ไอเอฟเอส เข้าซื้อกิจการ เวิร์คเวฟ ขยายบทบาทการเป็นผู้นำด้านการบริหารจัดการบริการ

พฤหัส ๐๕ ตุลาคม ๒๐๑๗ ๑๓:๐๕
ปัจจุบันไอเอฟเอสอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นอย่างมากในการนำเสนอโซลูชั่นซอฟต์แวร์ชั้นนำระดับโลกด้านการบริหารจัดการบริการเพื่อสนับสนุนธุรกิจด้านการบริการ โดยไม่คำนึงถึงขนาดขององค์กร ระดับความยุ่งยากในการดำเนินงาน ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง หรือตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์

ไอเอฟเอส ซึ่งเป็นบริษัทระดับโลกด้านแอพพลิเคชั่นสำหรับองค์กร เปิดเผยว่าบริษัทได้ลงนามในข้อตกลงการเข้าซื้อกิจการของบริษัท เวิร์คเวฟ แอลแอลซี (WorkWave LLC) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยบริษัท เวิร์คเวฟ เป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชั่นซอฟต์แวร์ในรูปแบบบริการหรือซอฟต์แวร์ แอส อะ เซอร์วิส (Software-as-a-Service (SaaS)) บนระบบคลาวด์ที่สามารถปรับขยายได้ในระดับสูงและพร้อมให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมด้านการบริการภาคสนาม การจัดส่งสินค้า และโลจิสติกส์ นอกจากนี้ บริษัท เวิร์คเวฟ ยังมีฐานลูกค้าเป็นองค์กรธุรกิจบริการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มบี) ในตลาดที่หลากหลาย อาทิ งานบริการเฉพาะทางด้านการกำจัดแมลง การจัดสวนและการตัดหญ้า การทำความสะอาดและการดูแลอาคาร ระบบทำความร้อน/ระบายอากาศ/ปรับอากาศ การวางท่อและระบบไฟฟ้า รวมถึงการขนส่ง

โซลูชั่น ซอฟต์แวร์ แอส อะ เซอร์วิส (SaaS) ของบริษัท เวิร์คเวฟ ผสานรวมการทำงานของฝ่ายสนับสนุนขององค์กรเข้ากับฝ่ายบริการภาคสนามได้อย่างราบรื่น ช่วยให้องค์กรธุรกิจบริการขนาดกลางและย่อมสามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กับงานด้านการสนับสนุนของตน เช่น การจัดกำหนดการ การวางแผน และการเรียกเก็บเงิน ทั้งยังช่วยเพิ่มความสามารถในการมองเห็นการทำงานภาคสนามและยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน รวมทั้งสร้างระบบการขายและการตลาดในรูปแบบอัตโนมัติ ด้วยเหตุนี้ ลูกค้าของบริษัท เวิร์คเวฟ จึงสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน สร้างรายได้ และเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างสัมฤทธิผล

บริษัท เวิร์กเวฟ มีสำนักงานใหญตั้งอยู่ในเมืองโฮล์มเดล มลรัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริก โดยมีพนักงาน 260 คนที่พร้อมให้บริการลูกค้ามากกว่า 7,300 รายที่มีสำนักงานตั้งอยู่ภายในสหรัฐอเมริกาเป็นส่วนใหญ่ และจากการผสานรวมความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม เทคโนโลยีอันทันสมัย และการให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้าเป็นหลัก ทำให้บริษัท เวิร์คเวฟ ได้รับรางวัลมากมายจากความสามารถในการขยายธุรกิจและมีวัฒนธรรมองค์กรที่ดีเยี่ยม ซึ่งรางวัลดังกล่าวรวมถึง อิงค์ 5000 (บริษัท 5000 อันดับที่มีการเติบโตสูงสุด) และ เบสท์ เพลส ทู เวิร์ค (Best Places to Work) หรือบริษัทที่น่าทำงานด้วยมากที่สุด เป็นต้น

นายเฟรดริก วอม โฮเฟ รองประธานอาวุโสของกลุ่มการพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไอเอฟเอส ให้ความเห็นว่า "การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ตอกย้ำให้เห็นอย่างชัดเจนว่าบริษัท ไอเอฟเอส ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องในการขยายบทบาทการเป็นผู้นำระดับโลกด้านการบริหารจัดการบริการ โดยบริษัท เวิร์คเวฟ มีข้อเสนอด้านซอฟต์แวร์ แอส อะ เซอร์วิส ที่แข็งแกร่งอย่างมากและมีองค์ความรู้มากมายแนวทางการให้บริการองค์กรธุรกิจบริการขนาดกลางและย่อม สิ่งนี้จะเข้ามาเสริมความสมบูรณ์ให้กับข้อเสนอด้านการบริหารจัดการบริการชั้นนำที่ไอเอฟเอสมีให้บริการสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจด้านการบริการเป็นหลักอยู่แล้วในปัจจุบัน ปัจจุบันเรามีโซลูชั่นการบริหารจัดการบริการที่ครบวงจรและพร้อมให้บริการเชื่อมต่อออนไลน์อย่างครอบคลุมสำหรับองค์กรด้านการบริการในทุกรูปแบบ รวมถึงอุตสาหกรรมที่เน้นด้านงานบริการโดยเฉพาะและเป็นองค์กรระดับโลก! นอกจากนี้ เรายังมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งอย่างมากในอเมริกาเหนือ ซึ่งถือเป็นตลาดซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งหมายความว่าในตอนนี้ตลาดอเมริกาคือภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดสำหรับกลุ่มบริษัทไอเอฟเอส" และกล่าวเสริมด้วยว่า "เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับคริส ซัลเลนส์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) และทีมงานของเวิร์คเวฟที่เปี่ยมด้วยความสามารถ โดยเราจะร่วมกันเดินหน้าผลักดันองค์กรให้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในตลาดด้านการบริหารจัดการบริการ"

นายคริส ซัลเลนส์ ซีอีโอบริษัท เวิร์คเวฟ กล่าวว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่ได้ร่วมงานกับทีมงานของไอเอฟเอสและหวังว่าจะได้มีส่วนร่วมในการสร้างองค์กรให้เติบโตในอุตสาหกรรมด้านการบริการภาคสนาม โลจิสติกส์ และอื่นๆ นี่ถือเป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมสำหรับลูกค้า คู่ค้า และพนักงานของเรา" และกล่าวเสริมว่า "ขณะนี้เรามีโอกาสในการใช้ทรัพยากรขององค์กรชั้นนำด้านซอฟต์แวร์การบริหารจัดการบริการ ตลอดจนจะยังคงลงทุนและนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการชั้นเลิศให้กับลูกค้าหลักของเราในด้านการกำจัดแมลงและตลาดเฉพาะทางด้านการบริการภาคสนามอื่นๆ สืบต่อไป การรวมข้อเสนอของเราเข้าด้วยกันจะช่วยให้องค์กรธุรกิจบริการในทุกขนาดสามารถแก้ปัญหาด้านการดำเนินงานและการขยายตัวผ่านโซลูชั่นซอฟต์แวร์ชั้นนำของตลาดได้อย่างเห็นผล"

ทั้งนี้เป็นที่คาดกันว่าการดำเนินการเข้าซื้อกิจการจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2560 อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงทางการเงินในการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ยังไม่ได้รับการเปิดเผยแต่อย่างใด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๐ เม.ย. COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๓๐ เม.ย. GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๓๐ เม.ย. PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๓๐ เม.ย. LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๓๐ เม.ย. ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๓๐ เม.ย. ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๓๐ เม.ย. LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๓๐ เม.ย. SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๓๐ เม.ย. STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๓๐ เม.ย. กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน