ประเด็นสำคัญจากเวทีเสวนา Capital Market Research Forum “เศรษฐกิจไทยได้อะไรจากการลงทุนในต่างประเทศของภาคเอกชน”

ศุกร์ ๑๑ สิงหาคม ๒๐๑๗ ๑๔:๓๗
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2560 จัดโดยสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

เรียบเรียงโดย สถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ในช่วงที่ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคที่เงินลงทุนของบริษัทไทยไปต่างประเทศ (Thai direct investment) มีมูลค่ามากกว่าเงินลงทุนจากต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย (Foreign direct investment) นำมาสู่คำถามว่า เศรษฐกิจไทยได้อะไรจากการออกไปลงทุนในต่างประเทศของบริษัทไทย มูลค่าเงินลงทุนในประเทศจะลดลงหรือไม่

ในมุมมองทางวิชาการ ผลงานวิจัยโดย รศ.ดร. ภวิดา ปานะนนท์ ชี้ให้เห็นว่า จากการศึกษาข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย "การลงทุนในต่างประเทศไม่ได้ส่งผลให้การลงทุนในประเทศลดลง และยังมีส่วนช่วยให้เกิดการลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้นในอีก 1 ปีหลังจากที่เกิดการลงทุนในต่างประเทศ" โดยกลไกที่จะส่งผลให้เศรษฐกิจในประเทศได้รับประโยชน์จากการลงทุนในต่างประเทศโดยตรงได้แก่ 1) การเปิดตลาดในต่างประเทศส่งผลให้การผลิตของ supply chain ในประเทศเพิ่มขึ้นด้วย (vertical upgrading) 2) การลงทุนในต่างประเทศส่งผลให้เกิดกิจกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มกับหน่วยงานในประเทศ (horizontal upgrading) การลงทุนในต่างประเทศจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในประเทศโดยเฉพาะเศรษฐกิจระดับฐานรากก็ต่อเมื่อภาครัฐและภาคเอกชนมีความเข้าใจตรงกันโดยรัฐควรสนับสนุนให้เกิดการส่งผ่านผลประโยชน์จากการลงทุนในต่างประเทศของบริษัทขนาดใหญ่ให้มาถึงบริษัทขนาดกลางและเล็กในประเทศที่อยู่ใน supply chain เดียวกันให้สามารถพัฒนาไปพร้อมกับบริษัทขนาดใหญ่ กลไกนี้จะส่งผลดีมากกว่าการสนับสนุนเงินทุนแบบให้เปล่าเพื่อการลงทุนในต่างประเทศแก่บริษัทขนาดกลางและเล็ก

แนวคิดนี้สอดคล้องกับความเห็นของภาคเอกชนโดยคุณสุรงค์ บูลกุล เห็นว่าประเทศไทยมีขนาดเล็กเกินไปสำหรับบริษัทขนาดใหญ่จึงจำเป็นต้องขยายธุรกิจไปต่างประเทศซึ่งต้องเผชิญความเสี่ยงหลายประการ อาทิ ความเสี่ยงด้าน know how สำหรับการประกอบธุรกิจในต่างประเทศ ขาดกลยุทธ์การลงทุนในต่างประเทศ ความเสี่ยงด้าน know who สำหรับการหาพันธมิตรทางธุรกิจในต่างประเทศ ตลอดจนกฎ กติกา วิถีในการทำธุรกิจในแต่ละประเทศที่แตกต่างกันอย่างมาก ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องยากสำหรับบริษัทขนาดกลางและเล็ก ดังนั้นบริษัทขนาดกลางและเล็กจำเป็นต้องมีภูมิคุ้มกันสำหรับการไปลงทุนในต่างประเทศโดยจะต้องมีพันธมิตรเป็นบริษัทขนาดใหญ่เป็นผู้นำในการลงทุนในต่างประเทศ นอกจากนี้ควรกำหนดยุทธศาสตร์การลงทุนในต่างประเทศในระดับกลุ่มอุตสาหกรรมซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมและในระดับประเทศ หากอุตสาหกรรมใดที่มีศักยภาพในการลงทุนในต่างประเทศและจะทำให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ supply chain ที่อยู่ในประเทศ อุตสาหกรรมนั้นควรได้รับการสนับสนุนให้ลงทุนในต่างประเทศ

แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะมีขนาดเล็กเกินไปสำหรับบริษัทขนาดใหญ่ บริษัทจึงขยายธุรกิจไปต่างประเทศ และอาจส่งผลให้การลงทุนในประเทศลดลง แต่หากทำให้ประเทศไทยมีความน่าสนใจในการลงทุน ภาคเอกชนจะเพิ่มการลงทุนในประเทศ แนวคิดดังกล่าวเป็นมุมมองของภาครัฐโดย ดร. ศรพล ตุลยะเสถียร ที่สนับสนุนให้ภาคเอกชนลงทุนทั้งในและต่างประเทศโดยรัฐมีบทบาทในการสนับสนุนการลงทุนในประเทศด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการลงทุน เช่นการพัฒนา Eastern Economic Corridor ที่จะเชื่อมไทยเข้ากับภูมิภาค ในส่วนการลงทุนในต่างประเทศไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย แต่บริษัทจำนวนมากที่ลงทุนในต่างประเทศยังลงทุนใน low value supply chain เช่น การผลิต การหาวัตถุดิบ ซึ่งเปรียบเทียบได้กับการจับปลาเล็ก (catch small fishes) หากภาครัฐจะส่งเสริมควรส่งเสริมให้ลงทุนด้วยกลยุทธ์ catch big fishes โดยลงทุนใน high value supply chain เช่น การวิจัยและพัฒนา การสร้างแบรนด์ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการยกระดับบริษัทผู้ลงทุนเอง และผลดีต่อเศรษฐกิจในประเทศโดยการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้จากประสบการณ์ในต่างประเทศ

ความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้เศรษฐกิจไทยน่าสนใจสำหรับการลงทุนควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในต่างประเทศในรูปแบบที่จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในประเทศผ่านความเชื่อมโยงภายใน supply chain หรือในกลุ่มอุตสาหกรรมจะนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศร่วมกันในทุกระดับ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน