ดาตุ๊ก ซรี โจฮารี กาห์นิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนที่สองของมาเลเซีย กล่าวว่า "มาเลเซียและไทยเป็นคู่ค้าสำคัญ ซึ่งมียอดการค้ารวมกว่า 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2559 สะท้อนถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ในการเดินทางมาในครั้งนี้ เรามุ่งหวังที่จะพัฒนาต่อยอดความร่วมมือทางการค้าและการลงทุน รวมทั้งกระชับความสัมพันธ์ระหว่างมาเลเซียและไทยที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีก นับเป็นโอกาสอันดีที่เราได้เข้าร่วมหารือกับนายกรัฐมนตรีไทยและคณะรัฐมนตรี และแจ้งให้ทราบว่ามาเลเซียพร้อมต้อนรับการเข้ามาของนักลงทุนไทย ซึ่งการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศนี้เป็นนิมิตหมายอันดีต่อความสำเร็จของการรวมตัวกันของประเทศในอาเซียนอีกด้วย จากการก่อตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เรามุ่งมั่นที่จะเปิดตลาดให้กว้างขึ้น สร้างโอกาสเพิ่มเติม รวมถึงกำจัดกำแพงทางการค้า และส่งเสริมธุรกิจท้องถิ่นให้ก้าวสู่ระดับภูมิภาคและระดับโลกมากยิ่งขึ้น"
เต็งกู ดาโต๊ะ ศรี ซาฟรูล์ อาซิส ประธานชมรม KLBC กล่าวว่า "ขณะที่ตลาดโลกเริ่มตระหนักถึงบทบาทสำคัญของเศรษฐกิจอาเซียน มาเลเซียและไทยซึ่งมีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในภูมิภาคและเป็นเพื่อนบ้านที่มีสัมพันธภาพทางการฑูตมายาวนานถึง 60 ปี พร้อมที่จะเติบโตสอดรับกับเศรษฐกิจอาเซียนที่เติบโตเต็มศักยภาพ ทั้งนี้ ชมรม KLBC ขอร่วมมีส่วนสร้างโอกาสให้ผู้นำองค์กรชั้นนำต่าง ๆ จากทั้งสองประเทศได้ร่วมแบ่งปัน ค้นหา และหารือโอกาสทางธุรกิจใหม่ระหว่างสองประเทศ"
เต็งกู ซาฟรูล์ ยังได้เข้าร่วมกิจกรรมในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มซีไอเอ็มบี ซึ่งร่วมกับสถาบันผู้นำและกลยุทธ์อาเซียน (Asian Leadership and Strategy Institute: ASLI) ของมาเลเซีย สภาธุรกิจมาเลเซีย-ไทย และสภาธุรกิจไทย-มาเลเซีย จัดการประชุมทางธุรกิจในวันที่ 14 กันยายน โดยมีผู้นำธุรกิจชื่อดังจากทั้งสองประเทศเข้าร่วมงานและแบ่งปันทัศนะเกี่ยวกับการพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างมาเลเซียและไทย รวมถึงความท้าทายและโอกาสที่ได้รับจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของอาเซียน รวมถึงอิทธิพลของโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) ของจีนในการหล่อหลอมเศรษฐกิจโลกใหม่ และผลักดันเศรษฐกิจอาเซียนให้เติบโตไปอย่างมีพลวัต
กิจกรรมทางธุรกิจในครั้งนี้ยังรวมถึงการเข้าเยี่ยมตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และพิพิธภัณฑ์เรียนรู้การลงทุน ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์เรียนรู้การลงทุนแห่งแรกของไทย