บันยัน กอล์ฟ คลับ หัวหิน สนามกอล์ฟระดับเวิลด์แชมป์เปี้ ยนชิพ ขนาด 18 หลุม ระยะรวม 7,361 หลา พาร์ 72 ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 400 ไร่ โอบล้อมด้วยภูเขา การจัดวางเลย์เอาท์ของสนามแห่ งนี้จึงทอดตัวยาวขนานไปกับแนวทิ วเขา โดยมีร่องน้ำธรรมชาติไหลผ่าน มีเนินเขาขนาดย่อม สลับกับแปลงสับปะรดพืชพันธุ์ดั้ งเดิมของหัวหิน และมีจุดที่สามารถมองเห็นท้ องทะเลหัวหินได้อย่างงดงาม ณ หลุมที่ 15 ระยะ 139 หลา พาร์ 3 ถือเป็นอีกหนึ่งความพิเศษของบั นยัน กอล์ฟ คลับ ซึ่งออกแบบโดยคุณพิรพน นะมาตร์ หรือคุณโอ๊บ สถาปนิกสนามกอล์ฟชื่อดังของเมื องไทยจากบริษัท กอล์ฟ อีสท์ ที่ดีไซน์ให้สนามดูกลมกลืนไปกั บธรรมชาติโดยรอบ นอกจากความสวยงามแล้ว สิ่งหนึ่งที่บันยัน กอล์ฟ คลับ หัวหิน ได้รับการยอมรับจากนักกอล์ฟ นั่นคือ สภาพแวดล้อมของสนามที่ได้รั บการดูแลอย่างเป็นพิเศษจากผู้ เชี่ยวชาญ โดยมีเป้าหมายหลัก นอกจากเพื่อสร้างความมั่นใจให้ กับนักกอล์ฟในเรื่ องมาตรฐานของสนามระดับแชมป์ เปี้ยนชิพแล้ว ยังมุ่งเน้นการดูแลรักษาสิ่ งแวดล้อมอย่างยั่งยืน อีกด้วย
คุณมีนชัย ศรีจรรยา ผู้จัดการฝ่ายดูแลรักษาสนามกอล์ ฟ บันยัน กอล์ฟ คลับ หัวหิน ผู้เชี่ยวชาญการดูแลสนามกอล์ ฟระดับโลก จากการเป็นตั วแทนคนไทยคนแรกและคนเดี ยวในการเข้าร่วมดูแลสนามการแข่ งขัน The Open ครั้งที่ 146 ณ สนามกอล์ฟรอยัล เบิร์คเดล ประเทศอังกฤษ เปิดเผย ว่า บันยัน กอล์ฟ คลับ หัวหิน ให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่ งแวดล้อมของสนามมาอย่างต่อเนื่ อง โดยมีหลักการสำคัญ คือ การอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน จากที่ตั้งของสนามที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ดังนั้น การบริหารจัดการดูแลสนามของเรา จะอยู่บนพื้นฐานของการเป็นมิ ตรกับสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ไม่ทำลายระบบนิเวศน์ เราจึงพบกับวงจรชีวิตที่ หลากหลายของสัตว์ที่พึ่งพาอาศั ยกันในพื้นที่โดยรอบ ตลอดจนให้ความสำคัญกับการใช้ทรั พยากรอย่างคุ้มค่าเกิดประโยชน์ อย่างสูงสุด
ในด้านการดูสิ่งแวดล้อม นั้น เราใช้แนวคิดธรรมชาติรักษา คือ นอกจากการให้สิ่งมีชีวิตได้ดู แลและควบคุมกันตามกลไกธรรมชาติ แล้ว เรายังเลือกใช้สารสกั ดจากธรรมชาติ เพื่อลดปริมาณการใช้สารเคมี ทั้งยาฆ่าแมลง ยาปราบศัตรูพืช ให้น้อยที่สุด โดยเฉพาะการดูแลหญ้า ซึ่งถือเป็นหัวใจของสนามกอล์ฟ เริ่มต้นตั้งแต่การคัดเลื อกสายพันธุ์ของหญ้าที่เราจะคำนึ งถึงความเหมาะสมต่อสภาพดิน สภาพอากาศ เพื่อลดการใช้สารเคมีในการดู แลรักษา ซึ่งแต่ละพื้นที่ของสนามจะเลื อกใช้หญ้าที่แตกต่างกัน โดยแท่นที (Teeing Grounds) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นเล่นในแต่ ละหลุมจะใช้หญ้าพาสพาลั่ม เป็นหญ้าที่มีสีเขียวเข้มกว่าหญ้าชนิดอื่น ใบใหญ่อวบน้ำ สามารถฟื้นฟูตัวเองให้กลับมาอยู่ ในสภาพที่แข็งแรงได้เพียง 3-4 วัน แฟร์เวย์ (Fairway) และ รัฟ (Rough) ใช้หญ้าไซโอเซียหรือหญ้านวลน้อย ที่มีใบแข็งแผ่ขยายโดยลำต้นบนดิ นและใต้ดิน ดูแลง่าย กินน้ำน้อย ทนโรคแมลงจึงช่วยลดการใช้ สารเคมีได้อีกทางหนึ่ง สำหรับ กรีน (Putting Green) ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดในการเล่ นในแต่ละหลุม ใช้หญ้าเบอร์มิวด้าทิฟ อีเกิ้ล ที่มีใบและ ลำต้นเรียวเล็ก ตอบสนองต่อการให้ปุ๋ยได้ดี โดยวางโปรแกรมการดูแลไว้ชัดเจน เน้นการดูแลก่อนเกิดโรคเป็นหลัก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดู ดซับธาตุอาหารของพืช (Pre Program) สร้างความแข็งแรงให้แก่พืช การแก้ปัญหากรณีการเกิ ดโรคและแมลง (Post Program) รวมถึงการเพิ่มอากาศในดินเพื่ อให้หญ้าสามารถเจริญเติบโตและดู ดซึมสารอาหารได้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนการสังเกตต้นเหตุ ของการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ เพื่อแก้ไขปัญหา และปรับใช้ให้เหมาะกั บโปรแกรมการบำรุงรักษาที่ วางแผนไว้ โดยมีเป้าหมายสู่การเป็ นสนามกอล์ฟ Zero Chemical เป็นสนามกอล์ฟที่ปลอดจากสารเคมี อย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญต่อตั วผู้เล่น ด้วยการหลีกเลี่ยงการปฏิบัติ งานที่อาจส่งผลกระทบต่ อเกมการเล่น เช่น การเลือกบำรุงรักษาในช่ วงเวลาเช้ามืด และหัวค่ำ อีกด้วย
สำหรับการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้ มค่านั้น บันยัน กอล์ฟ คลับ ใช้น้ำที่ไหลจากธรรมชาติ และมีแหล่งเก็บน้ำสำหรับรองรั บน้ำฝนที่ตกในพื้นที่ไว้ใช้ โดยได้นำเทคโนโลยีไร้สาย GPS เป็นเครื่องมือเข้ามาช่ วยในการดูแลสนามกอล์ฟ เรียกว่า POGO ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้วัดค่าต่างๆ ในการจัดการสนามกอล์ฟ เช่น วัดระดับความชื้นที่เหมาะสมกั บสภาพพื้นที่,ธาตุอาหารในดิน, ปริมาณน้ำ, อุณหภูมิ หรือการตรวจสอบสภาพอากาศ ทำงานพร้อมแอพพลิเคชั่นในสมาร์ ทโฟน หรือเว็บไซต์ที่ สามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา โดยระบบดังกล่าวนี้ช่วยให้ คำนวณการใช้น้ำได้ดี และแม่นยำขึ้น จึงทำให้การบริหารจัดการน้ำได้ อย่างมีประสิทธิภาพ และจัดสรรการใช้น้ำได้อย่างคุ้ มค่าตลอดทั้งปี
พบกับประสบการณ์ระดับแชมป์ ในสนามมาตรฐานระดับโลก กับการดูแลสนามจากผู้เชี่ ยวชาญระดับโลกได้ที่บันยัน กอล์ฟ คลับ หัวหิน โทรศัพท์ 032-616-200 หรือ reservations@banyanthailand. com