แนะเกษตรกรพิจิตร ปลูกอ้อยโรงงาน และ มะพร้าว ทดแทนพื้นที่นาไม่เหมาะสม

ศุกร์ ๒๕ สิงหาคม ๒๐๑๗ ๑๓:๑๓
สศท. 12 เปิดผลศึกษาแนวทางการบริหารจัดการเขตเกษตรเศรษฐกิจสินค้า โดยใช้ Agri - Map เผย จังหวัดพิจิตร มีพื้นที่เหมาะสมในการเพาะปลูกข้าวนาปี คิดเป็นร้อยละ 91.90 ของเนื้อที่เพาะปลูกทั้งหมด แนะเกษตรกรในพื้นที่ไม่เหมาะสม สามารถปรับเปลี่ยนไปปลูกอ้อยโรงงาน และมะพร้าวทดแทนได้ ซึ่งได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า

นายคมสัน จำรูญพงษ์ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการศึกษาแนวทางการบริหารจัดการเขตเกษตรเศรษฐกิจสินค้าที่สำคัญ (Zoning) โดย Agri - Map จังหวัดพิจิตร โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 12 จังหวัดนครสวรรค์ (สศท.12) ดำเนินการวิเคราะห์สภาพทางกายภาพร่วมกับสภาพทางเศรษฐกิจ และกำหนดแผนงาน/โครงการเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชเศรษฐกิจสำคัญในพื้นที่เหมาะสมมาก (S1) ปานกลาง (S2) และการปรับเปลี่ยนการผลิตในพื้นที่เหมาะสมน้อย (S3) และไม่เหมาะสม (N)เป็นการผลิตพืชทางเลือกอื่นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

สำหรับจังหวัดพิจิตร มีสินค้าเกษตรที่สำคัญ ที่มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมสูงสุด 4 ลำดับแรก ได้แก่ ข้าวนาปี ไข่เป็ด ส้มโอ และมะนาว สำหรับการศึกษาครั้งนี้ สศท.12 ได้ใช้ Agri-Map กำหนดพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลทางการผลิต ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ดังกล่าวใช้ประกอบการตัดสินใจทำการผลิตของเกษตรกร และเป็นแผนส่งเสริมการผลิตทางเกษตรที่เหมาะสมกับพื้นที่

ด้านนายชีวิต เม่งเอียด ผอ.สศท.12 กล่าวถึงผลการศึกษาว่า จากการใช้ Agri-Map จัดเก็บข้อมูลทางการผลิต ได้แก่ ผลผลิตต่อไร่ ต้นทุนการผลิต ราคา ผลตอบแทน และข้อมูลบัญชีสมดุลของสินค้าเกษตรที่สำคัญ ตัวอย่างในผลการศึกษา พบว่า

ข้าวนาปี มีพื้นที่เหมาะสมในการเพาะปลูก คิดเป็นร้อยละ 91.90 ของเนื้อที่เพาะปลูกทั้งหมด มีพื้นที่ไม่เหมาะสมในการเพาะปลูก คิดเป็นร้อยละ 8.10 ของเนื้อที่เพาะปลูกทั้งหมด สำหรับพื้นที่ไม่เหมาะสม (S3,N) ของการปลูกข้าวจังหวัดพิจิตร สามารถปรับเปลี่ยนไปปลูกสินค้าอื่น ได้ดังนี้

ทางเลือกที่ 1 การปรับเปลี่ยนพื้นที่ไม่เหมาะสมสำหรับการปลูกข้าวเป็นพื้นที่เหมาะสมสำหรับการปลูกอ้อยโรงงานทดแทน พบว่า การปลูกข้าวในพื้นที่ไม่เหมาะสมจะให้ผลตอบแทนสุทธิไร่ละ 1,002.76 บาท หากปรับเปลี่ยนไปปลูกอ้อยโรงงานจะได้ผลตอบแทนสุทธิไร่ละ 3,841.52 บาท

ทางเลือกที่ 2 การปรับเปลี่ยนพื้นที่ไม่เหมาะสมสำหรับการปลูกข้าวโดยปลูกมะพร้าวทดแทน พบว่าการปลูกข้าวในพื้นที่ไม่เหมาะสมจะให้ผลตอบแทนสุทธิไร่ละ 1,002.76 บาท หากปรับเปลี่ยนไปปลูกมะพร้าวจะได้ ผลตอบแทนสุทธิ 5,393.21 บาท ทั้งนี้ หากสนใจข้อมูลผลการสำรวจ สามารถขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติมและคำแนะนำได้ที่ส่วนแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจการเกษตร สศท.12 โทร. 056 803 525 หรือ อีเมล [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน