครงข่ายบนบกเพิ่มช่องทางเชื่อมโยงไปสู่เพื่อนบ้าน เช่น ลาว กัมพูชา พม่า มาเลเซีย

2. การขยายเส้นทางเชื่อม Backhaul ในประเทศ ระหว่างสถานีเคเบิลใต้น้ำซึ่งเป็นจุดขึ้นบกหลัก คือศรีราชา สงขลา สตูล ซึ่งเป็นการเพิ่ม Capacity ศักยภาพการเชื่อมโยงภายในประเทศเพื่อรองรับทราฟิกให้สอดคล้องกับการขยายช่องทางระหว่างประเทศ

3. การสร้างเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศ(เส้นใหม่) ไทย-ฮ่องกง

"สองกิจกรรมแรก CAT จะเริ่มดำเนินการได้ทันทีเพราะเป็นการขยายเส้นทางในประเทศที่เราทำได้เอง ส่วนการสร้างเคเบิลใต้น้ำเส้นใหม่ไทย-ฮ่องกงนั้นมีการเจรจาหลายฝ่าย เบื้องต้น CAT ได้เริ่มเจรจาหลักการกับพาร์ทเนอร์ในจีน และพร้อมจะขยายการเจรจาเชิญชวนประเทศอื่นที่อาจสนใจร่วมเป็นภาคีในการจัดสร้างเคเบิลใต้น้ำไทย-ฮ่องกงร่วมกัน เช่น กัมพูชา เวียดนาม ฯลฯ"

สำหรับขั้นตอนหลังจากที่ประชุม ครม.มีมติอนุมัติแล้ว CAT จะทำ TOR ตามราคากลางผ่านคณะกรรมการพิจารณางบประมาณ และคณะกรรมการบริษัทชุดใหญ่ และขออนุมัติให้ซื้อจ้างตามระเบียบต่อไป โดยมีเวลาประมาณ 2 เดือน สิงหาคม-กันยายน ในการดำเนินกระบวนการทั้งหมดนี้ให้เสร็จสิ้นก่อนตุลาคมเพื่อให้บริษัท NGDC สามารถเริ่มทำงานเต็มรูปแบบทันในวันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำแผนการเบิกจ่ายงวดแรกได้ตามกำหนด

จัดตั้งบริษัทลูก NGDC เตรียมเปิดเป็นทางการพฤศจิกายนนี้

พ.อ.สรรพชัย กล่าวต่อไปว่า CAT ได้เตรียมจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท NGDC ภายในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้เป็นการดำเนินการเบื้องต้นตามมติ คนร. โดยรายละเอียดขั้นตอนต่อไปนั้นยังคงอยู่ระหว่างรอบริษัทที่ปรึกษาทั้งด้านบุคลากรและการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน โมเดลธุรกิจ และการศึกษาความเป็นไปได้ของธุรกิจ ซึ่งทั้งหมดต้องศึกษาลงลึกในรายละเอียด เช่น ที่มาของเงินทุนซึ่งธุรกิจเคเบิลใต้น้ำต้องใช้เงินลงทุนสูง รวมทั้งเงื่อนไขที่จะเสนอรัฐบาลช่วยสนับสนุน ฯลฯ ทั้งนี้ CAT จะสรุปผลการศึกษาทั้งหมดนำเสนอ ครม.ก่อนเดือนตุลาคม 2560 เพื่อให้สอดคล้องกับแผนธุรกิจและมีกำหนดเปิดดำเนินการ NGDC เต็มรูปแบบในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560

"ระหว่างรอผลการศึกษา CAT ได้เริ่มดำเนินงานช่วง Interim ทำธุรกิจในส่วนที่เป็น NGDC ให้แยกเป็นอิสระ

ซึ่งหลังจดทะเบียนบริษัทเรียบร้อยจากนี้จะมีการแต่งตั้ง CEO รักษาการเพื่อดูแลภาพรวม NGDC

พร้อมกับตั้งคณะกรรมการบริษัทซึ่งจะเริ่มการสรรหา CEO จริงและรับสมัครพนักงานเข้าสู่ NGDC ต่อไป กระบวนการทั้งหมดนี้จะเสร็จสิ้นในเดือนตุลาคม"

ปัจจัยบวก NGDC

พ.อ.สรรพชัย กล่าวต่อไปว่าปัจจัยที่จะทำให้ NGDC ประสบความสำเร็จมีสมมติฐานคือ 1.จำนวนพนักงานพอเหมาะ 2. พนักงานมีประสิทธิภาพจากการคัดเลือกสรรหา 3. มูลค่าทรัพย์สินที่ไปสามารถแข่งขันในตลาดได้ 4.ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ

"การสนับสนุนจากภาครัฐจะช่วยให้บริษัทดำเนินธุรกิจได้ต่อเนื่องได้ในช่วงแรก โดยเมื่อหน่วยงานภาครัฐหลายหน่วยงานต้องใช้บริการธุรกิจคลาวด์อยู่แล้วอาจสามารถพิจารณาให้ภาครัฐเหล่านี้ไม่ต้องลงทุนเองโดยมาใช้ทรัพยากรของ NGDC ในสัดส่วนหนึ่ง โดยการสนับสนุนเหล่านี้อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อสรุปเสนอ ครม.พิจารณาซึ่งหากทั้งหมดทำได้สอดคล้องไปพร้อมๆกันจะหนุนให้ธุรกิจใหม่ไปต่อได้ ขณะที่หากการสนับสนุนไม่เกิดตามที่ตั้งไว้ Business Model จะเปลี่ยนไปอีกแบบ"

ปรับจุดยืน-วิสัยทัศน์บริษัทแม่ (CAT Holding)

พ.อ.สรรพชัย ยังได้เผยถึงการปรับตัวของ CAT หลังการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่เป็น CAT Holding ว่าจากเดิมที่ธุรกิจของ CAT วางจุดแข็งที่โครงสร้างพื้นฐานเป็นหลัก ปีหน้าจะปรับเปลี่ยนมุ่งเน้นธุรกิจด้านดิจิทัลเซอร์วิสมากขึ้น เช่น บริการ IoT และ Smart Solutions โดยเน้นบริการอัจริยะสำหรับสมาร์ทซิตี้เพื่อรองรับการพัฒนาประเทศไทยที่สอดคล้องตามนโยบายThailand 4.0

"แนวโน้มธุรกิจโทรคมนาคมด้านโครงสร้างพื้นฐาน วันนี้ทุกรายทำได้เพียงลดราคาแข่งกันเท่านั้นโดยที่ไม่ได้มอบประสบการณ์ที่แท้จริงให้กับลูกค้า อนาคตของเราจะไปโฟกัสตรงนั้นมากขึ้น"

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๒๑ FLOYD คว้า 2 โปรเจกต์ใหม่ จากบิ๊กศูนย์การค้าส่งชั้นนำ รวมมูลค่ากว่า 115.56 ล้านบาท
๑๓:๕๒ เมอร์เซเดส-เบนซ์ นำทีม The new E-Class บุกห้างดัง จัดเต็มข้อเสนอในงาน Mercedes-Benz StarFest 2024 ชวนลูกค้าสัมผัสรถที่ใช่ในพื้นที่ใกล้บ้านคุณ
๑๓:๒๔ โฮมโปรเดินหน้าโปรเจค Green Transport เปิดตัวรถขนสินค้า EV Truck พลังไฟฟ้า พลังงานสะอาด 100% มุ่งเป้าสู่ Net Zero ระดับโลก ในปี
๑๓:๑๒ STA เดินหน้าส่งมอบยาง EUDR แก่ลูกค้า ย้ำความพร้อมรับมาตรการตรวจสอบย้อนกลับจากยุโรปและทั่วโลก
๑๓:๐๔ บลจ.กสิกรไทย เปิดตัว KNOW THE MARKETS SERIES คัมภีร์การลงทุนเชิงลึก มองไตรมาส 2 ตลาดหุ้นปรับฐาน แนะเน้นหลักการกระจายลงทุน
๑๓:๑๖ FWD ประกันชีวิต จัดงาน MDRT Agency Annual Awards 2024 ฉลองความสำเร็จในการพัฒนาศักยภาพตัวแทนอย่างต่อเนื่อง
๑๓:๔๑ บลจ.อีสท์สปริง ได้รับอนุมัติเปลี่ยนชื่อกองทุนรวม 135 กองทุน จากสำนักงาน ก.ล.ต. มีผล 17 มิ.ย. 67
๑๓:๑๑ บางจากฯ ร่วมภาคีเครือข่ายป่าชายเลน Thailand Mangrove Alliance
๑๓:๐๙ สคร.12 สงขลา เตือนเปิดเทอมนี้ 4 โรค ต้องระวัง แนะผู้ปกครอง เตรียมความพร้อมบุตรหลาน ป้องกันตนเองเมื่อไปโรงเรียน
๑๓:๔๔ BBLAM เสนอขาย IPO 'BP10/24(AI)' วันที่ 2-7 พ.ค. 2567