ผลสำรวจชี้ไทยก้าวนำ ด้านการใช้ API ในชาติอาเซียน และเป็นอันดับ 2 ในชาติเอเชีย-แปซิฟิก

พุธ ๒๓ สิงหาคม ๒๐๑๗ ๑๓:๑๔
ผลสำรวจชี้ไทยก้าวนำ ด้านการใช้ API ในชาติอาเซียน และเป็นอันดับ 2 ในชาติเอเชีย-แปซิฟิก แต่ยังเผชิญอุปสรรคสำคัญ ด้านการร่นระยะเวลาสู่ตลาด หลังจากการใช้งาน API

ผลจากการสำรวจวิจัยระดับโลกโดยบริษัท ซีเอ เทคโนโลยี ชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยก้าวเป็นผู้นำในระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในด้านการใช้งานAPI หรือ Application Programming Interface แล้วโดยกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า ปัจจุบันได้ใช้งาน APIแล้วในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิตอล

การสำรวจนี้ใช้ชื่อว่า API สู่การสร้างความเชื่อมโยงทางธุรกิจในยุคเศรษฐกิจแอพพลิเคชั่น (APIs: Building a Connected Business in the App Economy ) ได้นำข้อมูลวิเคราะห์จากการตอบแบบสอบถามจากบรรดาผู้บริหารระดับสูงทางธุรกิจและผู้บริหารไอทีจำนวน 1770 รายทั่วโลก โดยมี 799 ราย มาจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น(APJ) โดยรวมประเทศไทยด้วย ผลการสำรวจนี้มุ่งเป้าไปที่หาข้อมูลเชิงลึกว่า องค์กรบริษัทต่างๆสามารถนำ API เข้ามา ขยายธุรกิจของตนในยุคเศรษฐกิจแอพพลิเคชั่นอย่างไรบ้าง

นอกจากที่ประเทศไทยจะได้รับการจัดอันดับสูงสุดในด้านอัตราการใช้งาน API ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้แล้ว บริษัท หน่วยงานและองค์กรต่างๆ ในประเทศไทยยังได้รับผลตอบแทนมหาศาลตามการวัดค่า KPIs เชิงปริมาณ จากการลงทุนลงแรงในด้าน API โดยตัวผลการสำรวจได้ระบุดังนี้

• สามารถลดจำนวนความล้มเหลวของ การตรวจสอบที่ต้องปฏิบัติตามระเบียบภาครัฐ ลงได้ 55 เปอร์เซ็นต์

• ลดค่าใช้จ่ายด้านไอทีที่เกี่ยวข้อง 55 เปอร์เซ็นต์

• เพิ่มความพอใจของลูกค้าได้ 53 เปอร์เซ็นต์

• เพิ่มปริมาณยอดการทำธุรกรรม 53%

• เพิ่มความพอใจในการทำงานกับ ของพาร์ตเนอร์และคู่ค้า 52 เปอร์เซ็นต์

อัตราการปรับปรุงพัฒนานี้ยังจัดว่าสูงที่สุดในประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และ สูงที่สุดเป็นอันดับสองในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น โดยอยู่อันดับรองจากประเทศอินเดียและยังจัดว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น ซึ่งที่อยู่ที่ 43-44 เปอร์เซ็นต์ ในแต่ละการวัด KPIs

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะได้รับการจัดอันดับคะแนนที่ดีในด้านการใช้งาน API แต่บริษัทและองค์กรต่างๆ ยังคงตามหลังในเรื่องของ การนำโปรดักต์ออกสู่ตลาดอย่างรวดเร็วโดย ในแง่นี้มีการปรับปรุงพัฒนาเพิ่มขึ้นเพียง 16 เปอร์เซ็นต์ ในด้านของเวลาที่ใช้ในการพัฒนาโปรดักต์ ทดสอบและออกแอพพ์ใหม่ๆ มาสู่ตลาดและอัตรานี้ เป็นการวัดหลังการใช้งาน API ด้วยซึ่งจัดว่าอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นซึ่งอยู่ที่ 21 เปอร์เซ็นต์

จะเห็นว่า เป้าหมายการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จาก APIs นั้น เส้นทางการพัฒนาก็มีอุปสรรคด้วยเช่นกัน ซึ่งแตกต่างออกไปตามแต่ละประเทศ โดยในประเทศไทยผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า ยังขาดทรัพยากรแรงงานที่มีทักษะฝีมือในการนำประโยชน์จากการใช้งาน API มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ ในขณะที่มีอีก 41 เปอร์เซ็นต์ระบุว่า คือปัญหานี้ รวมกับปัญหาขีดความสามารถในการรักษาความปลอดภัยให้กับระบบ API ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่อีกส่วนระบุว่ามีปัญหาในด้านขีดความสามารถในการปรับขยายขนาดตามการใช้งานหรือการบริหารจัดการประสิทธิภาพการทำงานโดย 2 อันหลังนี้จะ มีผู้ตอบแบบสอบถามระบุไว้ในอัตรา 37 เปอร์เซ็นต์

"ความสำเร็จในยุคเศรษฐกิจแอพพลิเคชั่นปัจจุบัน หมายความว่าการเชื่อมโยงโปรดักต์ที่มีให้ตรงกับความต้องการจำเป็นของลูกค้า เชื่อมโยงลูกค้ากับการใช้งาน app ในอุปกรณ์ต่างๆและเชื่อมโยงบริษัทองค์กรหน่วยงานต่างๆให้เข้ากับ ระบบทำงานกับพาร์ตเนอร์เป็นเรื่องสำคัญ โดย APIจะเป็นตัวตั้งสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบจิตอลและเป็นศูนย์กลางประสานงานสำคัญที่ช่วยให้การเชื่อมต่อต่างๆสามารถเป็นไปได้อย่างรวดเร็วถูกต้องแม่นยำและมีความรักษาความปลอดภัย ในขณะที่นำเสนอบริการที่มีคุณภาพได้ " นิค ลิม รองประธานภูมิภาคอาเซียนและจีน และภูมิภาครายรอบจีน บริษัทซีเอ เทคโนโลยีกล่าว

ข้อดีของการบริหารจัดการ API ระดับสูง

ผลการศึกษาด้านความพร้อมของรูปแบบการจัดการ API ได้ประเมินพิจาณณาว่า บริษัทและองค์กรต่างๆได้มีการใช้งานโปรแกรมทูลและเทคโนโลยี ระบบต่างๆ รวมทั้งขั้นตอนการทำงานและศักยภาพที่จำเป็นที่จะต้องมีในการบริหารจัดการ API อย่างครบถ้วนครบวงจรอย่างไรบ้างโดย จุดนี้จะเป็นพื้นฐานของการบริหารจัดการ API ครบวงจรที่มีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องมีเพื่อที่จะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการพัฒนาระบบ API นับตั้งแต่ ขั้นตอนจากแนวคิดเริ่มต้น ไปสู่การใช้ประโยชน์ในขั้นปลาย

จากผลการสำรวจนี้ ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพ API ขั้นสูงมากที่สุดหรือ 63 เปอร์เซ็นต์ ตามติดประเทศอินเดียและอินโดนีเซียและสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นที่อยู่ที่ 55 เปอร์เซ็นต์ โดยผู้ตอบแบบสอบถามที่มีการใช้งานระบบบริหารจัดการ API แบบครบวงจรแล้วนั้น ได้มีการใช้งานตามศักยภาพด้านต่างๆ อย่างน้อย 80 เปอร์เซ็นต์ เช่นการเชื่อมต่อระบบเดิมเข้ากับระบบใหม่ที่ใช้งาน การสร้างAPI อย่างรวดเร็วเพื่อที่ จ ส่งต่อข้อมูลในระบบได้อย่างปลอดภัย การเชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับระบบแบคเอนด์และ แอพพลิเคชั่นเดิมที่ใช้งานอยู่ การปกป้องการเชื่อมต่อที่มีด้วยระดับรักษาการความความปลอดภัยที่ถูกต้องเหมาะสม การเร่งการพัฒนา ด้านโมไบล์ การใช้ประโยชน์จากระบบดิจิตอลที่เกี่ยวข้องด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลระดับสูงและการสร้างรายได้อื่นๆ

"น่าประทับใจอย่างยิ่ง ที่ได้เห็นมีการบรรลุผลระดับสูงทางด้านการบริหารจัดการ APIในประเทศไทยซึ่งแสดงให้เห็นชัดว่าบริษัทต่างๆมีความตระหนักชัดเจนในความจำเป็นที่จะต้องลงทุนในด้านศักยภาพระดับสูงเพื่อรองรับการใช้งานAPIอย่างครบวงจร ซึ่งส่งผลให้มีความสำเร็จและได้รับผลตอบแทนกลับคืนมา อย่างไรก็ตามยังมีรายละเอียดงานที่จะต้องดำเนินการให้ลุล่วงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความคล่องตัวทางธุรกิจและจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับองค์กรหน่วยงานบริษัทต่างๆ ที่จะแก้ปัญหาอุปสรรคเหล่านี้ตั้งแต่เริ่มต้นในการใช้งาน APIเพื่อให้มั่นใจว่าแนวคิดการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิตอลจะประสบความสำเร็จ" นิค ลิม รองประธานภูมิภาคอาเซียนและจีน และภูมิภาครายรอบจีน บริษัทซีเอ เทคโนโลยีกล่าวเสริม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง